รีเซต

9 พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ dinosaur museums ที่ดีที่สุดรอบโลก แหล่งตามรอยสัตว์ล้านปีที่ไม่ควรพลาด

9 พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ dinosaur museums ที่ดีที่สุดรอบโลก แหล่งตามรอยสัตว์ล้านปีที่ไม่ควรพลาด
Muzika
13 กรกฎาคม 2564 ( 16:09 )
4.4K

     กระแสไดโนเสาร์ในประเทศไทยเรานั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีวันจืดจางเลย ลูกหลานไม่ว่าจะกี่บ้านต่างก็รบเร้าให้พาไปดูไดโนเสาร์กันอยู่เรื่อยๆ คงจะดีไม่น้อยหากเรามีโอกาสได้ไปเดินชมบรรดาสัตว์โลกล้านปีที่สูญพันธุ์ไปนานแล้วแบบใกล้ๆ เต็มๆ ตาสักครั้งในชีวิต ครั้งนี้เลยอยากจะชวนทุกคนไปดู พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก ดังต่อไปนี้ครับ

 

Russ Vance / Shutterstock.com

 

9 พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุด รอบโลก

 

1. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ เบอร์ลิน, เยอรมนี
Museum für Naturkunde (Berlin)

 

 

     พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี เป็นแกลเลอรี่จัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมีพระเอกอยู่ที่โครงกระดูกขนาดใหญ่ สูง 41 ฟุต 5 นิ้ว ของแบรคิโอซอรัส (Brachiosaurus) ไดโนเสาร์พันธุ์คอยาว ที่ได้รับการรับรองจากกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เคยมีการจัดแสดงมา นอกจากนี้แล้วยังมีซากกระดูกต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ถูกขุดพบจากประเทศแทนซาเนียด้วย

====================

 

2. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ จื้อกง, จีน 
Zigong Dinosaur Museum China

 

By Phreakster 1998 at English Wikipedia, CC BY 2.5

 

     พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่เมืองจื้อกง ประเทศจีน เป็น 1 ในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยพื้นที่กว่า 710,000 ฟุต จัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์กว่า 18 ตัว รวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ กว่า 200 ชิ้น รอยเท้า ไข่ไดโนเสาร์ ฟอสซิล ฯลฯ รวมถึงมีการสาธิตวิธีการขุดค้นซากไดโนเสาร์แบบสมจริงทุกขั้นตอน

====================

 

3. พิพิธภัณฑ์ฟิลด์ ชิคาโก, สหรัฐอเมริกา
Field Museum (Chicago)

 

 

     ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด และดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พิพิธภัณฑ์ฟิลด์จะเน้นไปที่การให้ความรู้ในเรื่องไดโนเสาร์ที่อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลกัน ระหว่างเกาะมาดากัสการ์ และทวีปแอนตาร์กติกา โดยไฮไลท์ของที่นี่อยู่ที่โครงกระดูกไทแรนโนซอรัส ขนาดใหญ่สมบูรณ์แบบ ความยาว 42 ฟุต สูง 13 ฟุต และมีอายุกว่า 65 ล้านปี ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางพิพิธภัณฑ์เลย แถมซากเจ้าตัวนี้ยังเคยถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบในภาพยนตร์เรื่อง Night at the Museum มาแล้วด้วย

====================

 

4. ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ รอยัลเบลเยี่ยม, กรุงบรัสเซลส์, เบลเยี่ยม
Royal Belgian Institute of Natural Science (Brussels)

 

 

     ที่นี่จัดแสดงคอลเลคชั่นเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีพื้นที่จัดแสดงกว้างใหญ่ เป็นที่อยู่ของ Bernissart Iguanodons โครงกระดูก และฟอสซิลของไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1878 และยังรวมถึงโครงกระดูกไดโนเสาร์กินพืชกว่า 30 ตัว ที่จัดแสดงอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่

====================

 

5. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งชาติ กรุงแคนเบอร์รา, ออสเตรเลีย
National Dinosaur Museum, Canberra, Australia

 

 

     พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แห่งชาติ กรุงแคนเบอร์รา เป็นสถานที่เก็บรวบรวมซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่ยุคก่อนกำเนิดสิ่งมีชีวิต ยุคไดโนเสาร์ เรื่อยมาจนถึงยุคน้ำแข็ง จัดแสดงฟอสซิลกว่า 300 ชิ้น และโครงกระดูกไดโนเสาร์แบบสมบูรณ์อีกกว่า 23 ชิ้น พร้อมโซนกิจกรรมสำหรับเด็กที่สามารถลงขุดค้นซากไดโนเสาร์ได้

====================

 

6. พิพิธภัณฑ์บรรพชีวินวิทยา รอยัลเทอเรลล์ รัฐแอลเบอร์ตา, แคนาดา
Royal Tyrrell Museum of Paleontology (Alberta)

 

 

     พิพิธภัณฑ์บรรพชีวินวิทยารอยัลเทอเรลล์ ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติกับ Joseph Burr Tyrrell นักธรณีวิทยาผู้ค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกในหุบเขา Red Deer River ในปี ค.ศ. 1884 จากนั้นเขาจึงตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา เพื่อจะได้เก็บรวบรวม ดูแลซากเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน เป็นศูนย์รวมฟอสซิลกว่า 130,000 ชิ้น มีโซน Dinosaur Hall ที่มีโครงกระดูกไดโนเสาร์แบบสมบูรณ์กว่า 40 ตัว และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญคือ โครงกระดูก T. Rex ที่เป็นสีดำ จึงถูกเรียกว่า Black Beauty นั่นเอง

====================

 

7. พิพิธภัณฑ์อิไซโก้ เมืองเคปทาวน์,สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
Iziko Museum (Cape Town)

 

 

     พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดของแอฟริกา จัดแสดงไดโนเสาร์ท้องถิ่นในแถบนี้ เช่น ฟอสซิลของไดโนเสาร์ Euparkeria และ Jobaria ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ขุดพบเฉพาะในประเทศแอฟริกาใต้เท่านั้น ซึ่งก็มีทั้งไดโนเสาร์ยอดนิยมอย่าง T. Rex และ Brachiosaurus ด้วย โดยจุดเด่นสำคัญอยู่ที่ซากกะโหลกของ คาร์ชาโรดอนโทซอรัส (Carcharodontosaurus) ไดโนเสาร์นักล่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น

====================

 

8. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์นิวเม็กซิโก เมืองแอลบูเคอร์คี, สหรัฐอเมริกา
New Mexico Museum of Natural History & Science (Albuquerque)

 

 

     ที่นี่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1986 เน้นนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดโลกในยุคต่างๆ และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องไดโนเสาร์แบบถาวร ไฮไลท์จะอยู่ที่โครงกระดูกของ T. Rex ที่มีขนาดกว้าง 40 ฟุต (12.2 เมตร) ยาว 12 ฟุต (≈3.7เมตร) นับเป็นอันดับสองของ T. Rex ที่เคยค้นพบ

====================

 

9. จูราสสิคแลนด์ อิสตันบูล, ตุรกี
Jurassic Land (Istanbul)

 

 

     นับเป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นานในปี 2011 เน้นเสริมสร้างการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับความบันเทิงบนเนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีทั้งโซนจัดแสดงซากไดโนเสาร์ และซากฟอสซิลต่างๆ มากมาย ผ่านการเล่าเรื่องโดยกราฟิกแอนิเมชั่น และหุ่นเคลื่อนไหวสุดไฮเทค รวมถึงการให้คนดูมาสวมบทบาทเป็นสัตวแพทย์ ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการฟักไข่ ไปจนถึงรักษาอาการป่วยของไดโนเสาร์เลย ราวกับได้สวมบทบาทเป็นนักวิจัยในจูราสสิคพาร์คยังไงยังงั้น

====================