รีเซต

หนาวนี้เที่ยวไหนดี? 20 จุดชมวิวทะเลหมอก ทั่วเมืองไทย สัมผัสไอหนาว

หนาวนี้เที่ยวไหนดี? 20 จุดชมวิวทะเลหมอก ทั่วเมืองไทย สัมผัสไอหนาว
aichan
17 พฤศจิกายน 2559 ( 11:55 )
13.3K
11

เตรียมแพ็คกระเป๋าขึ้นดอย สัมผัสไอหนาวกับ 20 จุดชมวิวทะเลหมอก ของเมืองไทย ออกไปสูดอากาศดีๆ ให้ฉ่ำปอด พร้อมชมทิวทัศน์สุดมหัศจรรย์ หลายแห่งคือที่เที่ยวอันซีนที่ต้องไปเยือนสักครั้ง ปักหมุดไว้แล้วออกเดินทางกันเลย!

 

1.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%ad-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%8a%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%b9%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c

ที่เที่ยวชมภาพวิวสวยทะเลหมอกเขาค้อที่เข้าวินอันดับหนึ่งความนิยมของชาวไทย จุดชมวิวทะเลหมอกเขาค้อมีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง เช่น เหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ศาลาชมวิวเขาค้อ ภูอาบหมอก จุดชมทะเลหมอกถนนสาย 2196 เขาค้อทะเลหมอก และตามรีสอร์ทที่พักที่มีอยู่มากมายบนเขาค้อแห่งนี้ การันตีเลยว่าคุณจะได้ตื่นมาชมแสงแรกของวันท่ามกลางปุยหมอกอย่างแน่นอนในช่วงฤดูฝน-ฤดูหนาว และหากคุณเป็นนักแบกเป้ขาลุย คุณก็สามารถทำการกางเต็นท์พักแรมเพื่อสัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ ได้อีกด้วย

สถานที่ตั้ง : อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

 

2.ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ ใกล้กับภูหินร่องกล้า และสามารถเดินทางไป-มาระหว่างที่เที่ยวเขาค้อทะเลหมอกได้โดยสะดวก เรียกว่าคุ้มการเดินทางมาก ภูทับเบิกเป็นจุดชมทะเลหมอกขึ้นชื่อ โดยจุดเด่นของการมาชมทะเลหมอกที่นี่ คือ ทะเลหมอกที่เกิดขึ้นค่อนข้างใกล้ชิดและแผ่วงกว้างครอบคลุมพื้นที่แปลงผักและไร่กะหล่ำปลีสวยงามสุดลุกหูลูกตา วิว 360 องศาที่ภูทับเบิกแห่งนี้สวยไม่เป็นสองรองภูไหนๆ นอกจากนั้นยังมีที่เที่ยวอื่นๆ ในบริเวณ เช่น หมู่บ้านม้งทับเบิก วัดป่าบ้านทับเบิก และนักท่องเที่ยวยังสามารถกางเต็นท์พักแรมชมวิว ชื่นชมธรรมชาติกันได้อย่างเต็มอิ่มอีกด้วย

สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์

 

3.ม่อนพูนสุดา อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก

จุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง เป็นจุดถ่ายภาพทะเลหมอกขึ้น “ม่อนพูนสุดา” นั้นตั้งตามชื่อปรมาจารย์นักถ่ายภาพของเมืองไทย อ. พูน เกษจำรัส และภรรยา คุณพูนสุดา ผู้ซึ่งเป็นผู้เข้ามาถ่ายภาพทะเลหมอกเป็นคนแรกในม่อนแห่งนี้ และที่น่าสนใจ คือ ในบริเวณม่อนพูนสุดา ยังมีจุดชมทะเลหมอกในบริเวณใกล้ๆ กันอีก 2 แห่ง คือ ม่อนกิ่วลมและม่อนครูบาใส ที่สามารถเดินทางเข้าไปชมได้อย่างสะดวกโดยทางรถยนต์ทั้ง 3 จุด ม่อนพูนสุดาขึ้นชื่อเรื่องการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกที่มีความงามของสีทองสะท้อนปุยเมฆเป็นที่สวยงามน่าอัศจรรย์ใจ นอกจากนั้นป่าเขาในบริเวณนี้ก็ยังมีความงามอุดมสมบูรณ์ มีเส้นทางลัดเลาะศึกษาธรรมชาติ และในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั้นก็ยังเป็นจุดชมดอกไม้ป่านานาพันธุ์ เช่น ดอกบัวตอง และดอกกระทือสีแดง เป็นต้น

