แสงแรกที่ Pokhara เนปาล การเดินทาง เริ่มต้นเดินทางกันเลยครับ วันนี้ผู้เขียนจะพาข้ามฝั่งจาก อินเดีย ไปยัง ประเทศเนปาล ไปกันเป็นกลุ่มเพื่อน ชาย 1 หญิง 3 พวกเราทั้งหมด ล้วนเป็นนักศึกษาไทย ที่มาเรียนในอินเดีย จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้จึงเริ่มต้นที่ อินเดียล่ะครับ เราเริ่มเดินทางจากชายแดนเมือง Panitanku ประเทศอินเดีย ไปยังเมือง Kakarbhita โดยเราต้องเตรียมหนังสือเดินทางให้พร้อม กรอกเอกสารข้อมูลพื้นฐานนิดหน่อย ที่เหลือเจ้าหน้าที่จะจัดการให้หมด เราจะได้วีซ่าท่องเที่ยวเนปาลเป็นเวลา 15 วัน เสียค่าใช้จ่ายเป็นค่าทำเอกสาร 1,000 รูปีอินเดีย และค่าวีซ่าเข้าเนปาลอีก 750 รูปีอินเดีย จากนั้นเราก้อสามารถเดินเข้าประเทศเนปาลได้ชิลๆเลย เราข้ามฝั่งมาที่เมือง Kakarbhita เพื่อจะต่อรถไปยังจุดหมายปลายทางของเราที่เมือง Pokhara โดยเราเดินทางโดย Local bus ใช้เวลาเดินทาง 13 - 14 ชั่วโมง เราก็มาถึง โพคารา (Pokhara Valley) โปรขระ โภครา หรือโพคารา (Pokhara Valley) เมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร โดยสามารถไปได้ทั้งทางอากาศและทางรถยนต์ ทั้งยังเป็นเมืองชายแดนติดกับประเทศอินเดียอีกด้วย โดยมียอดเขาซารางกอตเป็นเทือกเขาใหญ่ และที่เมืองโปขระเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 รองจากกาฐมาณฑุจากที่นี่จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเธาละคีรี (Dhanulagiri) มนะสลู (Manaslu) มัชฉาปุรณะ (Machhapuchher) และยอดเขาอรรณาปุรณะ (Annapurana) ทั้ง 5 ยอด เป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 827 เมตร และเป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุดเนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร และที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินขึ้นเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกคือเอเวอเรสต์ อาหาร ที่พัก โพคาราเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเยอะหลากหลายชาติ ศาสนา สำหรับอาหารและที่พักจึงเป็นสิ่งทีหาง่าย สะดวกสบาย ที่พักมีหลากหลายราคา ผู้เขียนพักห้องที่นอนได้ 4 คนราคาประมาน 1,400 รูปีเนปาล ถูกมาก ส่วนอาหารก็มีร้านอาหารให้เลือกทานได้หลากหลายมีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ร้านอาหารไทยก็มีนะครับราคาก็พอสมควร สำหรับผมเป็นนักท่องเที่ยวแบบ ประหยัดหน่อยก็จะแนะนำอาหาร Nepal street food ราคาจะย่อมเยาหน่อย ตกมื้อนึง 100 – 200 รูปีเนปาล สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเมืองโพคารา เมืองโพคารามีสถานที่ ที่น่าสนใจอยู่หลายที่ โดยการเที่ยวรอบๆเมืองโพคารา เราสามารถเช่าเหมารถ jeep นำเที่ยวได้ในราคา 1,000 รูปีเนปาล โดยไกด์นำเที่ยวจะพาเราขับรถไปยังสถานที่ต่างๆ ดังนี้ • ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ ยอดเขามัจฉาปูชเร ยอดเขาอรรณาปุรณะ ทั้ง 5 ยอด โดยเฉพาะยอดเขาอรรณาปุรณะ 1 ที่สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก ยอดเขาเธาละคิรี ยอดเขามนะสลู และวิวของเทือกเขาหิมาลัย • ล่องเรือทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ภาพทะเลสาบความงามของเฟวาสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเรที่มีรูปร่างคล้ายหางปลานั้นเป็นภาพที่มีมนต์ขลังให้นักท่องเที่ยวอยากไปเยือนสักครั้ง ตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งมีสถูปสีขาวชื่อวัดบาลาฮีลอยเด่นตัดกับพื้นน้ำสีเขียวมรกต เล่าขำๆ เนื่องจากทะเลสาบเฟวามีนักท่องเที่ยวเยอะ จึงมีชาวพื้นถิ่นประกอบอาชีพที่หลากหลาย หนึ่งในอาชีพที่ผู้เขียนให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ ผู้เขียนเพิ่งเคยเห็นหมองูที่เป่าปี่เรียกงูออกจากไหครั้งแรกของชีวิต จึงสนใจเป็นอย่างมากจึงเข้าไปถ่ายใกล้ๆ จู่หมองูท่านหนึ่งเอางูเห่าตัวเขื่องมาห้อยคอผู้เขียน และเรีกเก็บเงินจำนวน 2,000 รูปี สุดท้าย ก้อเสียตังตามระเบียบ 5555 • น้ำตกเดวิส (Devi’s Fall) น้ำตกที่ตั้งชื่อตามเด็กชายเทวีที่มาเสียชีวิตพร้อมคู่รัก ณ ที่แห่งนี้น้ำตกแห่งนี้น้ำตกแห่งนี้แปลกกว่าที่อื่นตรงที่ต้องชะโงกหน้าก้มลงไปดู เพราะเป็นน้ำตกที่ทิ้งตัวลงจากลำธารลงสู่ช่องเขาเบื้องล่างลึกลงไปกว่า 100 เมตร นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความลึกที่สุด • วัดบาลาฮี (Barahi Temple) วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโปขระ ทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่เทพธิดา • วัดบินดาบาซินี วัดนี้สร้างในปี 1845 เพื่อถวายแด่เทพธิดา บาวานี เทพธิดา วัดนี้ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเมืองโปขราและวัดนี้เป็นวัดที่คนโปขรานิยมมาแต่งงานกันอีกด้วย สำหรับการเที่ยวโพคาราครั้งนี้ผู้เขียนมีความประทับใจเป็นอย่างมาก สภาพอากาศกำลังเย็นสบาย หนาวหน่อยในช่วงกลางคืน อาหารโอเคกินได้ ที่พักก็ดีสะดวกสบายพวกเราพักที่โพคารา 2 คืน หลังจากนั้นเราเก็บกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวอีกสถานที่หนึ่งซึ่งน่าสนใจมากคือ กาฐมัณฑุ เมืองหลวงของเนปาล จะเป็นยังไง รอติดตามนะครับ ถ่ายภาพโดยผู้เขียน