สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนวันนี้ Trueid Rabbbitland อยากมาแชร์ประสบการณ์ฝึกงานบนเรือเฟอร์รี่ที่ภูเก็ตแล้วเจอคลื่นสูง5เมตร เพื่อเป็นแนวทางเผื่อเพื่อนๆเจอเหตุการณ์บนเรือจะได้เพิ่มความปลอดภัยให้ตนเอง เพราะการที่เราอยู่บนเรือในน้ำทะเลนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมีสิทธิ์อันตรายถึงชีวิตวันนี้เราจึงอยากมาเล่าแชร์ประสบการณ์การฝึกงานและเก็บบทความนี้เป็นความทรงจำที่ครั้ง1เราอยู่กลางทะเจอคลื่นสูง5เมตร ก่อนที่เราจะมาฝึกงานที่ภูเก็ตเราก็เลือกไว้หลายที่แต่เราก็ฝึกประสบการณ์ต่างๆจากรุ่นพี่ เราเรียนสายภาษา เอกภาษาอังกฤษเราคิดว่าอยากหาที่ฝึกงานที่ได้ใช้ได้ฝึกภาษาจริงๆ เรากับเพื่อนจึงตกลงกันไปฝึกงานที่ๆรุ่นพี่เคยไปฝึกกับบริษัทท่องเที่ยวเดินเรือข้ามฝากไปเกาะPhi Phiแห่งหนึ่งที่ภูเก็ต เราคิดแค่ว่าอยากได้ประสบการณ์ชีวิตก็ตัดสินใจลงไปโดยที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะผจญภัยขนาดนี้ จากเด็กอีสาน ต้องมาขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ความรู้สึกแบบ omg! มากตื่นเต้นๆสุดๆและสนุกมากๆด้วย เรามองออกมาจากหน้าต่างเครื่องบินเห็นเมฆสีขาวยังกะปุยนุ่นมันสวยจริงและแสงที่สาดส่องผ่านเมฆเป็นอะไรที่ประทับใจมากๆพอถึงสนามบินภูเก็ตพวกเราและเพื่อนก็พากันเหมารถไปส่งท่าเรือ โดยแบบลืมคิดว่าถ้าถึงแล้วต้องไปที่ไหนทำอะไรก่อน รู้แค่ฝึกงานที่ท่าเรือก็ตรงดิ่งไปเลย เป็นความโก๊ะมากๆ แต่พี่บริษัททัวร์ที่เราไปทำก็ใจดีมากๆบอกให้พวกเราเข้าไปออฟฟิศส่งเอกสารฝึกงาน และช่วยหาที่พักให้ เราได้ที่พัก2ห้อง อยู่กันห้องละ2คน ค่าครองชีพที่ภูเก็ตแพงมากๆ ค่าห้องเราจำได้รางๆว่าประมาณ4k และค่าอาหารตามสั่งก็ราว50-60ต่อ1จานและก็ต้องเช่ารถเพื่อเดินทางไปฝึกงานที่ท่าเรือ เราก็จำไม่ได้ว่าเช่ากี่บาทแต่น่าจะราคาทั่วไปตามเมืองภูเก็ต วันแรกที่ไปฝึกงานเราตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยขึ้นเรือมาก่อน ต้องไปที่ท่าเรือ รัชดา งานที่เราฝึกคือผู้ช่วยไกด์ และหน้าที่อยู่ที่ท่าเรือก็คือคอยดูติดสติ๊กเกอร์ให้ลูกค้า ตามที่ลูกค้าบุ๊กกิ้งมา จะมีประเภท one way คือเดินทางไปแค่ขาไปอย่างเดียว ซึ่งส่งนมากจะเป็นลูกทัวร์ที่เป็นวัยรุ่นแบ็คแพ็ก และก็แบบที่2 คือแบบขาไปและขากลับ ที่เป็นลูกค้าเหมาแพ็คเก็จมา และแบบที่3 คือแบบvip ก็คือเหมาแพ็จเก็จแบบ vipมาจะแยกโซนนั่งในห้องเรือวีไอพี พอลูกทัวร์เช็คอินที่ท่าเรือเสร็จ เราก็จะขึ้นมาทำหน้าที่บนเรือ โดยแรกๆเราจะคอยดูและสังเกตพี่ไกค์ว่าเขาทำอะไรบ้าง และเค้ามีทริคคุยกับลูกค้าแบบไหนบ้าง แรกๆก็ตื่นเต้นสุดๆ แต่การขึ้นเรือครั้งแรกก็ใช่ว่าจะไม่เจอเรื่องแย่ เพราะการที่เราเป็นคนที่อยู่บนบกตลอดแล้วมาขึ้นเรือที่มันโคลงเคลงไปมา ไม่มีทางที่จะไม่มีอาการเมาเรือ คือเพื่อนที่มาด้วยเมาเรือหนักมาก วิงเวียนหัวกันไปเลยทีเดียวจ้า แต่เราดีหน่อยที่เราไม่เมา เรามีทริคนะว่าทำไมไม่เมาแบบไม่กินยา ก็คือช่วงเช้าอย่าปล่อยท้องว่าง และอย่ากินอิ่มจนเกินไป และตอนขึ้นเรือให้หายใจเข้าออกช้าๆจะช่วยให้รักษาสมดุลร่างกายจึงทำให้ไม่เมาเรือและก็ควรออกมาสูดอากาศออกซิเจนให้เต็มปอดบนดาดฟ้าเรือก็จะวิวสวยๆที่มันดีต่อใจสุดๆหลังจากเวลาสังเกตการณ์สักพัก เราก็ต้องลงมือทำด้วยตัวเอง โดยงานหลักๆคือการบริการลูกทัวร์โดยการเป็นผู้ช่วยไกค์เราก็ต้อง มีการพูดคุยเกี่ยวกับทัวร์และกิจกรรมทั้งหมดของแพ็จเก็จให้ลูกทัวร์ฟัง โดยเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และคือพาร์ทที่เราชอบที่สุด แรกๆเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สำเนียงก็แย่ ก็โดนตำหนิ มาบ้างแต่เราก็พยายามฝึกฝน และพยายามสื่อสารให้ได้มากที่สุด และก็เป็นผลดีมากๆและเราก็ได้รู้เลยว่า ถ้าอยากพัฒนาภาษา คือต้องเกิดการสื่อสารเพราะการสื่อสารจะทำให้เราได้ใช้คำศัพท์ต่างๆและได้ฝึกสำเนียงการพูดไปด้วย หลังจากอธิบายทัวร์เสร็จเราก็ไปช่วยบริการลูกทัวร์ตามจุดต่างๆ ถ้าลูกทัวร์มีปัญหาข้อสงสัย หรือต้องการอะไร เราก็สามารถช่วยเหลือลูกทัวร์ได้แต่ถ้าเกินขอบเขตหน้าที่เรา เราก็สามารถไปแจ้งพี่ไกค์เข้ามาดูแลลูกทัวร์ได้อีกทาง และเมื่อเดินทางไปถึงเกาะพีพีจุดท่าเรือเกาะพีพีเราก็จะต้องนำลูกทัวร์ที่มาจากบริษัททัวร์ของเราไปยังโรงแรมของบริษัททัวร์เพื่อรับประทานอาหาร และเราชอบบริษัททัวร์ตรงที่เราได้ทานอาหารกลางวันฟรีนี้แหละมันดีมากๆ เพราะที่เกาะพีพีค่าครองชีพสูงกว่าที่ภูเก็ตมากๆ และระหว่างนี้ลูกทัวร์ก็แยกย้ายกันไปทำกิจกรรมพักผ่อนตามอัธยาศัย เราก็มีโอกาสไปหาถ่ายรูปวิวสวยๆตามเกาะพีพี ซึ่งเป็นวิวที่สวยและประทับใจมากๆเป็นอะไรที่ไม่เคยเห็นและมันดูสวยละลานตาไปหมดเลย เราเดินตามชายหาดสีขาวที่มีน้ำสีฟ้าครามใสจนเห็นพวกหอยในน้ำเลยทีเดียวและเราก็ขึ้นไปจุดบนสุดของเกาะ วิวพ้อยท์ ที่มองลงมาเห็นทะเลทั้งสองฝั่งเป็นวิวที่สวยมากๆและกิจกรรมในทริปยังไม่หมดเมื่อเรือถึงท่าเรือแล้วลูกทัวร์อยากไป snorkelingดำน้ำดูปะการัง ทางบริษัททัวร์ก็มีบริการซึ่งเราก็ได้มีโอกาสไปดำน้ำดูปะกาลัง หลังจากที่เสร็จงานเช่นกัน