ประเทศอินเดียหลากหลายเรื่องราวที่เคยอยู่ในตำรา พอโตขึ้นเราจะรู้เองว่า ประวัติศาสตร์มีที่มา และมีสถานที่จริงอยู่และวันหนึ่งใครจะคิดว่าจะได้มายืนอยู่แผ่นดินอินเดีย การเดินตามรอยพระพุทธเจ้า อยู่บนความตื่นเต้นและยิ่งพบกีบสถานที่จริงยิ่งทำให้เข้าใจลึกซึ้งขึ้น วันนั้นในตอนเช้าที่รถออกจากที่พัก ซึ่งเราพักที่วัด ออกเดินทางจาริกบุญในสถานที่แห่งแรกนั่นคือ บ้านเศรษฐีผู้ใจบุญ ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินหรือได้อ่านในพุทธประวัติ คือเป็นบุคคลที่ถวายเงินซื้อที่ดินสร้างวัดเชตวัน ตอนแรกที่ฟังประวัตินั้นคิดว่าตัวบ้านน่าจะยังไม่เหลือให้เห็น เพราะนานมาแล้ว บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้ใจบุญ อนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้น แต่ก่อนนั้นมีชื่อว่า สุทัตตะ เป็นชาวสาวัตถีในแคว้นโกศล ซึ่งได้เกิดมาในตระกูลสุมนะซึ่งเป็นพ่อ พ่อของสุทัตตะนั้นเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยมาก นอกจากรวยแล้ว สิ่งที่สุทัตตะชอบทำคือ การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ทำบุญทำทานอยู่เสมอ ทำให้ต่อมาจึงทำให้ชาวบ้านชาวเมืองทั่วสาวัตถี เรียกขานท่านในชื่อ อนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งแปลความหมายได้ว่า เศรษฐีผู้เป็นที่พึ่งของคนยาก เพราะทุกครั้งที่เห็นคนตกทุกข์จะไม่นิ่งอยู่ทำบุญทำทานเรื่อยมา อาชีพของบิณฑิกเศรษฐีคือค้าขาย จนมาครั้งหนึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีได้เดินทางไปค้าขาย และบังเอิญได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าที่กรุงราชคฤห์ จนทำให้ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน และในเวลาต่อมานั้นบิณฑิกเศรษฐีจึงได้มีจิตศรัทธาสร้างวัดเชตวันมหาวิหาร ด้วยเงินจำนวนมหาศาล ด้วยการนำแผ่นทองถึง 54 โกฏิ ไปเป็นค่าที่ดินของเจ้าเชตถวายแก่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อให้พระพุทธเจ้าได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น ยาวนานถึง 19 พรรษา จึงทำให้วัดแห่งนี้ชื่อ วัดเชตวัน ตั้งตามชื่อเจ้าของที่ ซึ่งจะเห็นได้ว่า แม้ว่าบิณฑิกเศรษฐีจะเป็นคนสร้าง แต่ก็ไม่ได้ใส่ชื่อของตนเอง เมื่อสร้างวัดถวายแล้ว อนาถบิณฑิกเศรษฐียังอุปถัมภ์พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์มาโดยตลอด บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งในสมัยนั้นน่าจะเรียกคฤหาสน์ทอง เพราะรอบบ้านนั้นเต็มไปด้วยบ่อทองมากมาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ถ้าเราไปดูก็จะยังคงเห็น หลุมหรือบ่อที่เชื่อว่าเป็นที่เก็บทองทั้งหมด ลักษณะของบ่อจะเป็นสี่เหลี่ยมลึกลงไปจนถึงดิน หลุมลึกประมาณ สองถึงสามเมตร เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของอนาบิณฑิกเศรษฐี จะมีความเชื่อในเรื่องของการอธิษฐาน เพื่อให้ร่ำรวย และมีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ในสมัยนั้นแผ่นทองจำนวน 54 โกฏิ ถือว่ามีจำนวนมหาศาลมาก การสละซึ่งทรัพย์สินของตนเพื่อถวายให้เป็นส่วนรวม มาจากการศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า การเดินชมรอบบ้าน สามารถเดินชมรอบบ้านซึ่งจะมีบันไดขึ้นด้านหน้า พื้นที่ทั้งหมดนั้นสามารถเดินลัดถึงกันได้ ห้องลึกพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้าน ส่วนมากจะเป็นห้องสำหรับใส่สมบัติ เนื่องจากเป็นพ่อค้าที่มีความร่ำรวย ระหว่างเดินชมสถานที่จะเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชายสี่ห้าคนยืนมองกลุ่มของเรา ที่ถ่ายรูปและส่งเสียงหัวเราะสนุกสนาน แม้กลุ่มของเราหยุดแล้วมองกลับ สายตาเหล่านั้นก็ไม่ได้ตกใจหรือละสายตา สังเกตได้ว่าชาวอินเดียส่วนมากเวลาที่ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆนั้น