วันหยุดยาวนี้ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่มีรู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน วันนี้ แต้มเอง จะมาป้ายยาแผนเที่ยววันหยุดสงกรานต์ 2568 เที่ยวจีนยังไงให้สนุกกันครับ ซึ่งวันหยุดสงกรานต์ปี 2568 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน - วันอังคารที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการเล่นน้ำ มาออกเดินทางท่องเที่ยว โดยหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจคือ ประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยสถานที่สวยงาม วัฒนธรรมที่น่าค้นหา และอาหารอร่อยมากมายเลยละครับ แล้วจะเที่ยวจีนให้คุ้มใน 3 วันได้อย่างไร เรามาดูกันดีกว่า 📍 เมืองในประเทศจีนน่าเที่ยว ก่อนการตัดสินอะไร แนะนำให้เลือกเมืองที่จะไปเที่ยวกันก่อนครับ โดยเดือนเมษายนเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของจีน อากาศกำลังดี ไม่ร้อนเกินไป แถมบางพื้นที่ยังมีดอกไม้บานสวยงาม ดังนั้นควรเลือกเมืองที่เดินทางง่ายและมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เมืองทันสมัย มีดิสนีย์แลนด์ ช้อปปิ้ง และวิวแม่น้ำสวยงาม หรือจะเป็น เฉิงตู (Chengdu) บ้านของแพนด้ายักษ์ เที่ยววัดจีนโบราณและชิมอาหารเผ็ดสไตล์เสฉวน หรือปักกิ่ง (Beijing) เยือนกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม และสัมผัสวัฒนธรรมจีนแท้ๆ หรือหากอยากแปลกตาหน่อย ก็คงจะเป็นหางโจว (Hangzhou) เมืองโรแมนติก ล่องเรือชมทะเลสาบซีหู และดื่มชาหลงจิ่งและกุ้ยหลิน (Guilin) ธรรมชาติสุดอลังการ วิวภูเขาหินปูนและแม่น้ำสวยเหมือนภาพวาดครับ ไม่ว่าจะเป็นเมืองไหนในประเทศจีน แต้มบอกเลยว่าคุณมาแล้วจะต้องกลับมาซ้ำอีกแน่นอนเลยครับ ✈ เรื่องของการเดินทาง เดินทางจากไทยไปจีน นิยมเลือกใช้วิธีการบินตรง โดยใช้เวลาประมาณ 3-5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเมืองที่เลือกครับ) แนะนำว่าเลือกบินไปคืนวันที่ 12 เมษายน (ศุกร์กลางคืน) เพื่อมีเวลาเที่ยวเต็มที่ 3 วันจะคุ้มค่าที่สุดครับ การเดินทางในจีน รถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) เพราะเนื่องจากในปัจจุบันประเทศจีนมีระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ครอบคลุมในประเทศจีน และใช้เวลาสั้นมากๆ คุณผู้อ่านสามารถไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงไปเที่ยวเมืองข้างๆ ได้ แบบ 1 Day Trip เลย เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกและรวดเร็วมากครับ Didi (滴滴出行) แอปเรียกรถจีน ซึ่งหากไม่อยากเดินให้เมื่อย ก็สามารถเรียกรถผ่านแอปได้ ใช้แทนแท็กซี่สะดวกกว่า แถมในตอนนี้สามารถเรียก Didi ผ่าน TrueMoney Wallet ได้แล้วด้วยครับ สะดวกมากๆ เลย เดี๋ยวจะมาทำรีวิวให้ดูกันนะครับ 🗓 แพลนเที่ยว 3 วันแบบคุ้มค่า วันที่ 1 (13 เม.ย.) - เช็กอิน & เที่ยวรอบเมือง เช็กอินที่พัก พักผ่อนสักนิดแล้วลุยเที่ยวครับ เดินเที่ยวแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง ซึ่งในแต่ละเมืองก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป ปิดท้ายด้วยอาหารจีนสุดอร่อย เพราะเมืองจีนเป็นเมืองแห่งอาหารนั่นเองครับ ตัวอย่าง: เซี่ยงไฮ้: เดินเล่น The Bund + ช้อปปิ้งที่ Nanjing Road ปักกิ่ง: พระราชวังต้องห้าม + ชมโชว์กังฟูตอนกลางคืนก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ วันที่ 2 (14 เม.ย.) - เที่ยวไฮไลต์หลัก วันนี้จัดเต็มครับ อยากให้ไปเที่ยวสถานที่ไฮไลต์ที่ต้องใช้เวลานาน ถ้ามีธรรมชาติหรือกิจกรรมพิเศษก็ให้เลือกทำวันนี้เลย ตัวอย่าง: กุ้ยหลิน: ล่องเรือแม่น้ำหลีเจียง + ปีนเขา Xiang Gong สูงเสียดฟ้าและวิวที่สวยงาม เฉิงตู: เยี่ยมศูนย์อนุรักษ์แพนด้า + ชมโชว์เปลี่ยนหน้ากากเสฉวนที่อลังการ วันที่ 3 (15 เม.ย.) - เที่ยวเช้า & ช้อปของฝาก ก่อนบินกลับ เที่ยวที่เที่ยวสุดท้าย หรือช้อปปิ้งของฝาก บินกลับไทยช่วงเย็น/ค่ำ เคล็ดลับเที่ยวจีนช่วงสงกรานต์ให้สนุก ✅ โหลดแอป WeChat & Alipay – จ่ายเงินง่ายกว่าเงินสด ✅ ซื้อซิมจีน หรือ eSIM – ใช้อินเทอร์เน็ตสะดวก ✅ พกพาสปอร์ตและแปลชื่อโรงแรมเป็นภาษาจีน – ใช้เวลาเดินทาง ✅ จองตั๋วล่วงหน้า – ตั๋วรถไฟความเร็วสูงและสถานที่ดังอาจเต็มเร็ว ✅ ลองอาหารท้องถิ่น – สัมผัสวัฒนธรรมจีนผ่านรสชาติ แต้มแนะนำว่า เที่ยวจีน 3 วัน เลือกเมืองที่เดินทางสะดวก วางแผนเที่ยวล่วงหน้า ให้คุ้มค่าทุกวัน ใช้เทคโนโลยีจีน ช่วยให้เดินทางง่ายขึ้น สงกรานต์นี้ ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากสาดน้ำมาเที่ยวจีน แพลนนี้เอาอยู่ แล้วคุณล่ะ อยากไปเที่ยวเมืองไหนในจีนช่วงสงกรานต์นี้ ก็สามารถมาพูดคุยกันได้ในช่อง “แสดงความคิดเห็น” ได้เลยนะครับ แต้มเอง เป็นพื้นที่ในการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจที่แต้มได้ไปเจอมา ทั้งสถานที่ อาหาร การใช้ชีวิต และเรื่องราวการเรียนอีกสารพัด ฝากกดติดตามด้วยนะครับ เครดิต รูปภาพหน้าปก / รูปภาพประกอบบทความ - แต้มเอง(ผู้เขียน) ฝากติดตาม · แต้มเอง อ่านบทความอื่นๆ บน TrueID Creator เข้าร่วม Community กับ แต้มเอง อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !