รีเซต

7 ที่พักช่วงหน้าฝน สุดชิลล์ และกิจกรรมสนุกๆ ที่พลาดไม่ได้

7 ที่พักช่วงหน้าฝน สุดชิลล์ และกิจกรรมสนุกๆ ที่พลาดไม่ได้
เอิงเอย
21 กรกฎาคม 2558 ( 10:06 )
20.4K


เคยไหมเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ แล้วอยากไปเที่ยว แต่เวลาเข้าหน้าฝนทีไรก็นึกไม่ออกสักทีว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี หรือถ้าฝนตกทำให้ใครหลายๆ คนรู้สึกว่า ไม่มีที่ไหนน่าไป อย่าเพิ่งคิดไปแบบนั้นค่ะ เพราะที่จริงแล้วการเที่ยวหน้าฝนมีข้อดีมากมายที่คุณอาจนึกไม่ถึงเลยทีเดียว ทั้งการได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามช่วงฟ้าหลังฝน ไม่ต้องไปแย่งกันอยู่แย่งกันกินเหมือนช่วง High Season และที่สำคัญ มีที่พักราคาพิเศษมากมายให้เลือกสรรอย่างจุใจโดยไม่ต้องกลัวว่าห้องพักเหล่านั้นจะเต็มเร็ว ตามเรามาชิลล์กันกับ Agoda ที่มีที่พัก 7 แห่งสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวช่วงฤดูฝนมาฝากกันค่ะ

 

1. เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท : กาญจนบุรี

 

“เรือนแพลอยน้ำสุดหรู” ที่ได้รับการออกแบบให้ห้องพักทุกห้องเป็นแบบวิลล่า มีพื้นที่กว้างขวาง เเละมีความเป็นส่วนตัว  วิลลาทุกหลังเห็นวิวทิวทัศน์เเบบพาโนรามาของเเม่น้ำเเคว ป่าเขาเขียวขจี เเละหน้าผาหินที่รายล้อม รีสอร์ตตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างดี เป็นรีสอร์ตบูทิคเเนวใหม่ที่เรียกว่า Luxury Boutique Folk Style ซึ่งหมายถึงการผสมกลมกลืนศิลปะท้องถิ่นกับสภาพเเวดล้อมธรรมชาติอย่างลงตัว 

นอกจากรีสอร์ตที่ชิลล์มากๆ แล้ว ยังสามารถลิ้มอาหารเลิศรสจากห้องอาหารพอนทูน (Pontoon Restaurant) ห้องอาหารลอยน้ำท่ามกลางขุนเขาซึ่งเป็นจุดชมวิวสองฝั่งเเม่น้ำเเควน้อยอันสวยงาม นอกจากนี้ ไม่ไกลจากรีสอร์ต นักท่องเที่ยวยังสามารถไปเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย หรือไทรโยคใหญ่ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี รวมถึงฤดูฝนซึ่งระดับน้ำอาจจะสูงกว่าฤดูอื่นๆ สักหน่อย หรือนักท่องเที่ยวจะแวะไปทำบุญที่วัดเสือชื่อดังก็เดินทางได้อย่างง่ายดาย

 

 

2. หินตกริเวอร์แคมป์ : ช่องเขาขาด กาญจนบุรี

 

หินตกริเวอร์แคมป์ ช่องเขาขาด เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การพักผ่อนที่สนุกสนาน และแตกต่างไปจากที่เคยค่ะ ที่พักค้างเเรมเป็นเต็นท์ผ้าใบขนาดใหญ่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเครื่องปรับอากาศ และห้องน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังมีสระน้ำธรรมชาติริมแม่น้ำแควที่ให้คุณผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสบายๆ ฟังเสียงสายน้ำไหลท่ามกลางธรรมชาติ 

รวมถึงได้ไปอิ่มอร่อยกับบาร์บีคิวรอบกองไฟ ให้สนุกสนานท่ามกลางแสงจันทร์ ได้ไปชมไปศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และที่มาช่องเขาขาดที่พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด นอกจากนี้ ทางที่พักยังมีกิจกรรมผจญภัยต่างๆ เช่น บริการเช่าจักรยานเสือภูเขาไว้เดินทางภายในและนอกเเคมป์ฟรี   พายแคนู  เดินป่าอุทยาน  เที่ยวน้ำตก และนวดแผนไทย เป็นต้น

 

 

3. เซนศาลา ริเวอร์พาร์ค รีสอร์ท : เชียงใหม่

 

