ที่เที่ยวกัมพูชา นครวัด Angkor Wat เมืองเสียมราฐ มรดกโลก กัมพูชา กว่าพันปี
ตามเรามา เที่ยวกัมพูชา 1 วัน ชมความงามของ มรดกโลก นครวัด Angkor Wat เสียมราฐ ไปดูกันว่า ภายในระยะเวลา 1 วัน เราสามารถเที่ยวปราสาทได้กี่แห่ง ถ้าพร้อมแล้ว ก็ใส่รองเท้าผ้าใบดีๆ สักคู่ แล้วตามเราไปกันเลย!
เที่ยวกัมพูชา 1 วัน นครวัด เสียมราฐ
มรดกโลกกัมพูชา ต้องไปเยือนสักครั้ง
วันนี้เราได้เริ่มออกเดินทางโดยรถบัส จาก พนมเปญ ไป เสียมราฐ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวก็คือ การไปเข้าชมมรดกโลกอย่าง นครวัด (Angkor Wat) นั่นเอง
เราได้ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงในการเดินทาง ตอนนี้ก็ 12.30 น. เราก็ได้มาเหยียบเมืองเสียมราฐจริงๆ สักที เย้! เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของนครวัด และกลุ่มปราสาทหินอื่นๆ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ หรือเป็นที่รู้กันในนามว่า ทะเลสาบเขมร โดยแต่ละปีก็มีเหล่านักท่องเที่ยวแห่เข้ามาชมมากมายกว่าล้านคนต่อปีเชียวนะ ดังนั้น คนไทยอย่างเรา อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงในกลุ่ม อาเซียน แท้ๆ จะพลาดไปได้ยังไง!
แต่ก่อนจะไปเข้าชมนครวัด และปราสาทหินอื่นๆ เราก็ต้องซื้อ ทัวร์พิเศษ แบบ One Day Trip กันก่อน ซึ่งในตัวเมืองเสียมราฐ ก็จะมีบริษัททัวร์เยอะแยะมากมายให้ทุกคนได้เลือก มีหลายระดับราคา แต่ถ้าไม่ชอบฟีลทัวร์ล่ะก็ ทุกคนสามารถลุยเองได้อีกด้วย แต่อาจจะต้องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยาน เข้าไปเยี่ยมชมด้านใน
ตั๋วเข้าชม นครวัด
สำหรับเราด้วยเวลาไม่มากเลยขอเลือกไปทัวร์แบบ 1 วัน ซึ่งพอดีลกับทัวร์ได้แล้ว มันก็ยังไม่ได้จบเพียงเท่านี้นะครับ ! เราจะต้องลงไปถ่ายรูปทำบัตรเข้าชมกันก่อน บอกเลยว่าทุกอย่างผ่านไปไวมาก ต่อแถวงงๆ รู้ตัวอีกที ก็โดนถ่ายรูป และได้บัตรออกมาแล้ว
จะบอกว่าก่อนจะได้เข้าไปชมนครวัดกันแบบฟินๆ เต็มตา เราก็ต้องแวะที่จุดเปลี่ยนรถกันก่อนอีกด้วย ซึ่งทางรัฐบาลกัมพูชาได้มีข้อกำหนดออกมาว่า การจะเข้าชมภายในพื้นที่นครวัด และปราสาทหินอื่นๆ จะต้องนั่งรถบัสคันเล็ก จำนวนที่นั่งประมาณ 25 ที่นั่ง เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะเนื่องจากป้องกันพื้นที่บริเวณนั้นทรุดตัว จนอาจส่งผลต่อปราสาทหิน นั่นเอง
เรามีเวลาเพียงครึ่งวัน ในการเที่ยวนครวัด ดังนั้นแพลนที่เราวางไว้ จะขอเริ่มจากจุด ปราสาทตาพรหม แล้วต่อด้วย ปราสาทบายน และไปจบที่ ปราสาทนครวัด ครับ
ปราสาทตาพรหม
สำหรับ ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm Temple) ถ้าใครที่เป็นแฟนคลับจากภาพยนตร์ชื่อดังระดับฮอลลีวูดเรื่อง Tomb Raider จะต้องคุ้นเคยที่นี่เป็นอย่างดี ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่ถูกทิ้งร้างมานานถึง 500 ปี สร้างขึ้นในปี พ.ศ.1729 ถือเป็นปราสาทหินในยุคสุดท้ายของอาณาจักรขอม
ปราสาทตาพรหมในสมัยก่อน ถือเป็นสถานที่สำคัญของทางพุทธศาสนา เพราะกษัตริย์ได้มีการสนับสนุนให้มีการสร้างที่แห่งนี้เป็นวัดในศาสนาพุทธ
