เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น: มัสยิดกรือเซะ ในความทรงจำ ข้าน้อยลิ้มก่อเหนี่ยว ขอตั้งจิตอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่แห่งนี้ ด้วยพี่ชายของข้าลิ้มโต๊ะเคี่ยม ล่องสำเภาจากเมืองจีนมาค้าขาย ณ เมืองตานี และได้แต่งงานกับธิดาเจ้าเมืองตานี ไม่ยอมกลับบ้านกลับเมือง ได้แต่ตั้งใจทุ่มเทในการสร้างมัสยิด ให้กับเจ้าเมืองตานีผู้เป็นพ่อตา ข้าน้อยขอสาปแช่ง มัสยิด ที่พี่ชายข้าน้อยกำลังสร้าง ขออย่าได้สร้างสำเร็จเสร็จสิ้น ทุกครั้งที่ก่อสร้าง ขอให้เกิดอาเพศมีฟ้าผ่าทุกครั้งไป ขออย่าได้มีผู้ใดสร้างมัสยิดนั้นสำเร็จ สิ้นคำสาปแช่ง นางก็ผูกคอตายที่ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ลิ้มโต๊ะเคี่ยม เสียใจเป็นอย่างมาก ภาพโดย : สมภัสสร นั่นคือเรื่องราวเล่าขานของ มัสยิดกรือเซะ ที่ผมเคยได้ยินมา ผมก้าวลงจากรถตู้ ตะลึงงันอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะสาวเท้าก้าวเดินไปที่มัสยิด นี่นะหรือ ที่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 200 ปี ขนาดเป็นโครงสร้างก่ออิฐถือปูน ยังสวยงามขนาดนี้ ผมเดินไปรอบ ๆ บริเวณมัสยิด หยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพทุกซอกทุกมุม พลันพบกับชายมุสลิมสูงวัยกำลังกวาดทำความสะอาดบริเวณพื้น ผมทักทาย สวัสดีครับ ชายมุสลิมสูงวัย ยิ้มให้ผม พร้อมกับถามว่า มาจากไหน กรุงเทพฯ ครับ ผมตอบ แล้วแกก็เล่า ถ้ามาวันอาทิตย์ ด้านนอกนี่เต็มไปด้วยคนหนุ่มคนสาว คนแก่ และเด็ก ๆ มาฟังธรรม แพะสัตว์เจ้าถิ่นเดินเต็มไปหมด แบ๊ะ แบ๊ะ ฮ่า ๆ ๆ ผมนึกภาพตาม ขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ ภาพโดย : สมภัสสร ผมกลับขึ้นมาในรถตู้พร้อมเดินทางต่อ ใจยังคงจดจ่อเกี่ยวกับเรื่อง มัสยิดกรือเซะ จึง Search ข้อมูลในอากู๋ (Google) คีย์คำว่า กรือเซะ จากโทรศัพท์มือถือ มีข้อมูลขึ้นเต็มไปหมด ผมจึงได้รู้ว่า มัสยิดกรือเซะ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มัสยิดปิตูกรือบัน ชื่อนี้เรียกตามรูปทรงของประตูมัสยิด ซึ่งมีลักษณะเป็นวงโค้งแหลมแบบโกธิคของชาวยุโรป และแบบสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลาง รูปลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ช่องประตู หน้าต่างมีทั้งแบบโค้งแหลม และโค้งมนแบบโกธิค โดมและหลังคา ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ก็เพราะเป็นไปตามคำสาปของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เมื่อจะสร้างต่อก็ให้มีอาเพศ ฟ้าผ่าทุกครั้งไป จนถึงปัจจุบันก็ไม่มีใครกล้าสร้าง มัสยิดกรือเซะ ต่อ คงเหลือซากทิ้งไว้ตราบเท่าทุกวันนี้ และนี่คือ กรือเซะ มัสยิดในความทรงจำของผม ภาพโดย : สมภัสสร ที่อยู่ : มัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาสหรือทางหลวงแผ่นดินสาย 42 บริเวณบ้านกรือเซะ ห่างจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ 7 กิโลเมตร ตำบลตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี