รีเซต

เปิดตำนาน 11 สถานที่หลอน เรื่องผี ในวันฮาโลวีน เสียวสันหลัง สุดสยองขวัญ

เปิดตำนาน 11 สถานที่หลอน เรื่องผี ในวันฮาโลวีน เสียวสันหลัง สุดสยองขวัญ
เอิงเอย
20 สิงหาคม 2564 ( 20:00 )
25.7K

      หลายๆ สถานที่ในโลก เต็มไปด้วยเรื่องราว และความทรงจำมากมายที่ซ้อนทับกันอยู่ โดยเฉพาะสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งป่าโบราณที่มีมาตั้งแต่ในอดีต และนี่คือที่มาของ เรื่องเล่า ตำนาน เรื่องผี สยองขวัญ ที่เรามักจะได้ยินกันเสมอๆ เพราะฉะนั้น ตามเรามาขุดคุ้ยอดีต เปิดตำนาน 11 สถานที่หลอน เรื่องผี สุดสยอง ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวลึกลับ ต้อนรับ วันฮาโลวีน ให้ วันปล่อยผี เต็มไปด้วยเรื่องหลอน จนต้องเสียวสันหลัง…

 

ตำนาน สถานที่หลอน เรื่องผี สุดสยอง
เสียวสันหลัง รับ ฮาโลวีน

 

1. Carta Monastery

โบสถ์คาร์ตา โรมาเนีย

 

 

      ตำนานบทแรก เราขอเริ่มต้นกันที่ โบสถ์คาร์ตา Carta Monastery ในแคว้นทรานซิลเวเนีย (Transylvania) ประเทศโรมาเนีย ค่ะ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 และถูกทิ้งร้างไปในช่วงศตวรรษที่ 15 แม้ดูเผินๆ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โบราณสถาน ทั่วๆ ไป แต่พอถึงยามค่ำคืน กลับขึ้นชื่อว่าเป็นอีกที่ที่น่ากลัว และหลอนมากๆ

     คนท้องถิ่นเชื่อกันว่า มีวิญญาณของนักบวชสิงอยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนมักเจอเรื่องแปลกๆ อย่าง ชั้นวางของที่อยู่ๆ ก็สั่นเองได้ หรือเก้าอี้ก็ขยับเองได้ ทำให้เป็นอีกสถานที่ไม่ค่อยจะมีใครกล้าเข้ามาคนเดียวนักแม้จะเป็นตอนกลางวันก็ตาม

 

เรื่องผี เรื่องสยองขวัญ วันฮาโลวีน 2021 โบสถ์คาร์ตา โรมาเนีย

Solar Studio / Shutterstock.com

 

      ถ้าย้อนกลับไปในอดีต บริเวณนี้คือ ศาสนสถาน ที่มีทั้ง โบสถ์ สถานที่ศึกษา และชุมชนขนาดย่อมที่มีเฉพาะ แม่ชี และบาทหลวง ทำให้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลเคชั่นหลักของ หนังผี เรื่องดัง The Nun ในจักรวาล The Conjuring นั่นเองค่ะ แม้ในหนังจะนำเสนอความอึมครึม บรรยากาศอันน่าขนลุกขนาดไหน แต่ปัจจุบันบอกเลยว่า โบสถ์คาร์ตา แห่งนี้ เป็นโบราณสถานที่น่ามาชมไม่น้อยเลยทีเดียว แต่! อย่ามาเที่ยวคนเดียวก็พอ…

♠️ ดูเพิ่มเติมได้ที่ เปิดตำนานโบสถ์สยองขวัญ The Nun แห่งโรมาเนีย พิธีปราบผีที่นำสู่ความตาย!

===============

 

2. Tower of London

หอคอยแห่งลอนดอน อังกฤษ

 

 

      หลายคนคงรู้จัก หอคอยแห่งลอนดอน Tower of London ที่ประเทศอังกฤษ แห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงลอนดอนเลยค่ะ ติดอยู่อย่างเดียวที่จะทำให้คนไม่ค่อยกล้ามาเที่ยวเท่าไหร่ เพราะว่า ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ “ผีดุ” ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก!

      ถ้าเราย้อนเรื่องราวของหอคอยสุดเฮี้ยนแห่งนี้ คงจะพอบอกได้ว่า นองเลือดพอตัว เพราะที่นี่เคยใช้เป็นป้อมขังนักโทษที่มีบรรดาศักดิ์สูง เจ้าหญิง เจ้าชาย หลายๆ พระองค์ เป็นสถานที่สำหรับประหารชีวิต และทรมานนักโทษอีกด้วย ทำให้มีทหารยามหลายคนเคยบอกเล่ากันว่า ในยามค่ำคืน มักจะมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นที่นี่ อย่าง ผู้หญิงสวมผ้าคลุม ถือศีรษะเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย ไม่ก็จะได้ยินเสียงลากโซ่ตรวนดังมาจากในห้องประหาร หรือเสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน

 

Vicky Jirayu / Shutterstock.com

 

      ไม่ว่าตำนานเรื่องหอคอยแห่งลอนดอนจะถูกเล่ากันมาปากต่อปาก แต่ก็ทำให้คนที่ได้ยิน หรือ อยากจะไปเยือน ขนลุกกันขึ้นมาไม่น้อย เพราะฉะนั้น ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวลอนดอน ก็ลองแวะไปซึบซึมบรรยากาศแห่งยุคกลางที่นี่กันดูได้ค่ะ

♠️ ดูเพิ่มเติมได้ที่ ผีดุ ที่ลอนดอน Tower of London หอคอยสุดเฮี้ยนแห่งอังกฤษ

===============

 

3. Island of the Dead Dolls

เกาะตุ๊กตาผี เม็กซิโก

 

 

       พอได้ยินคำว่า “ตุ๊กตาผี” ภาพในความทรงจำจากหนังหลายๆ เรื่องที่เคยดู ก็ผุดขึ้นมา ส่วนใหญ่ที่เรานึกถึงมักจะเป็นภาพของตุ๊กตาที่ดูน่ากลัว และมีวิญญาณสิงสู่เพื่อทำให้เกิดเหตุร้ายๆ บางอย่าง แต่ที่ เกาะตุ๊กตาผี Island of the Dead Dolls หรือ La Isla de la Munecas ประเทศเม็กซิโกแห่งนี้ มีบรรยากาศที่น่าขนลุกต่างออกไป แม้ตุ๊กตาเหล่านั้นจะนั่งอยู่เฉยๆ ก็ตาม…

      เรื่องเล่าของเกาะแห่งนี้ เกิดจาก เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่จมน้ำตาย และมี นักพรต คนหนึ่งที่พยายามจะหาศพเด็กผู้หญิงคนนั้นกลับขึ้นมาทำพิธี แต่หาไม่เจอ จนในช่วงหน้าแล้ง ได้มีการค้นหาอีกครั้ง แต่กลับพบตุ๊กตาอยู่ 1 ตัว และเขาก็เชื่อว่าตุ๊กตาตัวนี้เป็นเด็กหญิงที่จมน้ำเสียชีวิต เพราะตั้งแต่เขาพบตุ๊กตาตัวนี้ ก็มักจะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ เสียงเรียกจากในน้ำ และเสียงร้องต่างๆ ทำให้เขากลับไปที่เกาะนั้นอีกครั้ง และแขวนตุ๊กตาไว้ตามต้นไม้ทุกต้นเพื่อปลอบประโลมวิญญาณของเด็กหญิงที่จมน้ำ ก่อนที่เขาจะถูกพบเป็นศพ เสียชีวิตอย่างปริศนา และลอยน้ำอยู่ในคลองเดียวกัน

 

 

      ชาวบ้านที่มาหาปลาใกล้บริเวณเกาะ ก็มักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวน เหมือนกับว่ามีผีนับร้อยๆ สิงสู่อยู่ในตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้ หลังจากนั้นมา ก็มีคนในพื้นที่เล่าว่าพบตุ๊กตาบนเกาะหันศีรษะได้ ลืมตาเองได้ ทำให้เรื่องราวต่างๆ กระจายออกไป ที่นี่จึงเป็นอีกเกาะหนึ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องลี้ลับ และน่ากลัวอีกแห่งเลยทีเดียว

♠️ ดูเพิ่มเติมได้ที่ เกาะตุ๊กตาผี Island of the Dead Dolls หลอนสุดขีด ที่ เม็กซิโก

===============

 

4. Corregidor Island

เกาะกอร์เรฮีดอร์ ฟิลิปปินส์

 

PixHound / Shutterstock.com

      เกาะกอร์เรฮีดอร์ Corregidor Island เป็นเกาะในประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวมะนิลา ค่ะ และเคยเป็นป้อมปราการปืนใหญ่ไว้ปกป้องทางเข้าอ่าวมะนิลา โดยแต่เดิมเกาะแห่งนี้เคยตกเป็นของกองทัพสเปนเมื่อปี ค.ศ.1570-1898 เพื่อใช้เป็นคุก และป้อมปราการ

      ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพอเมริกาเข้ามาปรับปรุงเกาะให้เป็นแนวป้องกันในช่วงสงคราม มีการสู้รบกัน ทำให้สูญเสียทหารไปนับพัน จนกระทั่งในสงครามที่ชื่อว่า “Battle for the Recapture of Corregidor”รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตกว่าเจ็ดพันคน ยังไม่รวมทหารญี่ปุ่น ที่ตัดสินใจกระทำเซปปุกุ หรือคว้านท้องตนเองอีก 3,000 นาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุด

 

PixHound / Shutterstock.com

 

      แม้ในปัจจุบัน ที่นี่จะเป็นอนุสรณ์สถานสงครามแปซิฟิก เพื่อรำลึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความน่าสะเทือนใจ น่าขนลุก และความเศร้าจนสัมผัสได้เลย

===============

 

5. Aokigahara

ป่าฆ่าตัวตาย อาโอกิงาฮาระ ญี่ปุ่น

 

 

      ถ้าพูดถึงสถานที่ที่เคยขึ้นชื่อเรื่องการฆ่าตัวตายมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น คงต้องยกให้ อาโอกิงาฮาระ Aokigahara ป่าหนาทึบเขียวครึ้มที่ปกคลุมอยู่ก่อนทางขึ้นภูเขาไฟฟูจิ โดยในทุกๆ ปี เจ้าหน้าที่จะพบศพของผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 30 ร่าง แต่ภายหลัง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา มีการติดตั้งป้ายทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษบริเวณปากทางเข้าป่า เพื่อย้ำเตือนให้คนที่เดินทางมาว่าอย่าคิดสั้น…

     นอกจากข่าวการจบชีวิตของคนที่นี่จำนวนมากแล้ว ในเรื่องเล่าของชาวญี่ปุ่นเอง ก็มีความเชื่อกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้วว่า ป่าแห่งนี้เป็นที่สิงสถิตย์ของวิญญาณต้นไม้ หรือ โคดามะ ที่จะดูดเอาพลังงานชีวิตจากผู้เสียชีวิตกลับคืนเป็นพลังแห่งป่า

 

shu2260 / Shutterstock.com

 

     อีกทั้งในอดีตช่วงยุคข้าวยากหมากแพงของญี่ปุ่น ยังเคยมีการกระทำที่เรียกว่า อุบาสึเตะ คือ การนำผู้สูงอายุไปทิ้งไว้ในป่า ให้อดอาหารจนตาย แต่บ้างก็ว่าผู้สูงอายุบางคนก็เต็มใจที่จะถูกพาเข้ามาในป่าเอง เพราะไม่ต้องการจะเป็นภาระให้กับคนในครอบครัว

     เรื่องราวทั้งหลายของป่าแห่งนี้เต็มไปด้วยความเศร้า และความน่าขนลุกจนเสียวสันหลัง หลายคนๆ ที่มาพิสูจน์เรื่องราวความหลอนของที่นี่ บางรายก็มีการเห็นภาพหลอน บางคนก็รู้สึกอึดอัดไม่สบาย ออกมาจากป่า ก็ล้มป่วยไปเลยก็มีเช่นกัน

♠️ ดูเพิ่มเติมได้ที่ อาโอกิกาฮาระ ป่าฆ่าตัวตายแห่งภูเขาไฟฟูจิ ญี่ปุ่น 

===============

 

6. Edinburgh Castle

ปราสาทเอดินบะระ สกอตแลนด์

 

 

       ปักหมุดอีกหนึ่งสถานที่สุดหลอน ที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในโลก โดยนิตยสาร Times กันที่ ปราสาทเอดินบะระ Edinburgh Castle แห่งสกอตแลนด์ ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงยุคศตวรรษที่ 12 เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ และราชวงศ์ในอดีต โดยที่นี่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และโศกนาฎกรรมมากมาย

      ภายในปราสาท มีคุกกักขังนักโทษซึ่งอบอวลไปด้วยความตายอยู่ทุกอณู ในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพของสกอตแลนด์เมื่อปี ค.ศ.1296-1357 ที่นี่ถูกใช้เป็นที่คุมขัง ทรมาน และประหารชีวิตนักโทษหลากหลายวิธีการที่โหดร้าย ถนนโดยรอบปราสาทถูกใช้เป็นที่ฝังศพของผู้ตายจากโรคระบาด และที่โด่งดังมากที่สุดคือ ตำนานของ Lady Glamis ที่ถูกเผาทั้งเป็นต่อหน้าลูกชายของเธอเอง ในปี ค.ศ.1537 ด้วยข้อหาแม่มด

 

Anton_Ivanov / Shutterstock.com

 

      ความสยดสยองของปราสาทแห่งนี้ ถ่ายทอดมาสู่คนที่แวะไปเยี่ยมเยียนโดยบรรยากาศอันอึมครึม อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าถึง วิญญาณที่มีคนพบในห้องโถงทางเดิน มีผู้พบเห็นผีไร้หัว หรือวิญญาณของสุนัขที่เร่ร่อนอยู่บริเวณสุสาน อีกทั้งวิญญาณวนเวียนของ Lady Glamis ที่ถูกเผาอย่างทรมาน

      แต่ถึงอย่างนั้นช่วงเวลากลางวันที่ปราสาทเอดินเบิร์ก ก็เหมาะกับการท่องเที่ยว เป็นจุดชมวิวประจำเมืองที่สวยงาม และมีโบราณวัตถุต่างๆ ให้เที่ยวชม

===============

 

7. Alcatraz Prison

คุกอัลคาทราซ อเมริกา

 

 

      ย้อนกลับไปในอดีต 200 ปีก่อนที่ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ เกาะอัลคาทราซ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ คุกสุดโหด ที่เรารู้จักกันในชื่อว่า คุกอัลคาทราซ Alcatraz Prison ที่นี่เคยเป็นทั้งประภาคาร ป้อมปราการของกองทัพ และยังเป็นคุกทหารมาจนถึงปี 1963

      เนื่องจากเกาะอัลคาทราซ ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางปราการธรรมชาติ โดยอ่าวที่ล้อมรอบด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิเยือกแข็งและคลื่นลมแรง ที่นี่จึงได้รับการพิจารณาให้ใช้เป็นที่คุมขังนักโทษ และเป็นสถานที่ใช้ดัดนิสัยที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุด

 

Seth Lang / Shutterstock.com

 

     มีนักโทษจำนวนไม่น้อยที่สังเวยชีวิตจากการพยายามหลบหนีออกจากคุกสุดโหดนี้ คนที่พยายามหลบหนีออกจากเกาะอัลคาทราซไม่มีใครเคยทำสำเร็จ โดยนักโทษที่ถูกตามจับกลับมา จะโดนทรมานจนปางตาย และเคยมีคนที่ถูกยิงทิ้งขณะหลบหนี แต่ถึงแม้จะหนีออกมาจากเกาะได้ ก็ต้องจมน้ำเสียชีวิตในอ่าวซานฟรานซิสโกอยู่ดี และยังไม่นับรวมที่เสียชีวิตในคุกอีกมากมายอีกด้วย

     มาถึงทุกวันนี้ แม้ว่า คุกอัลคาทราซ จะเปิดให้เยี่ยมชมในฐานะของพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แต่สิ่งที่โอบล้อมที่นี่ไว้ คือบรรยากาศของความตาย และสิ่งที่น่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก มีเรื่องราวประหลาดไม่น้อยที่เกิดขึ้น ทั้งได้ยินเสียงประหลาดเสมอๆ เช่น เสียงปิดประตูห้องขังเอง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน หรือความรู้สึกที่เหมือนโดนจับจ้องอยู่ตลอดเวลา สำหรับใครที่อยากรู้ว่า ที่นี่มีความสยองอยู่ในบรรยากาศมากน้อยขนาดไหน ก็สามารถมาลองของได้ …

===============

 

8. Agrasen Ki Baoli

อากราเซน คิ บาโอลี อินเดีย

 

Muslianshah Masrie / Shutterstock.com


      อินเดีย ประเทศที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของผู้คน มีโบราณสถานหลายที่ที่ผ่านยุคสมัยมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงที่นี่ค่ะ อากราเซน คิ บาโอลี Agrasen Ki Baoli บ่อน้ำขั้นบันไดเก่าแก่ ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ที่ชาวเมืองเรียกกันว่า บ่อน้ำผีสิง ค่ะ

     บ่อน้ำขั้นบันได แห่งนี้มีความยาวถึง 60 เมตร และกว้างกว่า 15 เมตร เป็นโบราณสถานที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และสวยงาม แต่บันไดยาวกว่าร้อยขั้นที่ลึกลงไปเบื้องล่าง เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าขนลุกที่บอกไม่ถูก

 

 

      ที่นี่เป็นบ่อน้ำโบราณที่ชาวเมืองในพื้นที่มีความเชื่อกันว่า มีวิญญาณร้ายที่คอยล่อลวงให้ผู้คนตกลงไปในบ่อเพื่อฆ่าตัวตาย อีกทั้งนักท่องเที่ยวเองก็มักจะรู้สึกว่ามีเงาดำแอบตามหลังอยู่ ทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจหายคอไม่สะดวก อยู่ในบริเวณนี้นานไม่ได้ จนต้องเดินออกมาโดยไว

===============

 

9. Hospital Beelitz Heilstaetten

โรงพยาบาลทหาร Beelitz เยอรมนี

 


      Hospital Beelitz Heilstaetten โรงพยาบาลสยองที่ในอดีต ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สยองที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยปี ค.ศ.1916 กองทัพเยอรมัน ได้เปลี่ยนที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโรงพยาบาลทหาร และ อด็อฟ ฮิตเลอร์ ก็ยังเคยถูกนำตัวมารักษาที่นี่หลังจากโดนยิงในสงคราม Sommer

      ในช่วงการปกครองของนาซี โรงพยาบาลนี้ยังถูกใช้เพื่อการฟื้นฟูระบบประสาท และการวิจัยโรคพาร์คินสัน รวมถึงยังมีหอผู้ป่วยศัลยกรรม และหอผู้ป่วยจิตเวช เรื่องราวการทดลองต่างๆ ที่ในช่วงสงครามก็ใช้ที่นี่ด้วยเช่นกัน

 

Romanova Elizaveta / Shutterstock.com

 

      ปัจจุบันโรงพยาบาลแห่งนี้กลายเป็นโรงพยาบาลที่ถูกปล่อยให้รกร้าง ไร้ซึ่งการดูแล จากที่เคยดูแลรักษาผู้ป่วยกลับกลายมาเป็นที่สร้างความหลอน และยังคงกล่าวขานถึงความน่ากลัว เสียงหวีดร้อง ที่ดังก้องออกมาจากโรงพยาบาล

