“ไปทำไมหน้านี้ มันจะมีอะไรดู” เพื่อนบ่นอุบใหญ่ก่อนจะฟังผมกล่าวราวกับนักปรัชญาเอกอุว่า “ในความไม่มี มันมีอะไรอยู่แหละน่า” นั่นคือบทสนทนาแรกของเรา ที่ตอนต้นปีมั่วแต่จับเจ่าทำงานจนเลยเวลาสุดพีคในการไปเที่ยวดูดอกซากุระเมืองไทยหรือพญาเสือโคร่ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี เกือบเที่ยง พวกเราก็เดินทางมาถึงบ้านร่องกล้า หมู่บ้านสุดท้ายติดกับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ทุกคนจะต้องเตรียมเสบียง อันที่จริงก็แค่เครื่องดื่มไว้ดับกระหายและขนมเผื่อหิวขึ้นมาเท่านั้น และให้ทำธุระส่วนตัวทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่างเต็มที่ภายใน 1 ชั่วโมงก่อนจะขึ้นรถไปที่ภูลมโลเป็นสถานีต่อไป “อีก 9 กิโลเท่านั้น” ผมบอกเพื่อน ๆ ก่อนจะใส่เกียร์แล้วบึ่งรถขึ้นเขา ผ่านทุ่งหญ้า เนินเขา ป่าสน ไร่กำหล่ำปลี สวนสาลี่ ป่าหญ้า ป่าโปร่ง ป่าดิบชื้น จนมาถึงจุดไฮไลท์ที่จะต้องลงไปถ่ายรูปซะหน่อย นั่นก็คือจุดแบ่งเขตพื้นที่ระหว่างจังหวัดพิษณุโลกกับจังหวัดเลย จุดนี้เป็นร่องต่ำเชื่อมกันระหว่างเขาทำให้มีความชุ่มชื้น อากาศดีและสดชื่นมาก การได้หายใจรับออกซิเจนจากธรรมชาติ ทำให้รู้สึกดีจริง ๆ ความจริง “ภูลมโล” อยู่ในพื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย แต่ทางเข้าที่สะดวกและง่ายที่สุดก็คือ ขึ้นมาทางหล่มสัก-ภูทับเบิก-อุทยานภูหินร่องกล้า-บ้านร่องกล้า หรือใครไม่อยากขับรถขึ้นเขาสูงชันก็อ้อมไปเข้าทางอำเภอนครไทย-อุทยานภูหินร่องกล้า-บ้านร่องกล้า ก็ได้เช่นกัน หลังจากรถขับรถต่อไปได้อีกไม่นาน สองข้างทางที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นไม้ก็เริ่มจางลงบางลง ทางเป็นลูกรังผสมหินภูเขามากขึ้น รถเริ่มโยกและโคลงเคลงไปตามสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ พร้อมกับฝุ่นที่ล้อตะกุยขึ้นคลุมกระบะหลังจนแทบมองวิวด้านหลังไม่เห็น ต้นไม้ข้างทางดูแห้ง ๆ จนเพื่อนผมพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “ก็บอกแล้วว่า มาตอนนี้ จะมาดูอะไร” จีพีเอสแจ้งว่า เนินเขาด้านหน้าเป็นเนินสุดท้ายแล้ว จากนั้น พอเร่งเครื่องจนรถพุ่งขึ้นไปถึงยอดเนินเขาและเริ่มจะดิ่งลงอีกครั้ง ภาพที่เห็นคือ ที่ราบเนินเขาข้างหน้าเหมือนแยกเป็นสองโลก ด้านซ้ายมือเป็นทุ่งต้นพญาเสือโคร่งนับแสนต้นในพื้นที่หลายพันไร่ ยืนต้นแน่นขนัดบนเนินเขาสูงต่ำสลับติดต่อกันจนสุดลูกตา ขณะที่ฝั่งด้านขวามือ คือดอกหญ้าคาสีขาว ชูช่อยาวขึ้นไปบ้านฟ้าจนสุดขอบสายตา ปลิวไสวไปตามแรงลมเหมือนกำลังเริงระบำและก้อนหินน้อยใหญ่ที่เหมือนหมอบนิ่งอย่างมีความสุข นั่นคือ ภาพแรกที่แสนประทับใจเมื่อได้มาครั้งนี้ ผมกดชัตเตอร์รัว ๆ ตั้งใจเก็บภาพ บรรยากาศและความรู้สึกเอาไว้ในมากที่สุด พร้อมกับมองหน้าเพื่อนแล้วพูดว่า “ไงหล่ะ” การมาเที่ยวภูลมโลครั้งนี้ แม้จะรู้อยู่ตั้งแต่แรกว่า จะไม่มีโอกาสได้เห็นดอกพญาเสือโคร่ง แต่สิ่งที่เราคาดหวังว่าเราอาจจะได้เห็นอะไรสักอย่าง ในที่สุดเราก็ได้เห็นมัน นั่นคือ ความงดงามของดอกหญ้าคา เนินเขา ก้อนหินและธรรมชาติ ที่สำคัญคือความสงบเงียบ เป็นความรู้สึกที่เหมือนกับกว่าดงพญาเสือโคร่งทั้งดง ทุ่งดอกหญ้าคาทั้งทุ่ง ภูเขาทั้งลูกเป็นของเราเท่านั้น ซึ่งความรู้สึกแบบนี้จะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าเรามาในช่วงที่มีดอกพญาเสือโคร่งกำลังเบ่งบาน ก็เหมือนกับจังหวะชีวิตของเรานั่นเอง เพราะการจะได้บางอย่าง ก็ต้องยอมเสียบางอย่าง และการสูญเสียบางอย่างก็จะนำมาซึ่งการเติมเต็มบางอย่างเช่นกัน นี่แหละที่เรียกว่า “พลวัตแห่งชีวิต” ภูลมโล มีมากกว่าซากุระ มาเพื่อละ มาเพื่อภาวนา ดอกหญ้าคาสวย อัศจรรย์แห่งภูลมโล ธรรมชาติอันรุ่มรวย จิตเสริมช่วยเติมแต่งแฝงธรรมงาม ข้อควรทราบ 1. “ภูลมโล : ทุ่งดอกซากุระและดอกหญ้าคาหน้าแล้ง” อยู่ในเขตพื้นที่หมู่บ้านกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 2.เส้นทางที่สะดวกมี 2 เส้นทาง คือ 1)เข้าด้านจังหวัดพิษณุโลก ทางอำเภอนครไทย-อุทยานภูหินร่องกล้า-ภูลมโล 2)เข้าด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางอำเภอหล่มสัก-ทับเบิก-ภูลมโล คนส่วนใหญ่มักจะใช้เส้นทางที่ 2 เพราะสะดวกมากกว่า แต่ก็ต้องเสี่ยงกับการขับรถขึ้นเขาสูงชันช่วงหล่มสัก-ภูทับเบิก แต่ถ้าใครสายเที่ยวเนิบ ๆ ไปทางแรกก็จะมีจุดให้แวะเที่ยวอีกหลายแห่งเช่นกัน 3.หากไปนอกเทศกาลท่องเที่ยวสามารถนำรถขึ้นไปเองได้ แต่ถ้าเป็นเทศกาลท่องเที่ยวสามารถไปขึ้นรถนำเที่ยวได้ที่บ้านร่องกล้า ราคาไปกลับคนละ 500-700 บาท(ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสารร่วมคัน) ภาพประกอบทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน : อนุญาตให้ใช้เพื่อการศึกษาได้ฟรี