“เซนศาลา ริเวอร์พาร์ค รีสอร์ท” เป็นที่พักที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการตกแต่งอย่างมีสไตล์ โดยผสมผสานแนวโมเดิร์นทันสมัย และกลิ่นอายความเป็นล้านนาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตัวอาคารออกแบบเป็นบล็อกและใช้ปูนเปลือย มีห้องพักให้เลือกพักหลายรูปแบบ แถมการวางผังพื้นที่ของแต่ละห้องพักก็แตกต่างกันไปอีกด้วยทำให้ทุกห้องสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำปิงได้ ทำให้ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นฤดูฝนหรือฤดูไหนๆ ที่นี่ก็เหมาะและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ

 

 

4. เรเวอรี่สยาม : ปาย แม่ฮ่องสอน


ด้วยห้องพัก 18 ห้องในแต่ละสไตล์และห้องพักสำหรับครอบครับ 1 ห้อง เรเวอรี่สยาม คือ ความหมายของการบริการที่หรูหรา แปลกใหม่และละเอียดลออ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมในยุคอาณานิคมแบบโคโลเนียลผสานด้วยวัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรเวอรี่สยามเปรียบเสมือนโอเอซิสแห่งความฝันและความคิดถึงสำหรับยุคอดีตของความโรแมนติกและความสง่างาม เรเวอรี่สยามตั้งอยู่บนภูเขาที่สวยงามของภาคเหนือของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงเช่นเมืองปาย นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวช่วงฤดูฝนจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริงและได้รับอากาศเย็นสบายในช่วงนี้ด้วย

 

 

5.  เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ รีสอร์ต : เชียงราย

 

เอ-สตาร์ ภูแล วัลเลย์ เชียงราย ดินแดนแห่งการพักผ่อนอ้อมกอดแห่งขุนเขาท่ามกลางธรรมชาติที่สุดของความสุขแห่งการพักผ่อน แวดล้อมด้วยบรรยากาศอันบริสุทธิ์ ในช่วงหน้าฝน ตอนกลางวันจะอิ่มเอมกับความเขียวขจีของแมกไม้นานาพันธุ์ และได้บรรยากาศลมเย็นในช่วงค่ำคืนดื่มด่ำกับดาวนับล้านดวง ที่สรรค์สร้างบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ให้ทุกช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเป็นส่วนตัวแบบ “Exclusive”

 

 

6. โรงแรมลา คาเซ็ทต้า บาย ทอสกานา วัลเล่ : เขาใหญ่ นครราชสีมา

 

โรงแรมหรูสไตล์ทอสกานี่ ท่ามกลางธรรมชาติของเขาใหญ่ที่โครงการ “TOSCANA VALLEY” บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกจะทำให้การพักผ่อนของคุณ และครอบครัวเป็นไปอย่างพิเศษบนพื้นที่ความเป็นส่วนตัวสูงพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน 

ที่นี่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทำให้ผู้เข้าพักเหมือนไปเที่ยวอิตาลีจริงๆ ด้วยภูมิทัศน์ท่ามกลางต้นจูนิเปอร์ที่สูงตระหง่านและพุ่มไม้โอ๊คพร้อมสวนดอกไม้นานาพันธ์ ให้คุณรู้ว่า “มหัศจรรย์ของความฝัน ไม่ใช่สิ่งที่แตะต้องไม่ได้อีกต่อไป”

 

 

7. ครอสทู ริเวอร์แคว : กาญจนบุรี

 

ครอสทูริเวอร์แควตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 6 ไร่ติดแม่น้ำแควน้อย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมง และอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีอย่างสะพานข้ามแม่น้ำแคว และสุสานสัมพันธมิตรดอนรักเพียง 20 นาทีเท่านั้น

ห้องพักทุกห้องหันหน้าสู่แม่น้ำแควน้อย รถไฟและแม่น้ำได้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบรีสอร์ตซึ่งทางเจ้าของและทีมสถาปนิกได้นำจุดเด่นเหล่านี้มารวมกัน และสร้างสรรค์เป็นผลงานสถาปัตยกรรมชั้นยอดกับการออกแบบแนว Industrial Chic ห้องพักทุกห้องจะเน้นพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางพร้อมกับฉากทางธรรมชาติของแม่น้ำ ท้องฟ้าและภูเขาที่งดงามและดีไซน์ล้ำสมัย

สามารถจองโรงแรม และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Agoda.com

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก Agoda



 

ติดตาม travel.truelife.com ได้อีกช่องทางที่

FB : Travel Truelife

 ทุกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาหาร และสุขภาพ คลิกที่http://travel.truelife.com