เป็นความประทับใจสุดๆโลกใต้น้ำมันอลังการและสวยมากๆไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เห็นในชีวิตเป็นอีกช่วงเวลาที่เราประทับใจมากๆในชีวิตและใช่ว่าจะเจอแต่เรื่องราวๆดีๆในทุกๆวันเพราะถ้าวันไหนที่เดินเรือแล้วมีพายุเข้ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ฝนตก ลมแรงแทบมองไม่เห็นอะไรเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ คลื่นทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ เสียงฝน เสียงฟ้าผ่า เสียงคลื่นทะเลปะทะกับเรือ และทะเลก็แทบมองไม่เห็นอะไรเพราะมีเม็ดฝนที่ตกกระหน่ำลงมาเรื่อยๆ ทุกอย่างมันปะดาเข้ามาทุกทางตอนนั้นเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมากๆในชัวิตเราที่เราคิดว่า เอ้ย!ผ่านมาได้ไงเนี่ย?ตอนนั้นเราได้แต่สวดมนตร์ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พ่อแม่คุ้มครองเลยทีเดียว อยากจะบอกทุกคนนะค่ะ สิ่งสำคัญ ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ ห้ามตื่นตระหนกเด็ดขาด ให้มีสติก่อนเสมอ และตรวจสอบตัวเองว่าใส่เสื้อชูชีพมีชำรุดหรือป่าว และพยายามอยู่ข้างตัวเรืออย่าเข้าไปในส่วนลึกเรือ คือสิ่งสำคัญ และเราดีใจมากที่ผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้เพราะตอนที่เราเข้าฝั่ง เราอยู่บนเรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ทีาการท่าอนุญาติให้ออกจากฝั่งได้ แต่เราก็ได้ทราบข่าวว่าเรือเล็กฝืนออกมาจากท่าเรือแล้วเกิดเรือล้ม ซึ่งมีการสูญเสียเกิดขึ้น เรารู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากบอกเพื่อนๆนะคะถ้าเรือเล็กการท่าไม่ให้ออกจากฝั่งแล้วฝืนออก ให้เพื่อนๆเซฟตัวเอง รักชีวิตตัวเองไว้ก่อนและไม่ควรขึ้นเรือโดยเด็ดขาด ประสบการณ์ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นที่เราผ่านและพบเจอมากับตัวเอง เป็นประสบการณ์ที่เราไม่มีวันลืมได้เลยและดีใจที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยอยู่บนเรือและเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้เราคิดว่าขนาดคลื่นทะเลที่ว่ารุนแรงท่ามกลางมรสุมเรายังผ่านมาได้ ต่อไปปัญหาชีวิตที่เป็นมรสุมถาโถมเข้ามาเราก็ต้องผ่านไปให้ได้เช่นกัน และถ้าเราเรื่องที่เราได้มาแชร์ประสบการณ์มีข้อความที่ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะจ้าเครดิตรูปปก ถ่ายรูป xiaomi by Rabbitlandเครดิตรูปถ่ายทั้งหมด by Rabbitlandส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้