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก

 

4.ภูชี้เพ้อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าที่สวยงามจับตา ทั้งยังใกล้กับทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อู่คอและสามารถมองเห็นวิวทุ่งดอกบัวตองเหลืองอร่ามได้จากภูแห่งนี้ด้วย ถือเป็นจุดชมธรรมชาติอันซีนที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักกันมากนัก การขึ้นไปชมวิวทะเลหมอกที่นี่จะต้องเดินทางมาชมก่อนรุ่งสาง ไม่สามารถกางเต็นท์พักแรมบนภูชี้เพ้อได้ แต่สามารถพักแรมได้ที่ดอยแม่อู่คอซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน และรถกระบะหรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นสมบุกสมบันเท่านั้นจะสามารถขึ้นภูได้ ทั้งนี้จะต้องเดินเท้าขึ้นด้านบนอีกร่วม 1 กิโลเมตร

สถานที่ตั้ง : หน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

 

5.ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เจ้าของสมญานาม “สวิตเซอร์แลนด์แดนสยาม” เป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำยอดดอย ขนาดใหญ่ ปางอุ๋งเป็นจุดท่องเที่ยวทั้งชมทะเลหมอกและชมธรรมชาติหน้าหนาวยอดนิยมในช่วงหลายปีหลังมานี้ เพราะขึ้นชื่อว่ามีทิวทัศน์ธรรมชาติและบรรยากาศที่โรแมนติกมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยแต่เดิมนั้นเคยเป็นพื้นที่สีแดงและมีการตัดไม่ทำลายป่าอย่างมาก แต่ต่อมาในหลวงได้ทรงมีพระราชดำริให้ฟื้นฟูสภาพป่าแถบนี้ กิจกรรมยอดนิยม คือ การมาชมทะเลหมอกยามเช้า ล่องแพชมธรรมชาติ ชมดอกไม้และชิมผลไม้เมืองหนาวที่ปลูกไว้อย่างมากมายในไร่สวนของที่ทำการโครงการในพระราชดำริฯ

สถานที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.แม่ฮ่องสอน

 

6.ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย

อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าราว 30 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแบบพาโนรามา และเป็นจุดชมดอกซากุระเมืองไทยยอดนิยมแห่งหนึ่ง โดยในช่วงปลายปี-ต้นปีจะมีเทศกาล “ชมทะเลหมอก ดอกซากุระบาน” เป็นประจำทุกปี นอกจากนั้นในบริเวณใกล้เคียงของดอยแห่งนี้ยังเป็นเขตหมู่บ้านชาวจีนฮ้อ ชาวเขาเผ่าม้งและเย้า ที่เที่ยวชมธรรมชาติที่น่าสนใจมีหลายแห่ง เช่น ป่าหินยูนนาน ศาลาเก๋งจีน พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ จุดชมวิวผาบ่องประตูสยาม จุดชมวิวช่องผาขาด จุดชมทะเลหมอกเนิน 102 และเนิน 103

สถานที่ตั้ง : บ้านผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

 