ภายในตัวปราสาทจะมีภาพแกะสลักที่สะท้อนให้เราได้เห็นถึงเรื่องราวทางพุทธประวัตินิกายมหายานอีกด้วย รวมไปถึงไฮไลท์ในการมาที่นี่ ก็เพื่อมาชมมุมปราสาทจุดนึง ที่มีต้นไม้ใหญ่ ขึ้นแทรกตัวระหว่างปราสาทหิน อย่างน่าอัศจรรย์ แถมจุดนี้ก็ยังเป็นจุดถ่ายรูปประจำนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ปราสาทบายน
เมื่อเราได้เดินเล่นชมปราสาทตาพรหม กันจนรู้สึกพอแล้ว ก็นั่งรถบัสไปกันต่อ ที่ ปราสาทบายน (Bayon Temple) โดยปราสาทบายนตั้งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทตาพรหมมากนัก ที่นี่ถือเป็นปราสาทหินของอาณาจักรเขมร และยังตั้งอยู่ใจกลางของ นครธม (Angkor Thom) สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในจะมีรูปร่างลักษณะพิเศษ และน่านใจมาก
แต่ที่เราสะดุดตาจริงๆ ก็คงจะเป็นหอรูปหน้าหันสี่ทิศ จำนวน 49 หอ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 37 หอแล้วล่ะครับ รวมไปถึงบริเวณเสา และฝาผนังก็ยังมีภาพแกะสลักที่เล่าเรื่องราวของอาณาจักรเขมร สมัยกว่า 1,000 ปีที่แล้ว อีกด้วย
ปราสาทนครวัด
มาถึงไฮไลท์ จุดสุดท้ายของวันนี้แล้วที่ ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) ที่เราใฝ่ฝันว่าอยากมาสักครั้งในชีวิต จนตอนนี้มันก็มาถึงแล้ว! ปราสาทนครวัด เปรียบเสมือนวิมานของเทพเจ้าสูงสุดที่บรรจงชะลอลงมาประดิษฐานไว้ในโลกมนุษย์ และที่จุดแห่งนี้ยังถือเป็นจุดสำคัญที่สุดในพื้นที่เขตนครวัด
ที่นี่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1650 โดย พระเจ้าสุริยชัยวรมันที่ 2 ถวายเป็นพุทธบูชา สิ่งที่เราชื่นชอบมากๆ ในปราสาทแห่งนี้ ก็คือ การเดินชมรูปสลักนางอัปสรจำนวนนับหมื่นองค์ แถมนครวัดยังเป็น 1 ใน 10 อันดับ สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในอาเซียนอีกด้วย
ตำนานนครวัด กัมพูชา
ตามตำนานในสมัยก่อนนั้น การก่อสร้างปราสาทนครวัด ได้สร้างขึ้นตามคำสั่งของพระอินทร์ ซึ่งต้องการสร้างปราสาทนี้ให้เป็นวังที่ประทับของพระโอรสของพระองค์ โดยบางตำรายังกล่าวถึงความเชื่อที่ว่า ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นโดยเทพแห่งสถาปัตยกรรมศาสตร์ในเวลาเพียงหนึ่งคืน!
นอกจากจะได้ชมรูปสลักนางอัปสร จำนวนมากทั่วนครวัดแล้ว บริเวณด้านในก็ยังมีภาพแกะสลักนูนต่ำที่ใหญ่โต รวมถึงภาพเทวดาที่มีการตกแต่งตามผนังเป็นจำนวนมาก ซึ่งรับรองเลยว่าทุกคนจะต้องร้อง ว้าว ! อย่างแน่นอน
เราได้มีโอกาสขึ้นบันไดไปชมวิว และกราบไหว้พระ ที่จุดสูงสุดของปราสาทนครวัดอีกด้วย แม้บันไดจะสูง และชันแค่ไหน แต่การได้ขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว ทุกคนจะหายเหนื่อยทันที เพราะมันสวย งดงามมาก วิวที่ทุกคนจะได้เห็น ก็คือ พื้นที่ล้อมรอบทั้ง 4 ทิศ ของปราสาทนครวัด นั่นเองครับ แต่ถ้าหากใครอยากจะขึ้นไปด้านบนล่ะก็ ต้องรีบกันหน่อยนะครับ เพราะทางเจ้าหน้าที่จะเปิดให้ขึ้นชมถึงเวลา 17.30 น. ทุกวัน
และแล้วก็จบกันไปอีกหนึ่งวัน สำหรับการเดินเล่น ชมนครวัด เสียมราฐ เราค่อนข้างประทับใจที่นี่เป็นอย่างมาก และสัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอน ส่วนใครที่ชื่นชอบพวกปราสาทหินต่างๆ หรือมรดกโลก ควรมาที่นี่สักครั้งในชีวิต บินไม่ไกลจากไทย สามารถมาลงที่สนามบินเสียมราฐได้เลยอีกด้วยครับ