“ทะเลก็มีชีวิต ทะเลก็มีหัวใจ ไปเที่ยวทะเลกันไหม ไปดำดูปะการัง” เสียงเพลงลุงแอ๊ด คาราบาว ก็ดังขึ้นมาขณะขับรถเพื่อจะมุ่งหน้าไป ผู้เขียน และเพื่อนสาว ฉายาสี่สาวดาวลูกไก่ ขับรถไปตาม GPS เพราะวันนี้พวกเราไม่มีจุดหมาย พอดีวันนี้เป็นวันเสาร์ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันพวกเราเคยพูดว่าเราน่าจะไปเที่ยวด้วยกันสักทริปนะ คือตั้งแต่เรามาทำงานด้วยกันเป็นเวลา 1 ปีเราไม่เคยได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยเพราะต่างคนหาเวลาที่จะว่างตรงกันมันยากมาก และในวันนั้นเองเป็นวันที่เราว่างตรงกัน เราก็นั่งคุยกันไปถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ เพื่อนอีกคนพูดว่า “นี่ก็ว่างตรงกันแล้วไม่ไปเที่ยวกันเลยหละ” พอได้ยินดังนั้นอยู่ ๆ พอนั่งคุยกันเสร็จก็บอกเก็บเสื้อผ้าเลยเราจะไปนอนค้าง 1 คืน ที่พักไปหาเอาข้างหน้า ว่าแล้วเก็บกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้าและเงินในกระเป๋า ไปแบบไม่มีแผนไม่วางแพลนอะไรเลย กระเป๋าพร้อมออกเดินทางกันเลย เราขับรถไปตามถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าลงใต้ ขับไปเรื่อย ๆ ถามว่านี่เราจะไปไหน ร้อน ๆ แบบนี้ต้องทะเลสิไม่ต้องไปถึงใต้หรอกนะ ไปแค่ในจังหวัดประจวบ ฯ พอ เพื่อนสาว search google เลยว่าในประจวบฯ มีที่ไหนที่เราจะเที่ยวเล่นน้ำพักค้างคืนได้ เพื่อนอีกคนบอกว่านี้เลย “ไปดำน้ำที่เกาะทะลุ” ไม่ไกลอยู่อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบฯ นี้เอง ว่าแล้วก็ขับไปเรื่อย ๆ จนมาถึงอำเถอบางสะพานน้อยเราถึงประมาณบ่ายสองเพราะว่ากว่าเราจะออกจากที่พักก็ประมาณเที่ยงครึ่งแล้วเพราะมัวแต่นั่งคุยกัน เรา search google เจอสีฟ้าทัวร์เราก็ขับไปหาสีฟ้าทัวร์เพื่อจะไปดำน้ำ หารู้ไม่ว่าเขามีออกรอบเดียวคือ เก้าโมงเช้าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ทั้งสี่คนไม่ทีใครรู้เลยว่าเขาออกดำน้ำเที่ยวเดียว ฮ่าฮ่า เขาบอกว่าให้มาใหม่พรุ่งนี้เรือออกเก้าโมง ค่าดำน้ำคิดคนละ 400 รวมอาหารเที่ยง พวกเราได้ข้อมูลพวกเราก็จะไปตระเวนหาที่พักค้างคืนสำหรับคืนนี้ ในตอนนั้นที่พักแบบไหนก็ได้ไม่แพงมากเพราะร้อนอยากอาบน้ำเต็มทีแล้ว แวะหลายที่มากแต่ละที่ก็ราคา 1,000-1,500 รวมอาหารเช้า พวกเราก็ไม่เอาก็ขับไปอีกเรื่อย ๆ ตามเส้นเรียบชายทะเลก็ไปเจอที่หนึ่ง คืน 600 บาท ไม่มีอาหารเช้า แต่หลังหนึ่งนอนได้ 2 คน เราไปกัน 4 คน ก็เลยจอง 2 หลัง พวกเราก็เข้าที่พักอาบน้ำนอนพักจนกระทั่งถึงเย็นเราจะออกไปหาที่ทานข้าวเพราะที่พักแห่งนี้ไม่มีอะไรขายเลยมีเฉพาะที่พักอย่างเดียว เราเลยขับรถออกมาจากที่พักเราเห็นป้ายร้านอาหาร อุ่นไอรัก วิวทะเล เราก็ขับเข้าไปคือบรรยากาศดีสุด ๆ มีที่พักด้วย ติดทะเลคือบรรยากาศทำไมต่างจากเราจัง เราเลยไปถามพนักงานว่าค่าที่พักเท่าไหร่ พนักงานบอก 1,500 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้า เราทั้งสี่คนหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะในความคิดว่า ที่พักเราคืนละ 600 สองหลัง ก็ 1,200 บาท ที่นี้ 1,500 รวมอาหารเช้า พักได้ 4 คน เพิ่มเงินอีกแค่สามร้อยเอง ตกลงเราคิดถูกแล้วใช่ไหม แล้วก็พากันขำ นี้หละนาเขาว่า “เสียน้อยเสียมาก เสียยากเสียง่าย” หลังจากเราประทานอาหารที่ร้าน อุ่นไอรัก เสร็จเราก็กลับไปยังที่พัก พักผ่อนนอนเอาแรง พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปลอยทะเลดำน้ำ พอรุ่งเช้าเราก็เชคเอ้าออกจากที่พักขับรถไปตาม GPS สีฟ้ารีสอร์ท เพื่อจะไปให้ทันเรือดำน้ำ เราไปถึงก็เข้าแถวซื้อตั๋ว พอได้ตั๋วเสร็จพนักงานก็เอารถซาเล้งมารับไปขึ้นเรือ พอถึงเรือก็รอนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่ง คนพอดีแล้วเรือก็ออกแล่นออกไปตรง เกาะทะลุเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปดำน้ำ สามสาวลงไปลอยดำผุดดำว่าย ต่างก็ส่งเสียงวิ้ดว้ายเพราะเห็นปลาสวย ๆ สัญลักษณ์ของเกาะทะลุ ตรงโคดหินที่เป็นเกาะอยู่กลางทะเล ทะลุกันนั้นเอง แต่ตัวผู้เขียนขอเก็บภาพให้อยู่บนเรือดีกว่า ทริปนี้เป็นทริปทุลักทุเลมากค่ะ แต่ทุกคนก็มีความสุขได้ทำตามที่คิดไว้แล้วคือได้ออกทริปด้วยและเป็นทริปที่จำจำและไม่เคยลืมเลย… แต่ทริปนี้ผู้เขียนไม่เปียกเลย ฮ่าฮ่า สัญญาทริปหน้าจะเปียกแน่นอนค่ะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน ขอบคุณเครดิตภาพปกจาก facebook Supawadee Tuk เรื่องโดย สาวภูธร