คนปทุมธานีที่มีวิถีชีวิตผ่านไปผ่านมาแถวตลาดรังสิตเป็นประจำ แต่ใช้เวลานานกว่าจะรู้ว่า ในชุมชนที่มีผู้คนสัญจรขวักไขว่แห่งนี้ มีมุมพักผ่อนหย่อนใจซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง เพียงเดินผ่านชุมชนที่ผู้คนยืนรอรถโดยสารไปต่างจังหวัดเท่านั้น ก็จะเห็นสะพานไม้ไผ่สวยๆ ที่นำเข้าไม้ไผ่ยักษ์จากจังหวัดน่านมาเจิดจรัสประดับปทุมธานี เคียงคู่กับสระบัว ที่เป็นสัญญลักษณ์ของจังหวัดปทุมธานี ไปดูใกล้ๆ ดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง แผงไผ่ยักษ์ แจ้งแหล่งที่มา เพราะใครๆ ก็รู้ว่า ไผ่ยักษ์ขนาดใหญ่เหล่านี้มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศว่ามีต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด ต้องจากจังหวัดน่านเท่านั้น เมื่อใช้ไผ่ของเขา ก็ไม่ลืมจะประกาศให้รู้ชื่อเสียง นำไผ่มาสานเพื่อประสานให้เข้ากับความโดดเด่นของปทุมธานี ปรากฏชื่อเสียงเรียงนามว่า ไผ่ยักษ์น่าน สานบุญ ปทุมธานี รังสิต ส่วนการประดับตกแต่งนั้น ใช้ร่มไทยลายสวยๆ ตามแนวนิยมของคนปทุมธานีที่นิยมถวายร่มให้วัด คนได้บุญ วัดได้ใช้ สานไผ่เป็นสะพานต่อเนื่อง มีทางแยกซ้ายขวา ทางตรง ศาลาที่พักระหว่างทางที่เดินชมบัว มีฉากขนาดใหญ่เป็นแบล็กกราวน์สำหรับเป็นจุดถ่ายภาพสวยๆ ที่นี่ปลูกบัวหลายชนิด ถ้าไปตรงกับช่วงที่ดอกงามบานเต็มบึงจะสวยงามกว่านี้ การประดับตกแต่งก็อาศัยใช้ไม้ไผ่มาเป็นองค์ประกอบทั้งหมดให้สมกับที่นี่เป็นสะพานไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวัลเรื่องความแข็งแรง อุปกรณ์ สิ่งปลูกสร้างที่นี่ ล้วนสำเร็จมาจากไม้ไผ่ทั้งนั้น มีการออกแบบอย่างสวยงาม แทนชิงช้า แทนกระถางต้นไม้ สวยแบบพื้นบ้าน แต่มีเสน่ห์มาเต็ม ไม้ไผ่ดูแข็งแรง แต่เมื่อนำมาจัก มาย่อย สามารถประดิษฐ์สิ่งที่เรียกว่ากระจุกกระจิก น่ารักก็ได้ และที่นี่แฝงตัวอยู่ในชุมชนย่านรังสิต มีความตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับความเจริญของย่านนี้ ยังมีถนนตัดผ่าน เห็นการจราจรคับคั่งอยู่ห่างออกไป ยืนยันความเป็นธรรมชาติพื้นบ้านที่อยู่ในย่านชุมชน แต่เลือกที่จะโดดเด่นแบบบ้านๆ ในย่านนี้ วงเวียนที่สำหรับใช้เป็นจุดกลาง ช่วยให้การสัญจรของรถบนถนนเป็นไปอย่างปลอดภัย คนออกแบบเลือกที่จะใช้ร่มตกแต่งรอบบริเวณวงเวียน ไม่ต้องพึ่งสวนหย่อมหรืออนุสาวรีย์อะไร กว่าคนปทุมธานีจะรู้จักที่นี่ ก็ต้องผ่านการแนะนำจากคนอื่น ในวันนี้ จึงแนะนำต่อ หากคนท้องถิ่นอื่นที่ผ่านไปผ่านมาแถวรังสิต ปทุมธานี ที่นี่มีที่ถ่ายรูปสวยๆ กำลังรอคุณอยู่