จะไม่ค่อยเจอผู้หญิงเที่ยว ส่วนมากจะเป็นผู้ชาย แต่งตัวดีมีภูมิฐานหน่อย แต่ก็ตามลักษณะรูปร่าง ตัวเล็กหุ่นกะทัดรัด หนุ่มน้อยเรียนรู้และศึกษาสถานที่สำคัญทางศาสนา ความเปลี่ยนแปลงของการแต่งตัวในอินเดีย ชุดเที่ยวของวัยรุ่นชายสมัยใหม่ เป็นเรื่องปกติที่จะโดนมอง เวลาที่เราไปเที่ยวเราต้องเตรียมเลย ว่าจะต้องถูกมองแบบไม่ละสายตา มองจริงมองจัง ยิ่งบางคนนั่งมองเรา และพอเรามองกลับก็จะยิ้ม ทำเหมือนเคยรู้จักกัน วิธีง่ายๆ ถ้าเขามองเราเราก็ยิ้มกลับ และคิดเสียว่าเราหน้าตาดีถึงมีคนมองเยอะ บันไดทางลงด้านข้างบ้านหรือคฤหาสน์ ใหญ่และแข็งแรง มีการแตกหักบ้าง บันไดทางขึ้น บันไดทางขึ้นบ้านบิณฑิกเศรษฐีนั้นยังคงสภาพสมบูรณ์มาก และยังคงความแข็งแรง โดยมีฐานด้านล่างลักษณะครึ่งวงกลม บันไดกว้างสามารถเดินขึ้นพร้อมกันจำนวนมากได้ ในภาพคือกลุ่มที่เดินทางไปด้วยกัน ปกติแล้ว จะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากนักเนื่องจากว่า ต้องเดินทางเข้าหมู่บ้าน แต่หน้าบ้านนั้นมีถนนเล็กๆ เข้าถึงซึ่งน้อยที่ไกด์จะพานักท่องเที่ยวเดินเข้าชม ภาพถ่ายจากมุมสูง จากบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ถ้าเรามองลงไป จะเป็นบ้าน ของจอมโจรองค์คุลีมารซึ่งบ้านมีขนาดใหญ่ แน่เพราะองค์คุลีมาร เชื่อในลัทธิที่ผิด ในเรื่องหนทางบรรลุผล จึงทำให้กลายเป็นโจรร้าย พอเราได้มายืนอยู่ในสถานที่จริงและฟังการบรรยาย ซึ่งสถานที่และการเล่ามีการเชื่อมโยงกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนั้นเรายังเดินลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน อานิสงส์ของการทำบุญถวายที่ดิน การทำบุญถวายที่ดินนั้น นับว่าเป็นคนที่มีความสุข ฉลาดและโชคดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลังจากนั้นผลจะเกิดขึ้นหลังจากที่ถวาย ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ วิหาร กุฏิ พระพุทธรูปทุกองค์ด้วย ต่อมาที่จะเกิดต่อคือผลแห่งธรรม และคนที่ถวายจะได้ผลของกุศลทั้งหมด เพราะว่าทุกอย่างทั้งหมดนั้นล้วนเกิดขึ้นได้ด้วยผืนแผ่นดินที่ถวาย ซึ่งต่อมาสถานที่นั้นเป็นเหตุให้เกิดขึ้นของพระอริยบุคคล เช่นมี พระโสดาบัน พระอรหันต์ ผู้ที่ถวายที่ดินก็จะมีอนิสงส์ ให้เจริญรุ่งเรืองในทั้งทางโลกและทางธรรม เรียกได้ว่า สุขตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงคราวหลับนอน อานิสงค์ในชาติหน้า เมื่อเราได้ถวายที่ดิน จะได้เกิดในสถานที่ดี และเหมาะสมกับการทำความดี ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองไม่มีการตกต่ำ ถ้าปรารถนาสิ่งใดจะได้มาง่าย รูปกายสวยงาม ทรัพย์สมบัติ มีความสง่างามน่านับถือ และสุดท้ายนั้นจะได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้ครองแผ่นดิน ความสุขทั้งลืมตาและหลับตา เหมือนความสุขของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า หลังจากการฟังธรรม ด้วยใจที่ศรัทธาและอยากให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงไม่จากไป ด้วยการถวายวัดเชตวันและทำนุบำรุงศาสนาทุกอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จนทำให้วัดเชตวัน เป็นสถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงจำพรรษาอยู่นานที่สุด คือ 19 พรรษา การให้ทานไม่ว่าจะเป็นของเล็กหรือใหญ่ อยู่ที่ศรัทธาของผู้ให้ บางครั้งเราให้แล้วใจคิดไม่ดี เดือดร้อยตนเองก็ไม่ได้อานิสงส์ ตรงกันข้าม แม้เราจะให้สิ่งเล็กน้อยแต่ใจขณะที่ให้คิดดีให้แล้วไม่เดือดตนเองและผู้อื่น เราก็จะมีความสุข เหมือนการถวายที่ดิน หลังจากนั้นก็ได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้รับการสรรเสริญจากอดีตจนมาถึงปัจจุบัน ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)ห้องส่องร้านดังมาแรง รวมของกินอร่อยต้องโดน บอกสูตรเมนูลับที่ไม่ลับอีกต่อไป