สวัสดีค่ะ บทความนี้จะเล่าถึงการไปอินเดียของเรากับเพื่อนสนิทหนึ่งคนค่ะ เราตัดสินใจกันว่า อยากไปดูวัฒนธรรมของประเทศอินเดีย ว่าจะเหมือนที่ได้ยินมาไหม ว่าอินเดียสกปรกไหม คนอินเดียตัวเหม็นไหม อินเดียน่าไปตรงไหน และนั่นก็ทำให้เราและเพื่อนคิดว่า ไหน ๆ ก็ไปแล้ว เราต้องลองขึ้นรถไฟอินเดียกันสักครั้งในชีวิตว่าจะเป็นยังไง จะมีเรื่องตื่นเต้นแค่ไหน จะเล่าให้ฟังนะคะ การขึ้นรถไฟที่อินเดียไม่ยากค่ะ เราทำการจองรถไฟโดยสมัคร account ของการรถไฟอินเดีย แล้วทำการจองล่วงหน้า รถไฟอินเดียจะมีที่นั่งแตกต่างกันไป เราจองชั้นดี ๆ ไปค่ะ ถ้าเป็นชั้นที่ไม่ดี จะเจอคนอินเดียแย่งกันและไม่ปลอดภัยนะคะ เมื่อเราจองตั๋วเสร็จจะมีที่นั่ง คอนเฟิร์มว่าเราได้ทำการจองเรียบร้อยแล้ว ปริ้นท์ตั๋วไปได้เลยค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตั๋วเราอีกที วิธีการขึ้นรถไฟที่อินเดีย ก่อนเราจะไปชานชาลาจะมีเลขขบวนรถไฟให้เราตรวจสอบก่อนว่าเราจะขึ้น platfrom ไหน จะได้ไปรอถูก แล้วข้าง ๆ ขบวนรถไฟจะมีตู้บอก ตรงชานชาลาจะมีช่องบอก เช่น A1 A2 ไปยืนรอตรงนั้นได้เลย เราจองรถไฟ ชั้น AC2 Chair เป็นรถไฟนั่ง2ชั้น วิ่งจากนิวเดลีไปชัยปุระ ประมาณ 4 ชั่วโมง ขบวนนี้มาตรงเวลาออกตรงเวลา ห้องน้ำบนรถไฟก็ไม่ได้แย่นะแก ลืมเรื่องที่เคยเจอในภาพว่าคนอินเดียกระโดดขึ้นรถไฟ นั่งบนหลังคา ไปก่อน เพราะที่เราเจอเรานั่งชั้นรถไฟดี ๆ ปลอดภัยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน แต่ถ้าจองชั้น Sleeper เจอคนอินเดียเบียดและไม่รับรองความปลอดภัยแน่นอน ฉะนั้น ถ้าอยากขึ้นรถไฟอินเดีย ทำการจองก่อนไปนะคะ นั่งบนรถไฟจะมีคนขึ้นมาขายชาอินเดียตลอด จะตะโกนว่า ไจ ไจ ลองชิมดูเราว่าไม่อร่อย มันมีกลิ่นขิง บางคนอาจจะชอบ แต่สำหรับเราไม่เลย สถานีรถไฟที่อินเดียจะเห็นว่ามีคนไร้บ้านเยอะมาก ทั้งขอทาน ทั้งคนไม่มีที่นอนเค้าก็มานอนกันที่สถานีรถไฟ แล้วตอนที่เราไปอากาศคือหนาวมาก พวกเค้าไม่มีแม้กระทั่งเสื้อกันหนาวดี ๆ ใส่ จะมีก็แต่ผ้าห่มผืนบาง ๆ ที่คลุมไว้ ลืมบอกค่ะ ตรงนี้อ่านสักหน่อยน้า เป็นประโยชน์มาก ๆ รถไฟอินเดียไม่มีประกาศบอกนะคะ ว่าเราถึงสถานีไหน ตอนไหน ฉะนั้นเราควรรู้ด้วยตัวเราเอง เราต้องมีแอปการรถไฟอินเดีย โหลดติดโทรศัพท์ไว้เลยค่ะ สำหรับเราใช้แอป ixigo trains ก่อนไปก็กรอกเลข PNR ที่อยู่ในตั๋วเราไว้ในแอป แอปจะแจ้งเตือนเราว่าเรามีเดินทางไปไหน แล้วแอปสามารถเช็ค สเตตัสรันนิ่งของรถไฟได้ว่าเราอยู่ที่สถานีไหนแล้ว จะบอกเป็น map เลยค่ะ เราจะรู้ว่าเราควรจะลงสถานีที่เราลงตอนไหน สะดวกสบาย ฉะนั้นเตรียมพร้อมตัวเองก่อนขึ้นรถไฟอินเดียนะคะ ไม่ยาก รูปที่เรานำมาเป็นตัวอย่างการเดินทางของเราเองค่ะ ถ้ารถไฟดีเลย์หรือมาช้า แอปจะแจ้งเตือนตัวแดง ๆ ว่าดีเลย์กี่ชั่วโมง แต่การขึ้นรถไฟของเราก็มีอุปสรรคค่ะ รถไฟดีเลย์ ในเรื่องรถไฟดีเลย์ต้องยกให้อินเดียเลยค่ะ ขึ้นชื่อมาก การดีเลย์รถไฟที่เราเจอคือ เราต้องขึ้นรถไฟไปพาราณสีตามเวลา คือ 20.15 น. ของวันนี้ แต่พอไปถึงสถานี ตรวจบนบอร์ดแล้วมันขึ้นคำว่า Divert ซึ่งเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ได้ความมาว่า มันคือการเปลี่ยนสถานี อิรถตุ๊ก ๆ ก็มาตามตื๊อว่า เราต้องไปขึ้นที่สถานี Achnera นะ รถไฟจะผ่านสถานีนั้น ด้วยความงุนงงว่าจะตกรถไฟเลยต้องยอมนั่งรถตุ๊ก ๆ ไปด้วยระยะทาง 45 กิโลเมตร กับทางเปลี่ยว ๆ กับความหนาวเหน็บ กับคนขับรถตุ๊ก ๆ น่ากลัวแบบนางกรอกผงอะไรเข้าปากแล้วดีดตัวเองตลอดเวลา แต่พอไปถึงสถานีนี้คือสถานีเปลี่ยวมากเหมือนสถานีร้างเลยถามเจ้าหน้าที่ ก็บอกว่ารถไฟช้านะ ทำไมคุณไม่กลับไปที่อักราแล้วไปดักรอที่อีกสถานี ด้วยตอนนั้นกลัวกันมากไม่รู้จะเอายังไงต่อ โชคดีเจอพี่ญี่ปุ่นกับครอบครัว เค้าเรียกแท็กซี่เพื่อจะกลับอักราเลยหารค่ารถกับเค้า แล้วต้องเสียค่าที่พักที่อิแขกชาร์จราคาแพงเวอร์ กลับไปถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าให้ไปดักรอที่สถานี Mathura junction นะรถไฟไปพาราณสีจะผ่านสถานีนี้แน่ เลยต้องเหมาแท็กซี่ให้มารับที่ที่พักในเวลาตี 3.30 น. เพื่อไปดักรอรถไฟ ค่าแท็กซี่ก็แพงแถมอิแขกยังขอทริปอีก เห้อ พอไปถึงสถานี ที่คาดว่ารถไฟจะมา ผลปรากฏว่า ในแอปไม่อัพเดตอะไรเลย เลยโชคดีเจอเจ้าหน้าที่บอกว่า ประมาณ 9.00 ให้มาถามอีกทีนะรถไฟจะมาถึง 9 โมงก็แล้วก็ยังไม่มา 11 โมงก็แล้ว จนเจ้าหน้าที่เดินมาบอกเป็นระยะว่ารถไฟจะมาจอด platfrom ไหน จวบจนเที่ยง รถไฟมาเว้ยยยย แต่เลขขบวนมันไม่ใช่ คือเรางงมาก วิ่งถือตั๋วถามคนนั้นคนนี้ เค้าก็บอกว่าขบวนนี้แน่นอน วิ่งขึ้นไปด้วยความงุนงง หาตู้ตัวเองไม่เจอด้วย หลอนเลยตอนนั้น เพื่อนก็ขำความรนของเรา สุดท้ายก็ได้ขึ้นมา และนี่ก็เป็นประสบการณ์ในการขึ้นรถไฟที่อินเดียของเราค่ะ ภาพถ่ายโดยนักเขียน