7.ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

สถานที่ชมทะเลหมอกยอดฮิตของเมืองไทย เป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี โดยจุดชมวิวจะอยู่บริเวณแนวชะง่อนหน้าผาหลักของภู ซึ่งในบริเวณนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกสวยงามครอบคลุมทิวเขาด้านล่าง โดยจะสามารถเริ่มชมทะเลหมอกกันได้ตั้งแต่ช่วงฤดูฝนไปจนตลอดฤดูหนาว นอกจากนั้นหากมาเยือนในช่วงปีใหม่ก็จะได้ชมประเพณีพื้นบ้าน “โยนลูกช่วง” ของชาวม้งที่จะแต่งชุดประจำเผ่าสีสันสวยงามมาร่วมประเพณีโยนลูกหินของหนุ่ม-สาวม้ง และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนมีนาคม ก็จะเป็นช่วงชม “ดอกเสี้ยว” หรือ “ดอกชงโคป่า” ที่จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณภูแห่งนี้

สถานที่ตั้ง : บ้านร่มฟ้าไทย ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย

 

8.ดอยแม่ตะมาน จังหวัดเชียงใหม่

ดอยแม่ตะมานเป็นจุดชมธรรมชาติสวยงามขึ้นชื่อ โดยจากบริเวณจุดชมวิวของดอยแม่ตะมานนั้นสามารถมองเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวได้อย่างถนัดตา และนอกจากจะเป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว ก็ยังเป็นจุดดูดาวยามค่ำคืน ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมกราคม นักท่องเที่ยวก็สามารถเดินทางเข้ามาชมซากุระเมืองไทยหรือดอกพญาเสือโคร่งได้อีกด้วย แต่หนทางเข้าชมนั้นค่อนข้างลำบาก แต่ก็ถือว่าเป็นบริเวณที่มีดอกซากุระหนาแน่นมาก นอกจากนั้นยังมีส่วนของแปลงดอกไม้และผลไม้เมืองหนาวที่เปิดให้เข้าชมได้ นักท่องเที่ยวสามารถค้างแรมได้บนดอยแห่งนี้ในบริเวณสถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ และหน่วยการจัดน้ำแม่ตะมาน

สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่ระหว่างหน่วยจัดการน้ำแม่ตะมาน ตำบลแม่นะ อ.เชียงเดียว และ ต.กี๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

 

9.ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

หรือสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็น 1 ในโครงการหลวงที่ในหลวงฯ ทรงมีพระราชดำริให้ฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและไร่ฝิ่นให้เป็นที่ทำกินแบบยั่งยืนโดยการปลูกพืชและผักเมืองหนาวมากมาย ดอยอ่างขางมีอากาศเย็นตลอดปี และค่อนข้างหนาวจัดในช่วงหน้าหนาว มีจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่ปกคลุมไปทั่วดอยและยังเป็นที่ชมดอกไม้เมืองหนาวที่จะบานในช่วงปลายปี-ต้นปี รวมไปถึงผักผลไม้เมืองหนาวสดอร่อยที่หาซื้อได้ในราคาย่อมเยา นอกจากนั้นยังมีเส้นทางดูนก เส้นทางศึกษาธรรมชาติและหมู่บ้านชาวเขาที่สามารถไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตและเลือกซื้องานหัตถกรรมพื้นบ้านฝีมือดีได้อีกด้วย

สถานที่ตั้ง : บ้านคุ้ม ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

 

10.ดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “ดอยฟ้าห่มปก” เป็นเขตอุทยานแห่งชาติและมียอดดอยที่สูงเป็นอันดับ 2 ของไทย มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี นอกจากจะได้ชมทะเลหมอกสวยงามในยามเช้าแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นทั้งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามไม่แพ้สถานที่อื่นๆ นอกจากนั้นยังเป็นบ้านตามธรรมชาติของผีเสื้อนานาพันธุ์และสัตว์ป่าสงวนต่างๆ อีกทั้งยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น โป่งน้ำร้อนฝาง น้ำตกโป่งน้ำดัง น้ำตกตาดหมอก น้ำตกปู่หมื่น ห้วยแม่ใจ และถ้ำห้วยบอน เป็นต้น

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่

 