===============

 

10. Catacombs of Paris

สุสานใต้ดินโบราณกลางปารีส ฝรั่งเศส

 

 

      ลงลึกไปใต้ดินกลางกรุงปารีสของเมืองอันศิวิไลซ์ มีความสยดสยองที่แอบอยู่ใต้ดินที่ สุสานโบราณกลางปารีส Catacombs of Paris หรือ l'Ossuaire Municipal หนึ่งในสุสานและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส

      สุสานแห่งนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคศตรรษที่ 18 แต่นั้น อุโมงค์แห่งนี้ถูกใช้เป็นทางสำหรับขนส่งของเข้าไปในเมือง และยังเป็นเหมืองหินปูนด้วย แต่เนื่องจากกรุงปารีสได้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จำนวนคนตายก็เพิ่มมากขึ้นทุกปี จนขาดแคลนพื้นที่ฝังศพ จึงได้ใช้ที่แห่งนี้เป็นที่เก็บศพแทน โดยถูกลำเลียงมาที่นี่เรื่อยๆ จนกลายเป็นกองกระดูกหัวกะโหลกอย่างมหาศาล รวมๆ ทำให้ที่แห่งนี้มีศพอยู่ประมาณถึง 6 ล้านศพเลยทีเดียว

 

 

      ปัจจุบัน สุสานได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้จริง เป็นอุโมงค์ยาว 2 กิโลเมตร แต่ส่วนที่เหลือที่ไม่ได้ให้เข้านั้นมีความยาวรวมถึง 180 ไมล์ (ประมาณ 290 กิโลเมตร) แม้จะเข้าชมไม่ได้ทั้งหมด แต่แค่ 2 กิโลเมตรนี้ บรรยากาศความน่ากลัว สยองขวัญ ก็รายล้อมจนเสียวสันหลังไปแล้ว!

===============

 

11. Houska Castle

ปราสาทโฮชกา สาธารณรัฐเช็ก

 

       ปิดท้ายตำนานกันที่ ปราสาทสยองขวัญ ปราสาทโฮชกา Houska แห่งสาธารณรัฐเช็ก ที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 ท่ามกลางหุบเขาอันโดดเดี่ยว

      ปราสาทหลังนี้ถูกสร้างทับอยู่บนหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่งใต้ปราสาท โดยสร้างโบสถ์น้อยไว้อีกหนึ่งอยู่ตรง จุดนั้น โดยมีความเชื่อกันว่า หลุมนี้ลึกจนมองไม่เห็นก้น เป็นประตูเชื่อมลงไปถึงยมโลก หรือที่เรียกกันว่า ประตูนรก เป็นที่อยู่อาศัยของปีศาจครึ่งคนครึ่งสัตว์ หากหลุมนี้ถูกเปิดเมื่อไหร่ ก็อาจนำพาปีศาจร้ายเข้ามายังโลกมนุษย์ได้

 

 

      ความแปลกประหลาดของปราสาทหลังนี้ก็คือ วัตถุประสงค์ในการสร้าง โดยตามปกติแล้วปราสาทจะถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเหมือนป้อมปราการบวกเข้ากับที่อยู่อาศัย แต่ที่นี่ไม่ได้สร้างเพื่อการสู้รบกับข้าศึกแต่อย่างใด เพราะมันเอาไว้กักกัน "บางอย่าง" เอาไว้ไม่ให้ออกมาได้ต่างหาก

     แม้มาจนถึงทุกวันนี้ยังมีเรื่องเล่าของผู้คนที่พบเห็นปีศาจ และภูตผีต่างๆ วนเวียนอยู่ภายในปราสาท เพียงแต่มันถูกขังเอาไว้ ไม่สามารถออกมาข้างนอกได้...

===============

 

สถานที่สยองขวัญ ตำนานอื่นๆ