สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราในฐานะสะใภ้ออสเตรีย จะขอพาเที่ยวสถานที่หนึ่ง ซึ่งเราคิดว่าเป็นหนึ่งในสิ่งสวยงามทรงคุณค่าที่สุดของประเทศออสเตรีย แต่ไม่เห็นทัวร์ไทยไปลงเท่าไรนัก และในอดีต ที่แห่งนี้ก็เคยถูกเรียกว่า “สิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก” มาก่อน ที่นี่ก็คือ Stift Admont ชติฟต์ แอตมอนต์ หนึ่งในห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกค่ะ จะสวยจริงไหมเชิญพิสูจน์ด้วยตาตัวเองเลย ขอบพระคุณรูปภาพจากเว็บไซต์โบสถ์และห้องสมุด Stift Admont https://www.stiftadmont.at/en/ ห้องสมุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์ประจำเมืองแอตมอนต์ ในรัฐชไตเออร์มาร์ค(ภาษาอังกฤษบางทีจะเรียกว่า รัฐสตีเรีย) ทางภาคใต้ของออสเตรีย ถ้าเพื่อน ๆ นั่งการบินไทยบินตรงไปเวียนนา แล้วขับรถไปจากสนามบินเวียนนา จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มาทางถนน A4 แล้วขึ้นทางด่วน E59, S6 และ A9 แล้วขับลงที่ทางลงช่อง Exit 86 ในเมืองทรีเบ็น จากนั้นใช้ถนน L713 และ B146 เลี้ยวขวา จะเห็นบริเวณอาณาเขตโบสถ์อยู่ทางซ้ายมือค่ะ (พิกัด https://goo.gl/maps/av9Mbd5sVLhm3DuX6) ราคาบัตรผู้ใหญ่ 11.50 ยูโร (ประมาณ 400 บาท) เด็ก 6.5 ยูโร (ประมาณ 215 บาท) คนชรา คนพิการ และผู้มาเป็นครอบครัวจะมีส่วนลดให้ค่ะ พอได้บัตรมาแล้ว เขาก็จะให้หูฟังกับเครื่องบรรยายเรามาด้วย เราสามารถกดฟังบรรยายข้อมูลสิ่งต่าง ๆ ในห้องสมุดเป็นภาษาอังกฤษได้ ตามเบอร์ที่ติดไว้มุมต่าง ๆ ค่ะ โบสถ์นี้ความจริงแล้วก่อตั้งในปี ค.ศ. 1074 ถามว่ามันเก่าขนาดไหน ก็คือก่อนยุคพ่อขุนศรีอินทราทิตย์จะก่อตั้งสุโขทัยเรา 160 กว่าปีเลยทุกคน โบราณมากจริง ๆ แต่ว่าเฉพาะส่วนของห้องสมุด สร้างเสร็จในปี 1773 (246 ปีก่อน ก็เท่ากับก่อน ร.1 ก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์เล็กน้อย) โดยมีขนาดถึง 980 ตารางเมตร ซึ่งในบรรดาห้องสมุดโบสถ์ด้วยกันถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว หนังสือในห้องสมุดก็เป็นหนังสือเก่าล้ำค่าทั้งหมดเลย มีการควบคุมอุณหภูมิความชื้น และห้ามสัมผัสแตะต้อง แต่จะมีเปิดตัวอย่างให้เราดูเป็นบางเล่มค่ะ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากหนังสือ คือผลงานศิลปะในห้องสมุด เช่นรูปปั้น 16 ตัว มีตัวที่โดดเด่น 4 ตัวกลางห้องโถง ซึ่งในคริสต์ศาสนาเรียกว่าเป็น “สี่สิ่งสุดท้ายที่มนุษย์ต้องเผชิญ” ได้แก่ ความตาย การกำเนิดใหม่(หลังวันพิพากษา) สวรรค์ และนรก สี่อย่างนี้ปั้นอยู่ในรูปเรือนร่างคนแบบบุคลาธิษฐานทั้งหมด สวยงามและชวนขบคิดมาก ๆ แล้วก็ยังมีจิตรกรรมเพดาน ซึ่งเป็นภาพเฟรสโก้รูปวงกลม วางต่อ ๆ กันไป 7 วง แต่ละวงจะมีรูปเทวดานางฟ้าเต็มไปหมด แต่แน่นอนไม่ใช่เทวดาธรรมดา ๆ แต่เป็นบุคลาธิษฐานอีกเหมือนกัน (คือไม่มีอะไรที่ใส่ประดับมาแบบไร้ความหมายเลยค่ะ ฮ่า ๆ) แสดงความเชื่อมโยงระหว่างวิชาการความรู้ ทางศาสตร์และศิลป์ กับโลกทางจิตวิญญาณ ยกตัวอย่างเช่น วงหนึ่งเกี่ยวกับวิชาทางการแพทย์โดยเฉพาะ ก็จะมีเทวดานางฟ้าที่เป็นสัญลักษณ์ของฟิสิกส์ แร่ธาตุ ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และเรขาคณิต เป็นต้น ไม่รู้ว่าทำไมแต่เราน้ำตาซึมตอนเดินดู ทุกรายละเอียดที่เขาวาดใส่ให้แต่ละตัว คือมันน่าปลื้มใจมากเลยนะ ที่ชาวยุโรปคนสมัยก่อนรักและให้ค่าของการศึกษามากขนาดนี้ ทุ่มเทรวบรวมความรู้จากทุกมุมโลกมาแปล จัดระเบียบ ทดลอง และวาดรูปไว้ให้ สิ่งที่เราทั้งหลายรู้ว่าเป็นข้อเท็จจริงทุกวันนี้ มาจากน้ำพักน้ำแรงของคนเยอะมากในประวัติศาสตร์โลก นี่คือเหตุผลว่า ทำไมการศึกษาคือสิ่งที่มนุษย์ควรทำตลอดชีวิต เรียนรู้ความมหัศจรรย์ของโลกอย่างไม่หยุดนิ่ง ไม่ใช่แค่เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่เพื่อความก้าวหน้าของมนุษย์โดยรวม และเพื่อความรุ่งเรืองของจิตวิญญาณส่วนตัว ก่อนกลับ สามารถแวะชมโบสถ์แอดมอนต์ พิพิธภัณฑ์ชีววิทยา และหอศิลป์ได้นะคะ ทุกอย่างอยู่ในอาณาเขตของโบสถ์หมดเลยใกล้ ๆ (แต่พูดตามตรงถ้าจะให้ดูละเอียดทั้งหมดวันเดียวคงเป็นไปไม่ได้เพราะมันใหญ่มาก) ถ้ามาฤดูร้อนก็สามารถรับลมชมวิวจากบนอาคาร และเดินเล่นริมสระน้ำได้ค่ะ