11.ดอยแม่จอก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จังหวัดน่าน

ดอยสูงกว่า 1,424 เมตรที่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าแบบพาโนรามา ดอยแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์ของเขาน้อยใหญ่ที่เรียงรายสลับกันมากมาย และในช่วงเช้าที่มีหมอกหนาปกคลุมยอดเขาเบื้องล่างก็ประหนึ่งเหมือนมหาสมุทรปุยหมอกที่มีเกาะเล็กเกาะน้อยผุดขึ้นเต็มไปหมด ในบริเวณดอยแม่จอกแห่งนี้มีบริการบ้านพักและสามารถทำเรื่องขออนุญาตกางเต็นท์พักแรมค้างคืนได้

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาหมื่น จ.น่าน

 

12.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

ดอยสูงสมชื่อ “เสมอดาว” ที่นอกจากจะเป็นจุดชมดาวยามค่ำคืนแล้ว ยังเป็นทั้งจุดชมแสงแรกและแสงสุดท้ายแห่งวัน และเป็นจุดชมทะเลหมอกสวยงามในยามเช้าอีกด้วย ที่สำคัญในบริเวณไม่ไกลกันก็ยังมีจุดชมวิวอีกแห่งที่ผาหัวสิงห์ซึ่งในบริเวณนี้สามารถมองเห็นวิวได้ไกลแบบรอบด้าน 360 องศา และสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำน่านและตัวอำเภอนาน้อยได้อีกด้วย ที่สำคัญนักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ด้วย

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน

 

13.ภูหัวฮ่อม จังหวัดเลย

เขตเทือกเขาสลับซับซ้อนที่มีจุดชมทะเลหมอกในยามเช้าและจุดชมพระอาทิตย์ตกดินขึ้นชื่อ มากไปกว่านั้นยังสามารถมองเห็นขอบแดนธรรมชาติระหว่างไทยและลาวได้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีจุดชมนกสำคัญ ในบริเวณนี้ติดกับพื้นที่ของสมรภูมิรบในอดีต “สมรภูมิร่มเกล้า” และถัดไปราว 4 กิโลเมตรก็เป็นที่ตั้งของน้ำตกตาดเหือง ที่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามที่สุดในแถบนี้

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อ.นาแห้ว จ.เลย

 

14.ภูทอก จังหวัดเลย

เขาสูงริมแม่น้ำโขงที่ด้านบนเป็นที่ตั้งของสถานีโทรคมนาคมของเมืองเชียงคาน และยังเป็นบริเวณที่เกิดทะเลหมอกขึ้นหนาแน่นและอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมงในช่วงเช้าของช่วงฤดูหนาว ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเชียงคานเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถมองเห็นทั้งทะเลหมอก วิวเมืองเชียงคานและวิวสองฝั่งแม่น้ำโขง ว่ากันว่าที่ภูทอกในยามเช้านั้นสามารถเดินลุยหมอกกันได้เลยทีเดียว

สถานที่ตั้ง : ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย

 

15.ผาชูธง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

ผาสูงชันที่ตั้งอยู่ระหว่างกลางลานหินปุ่ม ในอดีตผาชูธงเป็นที่ส่งสัญญาณของกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่หลบเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ ปัจจุบันได้มีการนำธงชาติไทยมาปักไว้แทน บริเวณทางขึ้นไปชมวิวบนผาชูธงนั้นมีบันไดทางขึ้นอยู่รอบๆ จัดเป็นที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยงาม และในช่วงเช้าของฤดูหนาวจะมีหมอกหนาปกคลุม เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก 360 องศาที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก

 

16.ยอดโมโกจู อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร

เป็นบริเวณที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของประเทศไทย เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นจุดชมทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขง ในบริเวณนี้มีธรรมชาติสวยงามให้ได้ชมหลายแห่ง เช่น เสาเฉลียงคู่ ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม และน้ำตกห้วยพอก การเดินทางไปชมค่อนข้างลำบากเล็กน้อย เพราะต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปเท่านั้น ไม่มีถนนลาดยาง และต้องขึ้นไปถึงจุดชมวิวราวตี 5 เพื่อจะได้ทั้งชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกแบบเต็มๆ ไม่เสียเที่ยวการเดินทาง

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

 

17.ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานี

ผาชะนะได จังหวัดอุบลราชธานีเป็นบริเวณที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแสงแรกของประเทศไทย เป็นหน้าผาสูงชันและเป็นจุดชมทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขง ในบริเวณนี้มีธรรมชาติสวยงามให้ได้ชมหลายแห่ง เช่น เสาเฉลียงคู่ ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม และน้ำตกห้วยพอก การเดินทางไปชมค่อนข้างลำบากเล็กน้อย เพราะต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อขึ้นไปเท่านั้น ไม่มีถนนลาดยาง และต้องขึ้นไปถึงจุดชมวิวราวตี 5 เพื่อจะได้ทั้งชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกแบบเต็มๆ ไม่เสียเที่ยวการเดินทาง

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี

 

18.ห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย

จุดชมทะเลหมอกภาคอีสานที่ถือว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ เพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าทะเลหมอกนั้นมีให้ชมที่ยอดดอยในภาคอีสานเช่นกัน จุดชมทะเลหมอกจุดนี้สามารถมองไปได้ไกลและเห็นทะเลหมอกลอยเด่นเหนือลำน้ำโขงที่ทอดกั้นระหว่างประเทศไทยและลาว โดยจะมีบริการรถอีแต๋นของชาวบ้านในพื้นที่พานักท่องเที่ยวขึ้นไปชมทะเลหมอกบนยอดภูในช่วงเช้าทุกวันของฤดูกาลนี้ ในระหว่างเวลา 05.30-9.00 น. เนื่องจากเป็นพื้นที่ๆ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นไปได้

สถานที่ตั้ง : ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย (ใกล้กับสนามบินที่จังหวัดอุดรธานี)

 

19.พะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี

เป็นบริเวณที่สามารถชมทะเลหมอกได้เกือบทั้งปี โดยมีจุดชมทะเลหมอกหนาแน่นที่กิโลเมตรที่ 30 และ 36 ในระหว่างช่วง 6.00-8.00 น. จะเป็นช่วงที่หมอกปกคลุมแน่นที่สุด ทั้งนี้พะเนินทุ่งจะปิด 3 เดือนในช่วงฤดูฝน เดือนสิงหาคม – เดือนตุลาคม และนอกจากจะได้ชมทะเลหมอกแล้ว พะเนินทุ่งยังเป็นจุดชมนกมากมายกว่า 400 ชนิดและจุดชมผีเสื้อหลากพันธุ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสมารถกางเต็นท์ค้างคืนเพื่อชมธรรมชาติกันได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

สถานที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

 

20.เขาไข่นุ้ย จังหวัดพังงา

จุดชมวิวทะเลหมอกแห่งภาคใต้ที่มีความงามของทิวหมอกไล่ระดับที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น จัดเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติแนวอันซีน เขาไข่นุ้ยมีจุดชมทะเลหมอก 2 จุด คือ บริเวณด้านบนและด้านล่างของเขา ที่ทั้ง 2 แห่งจะได้ชมวิวทิวทัศน์ทะเลหมอกในมุมที่สวยงามต่างกัน นอกจากนั้นไฮไลท์เด่นของที่นี่ก็คือ สามารถมาชมได้ทั้งวิวทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ชมทิวทัศน์ขุนเขาและท้องทะเลอันดามันในมุมสูง การเข้าไปชมต้องติดต่ออบต. ทุ่งมะพร้าวเพื่อขอบริการพาเข้าชม เพราะการเดินทางขึ้นไปค่อนข้างลำบากและมีความสูงชัน

สถานที่ตั้ง : บ้านฝายท่า ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา

 

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก Skyscanner

 

 

ติดตาม travel.truelife.com อีกช่องทางที่

ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และที่พัก คลิกที่ http://travel.truelife.com