แชร์ประสบการณ์เที่ยวลาวด้วยตัวเอง สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีความอยากเล่า อยากแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวลาวครั้งแรก แบบไม่มีพาสปอร์ต และแบบที่มีพาสปอร์ต จะยากหรือจะง่ายแค่ไหน และต่างจากเดิมหรือเปล่า ไปเริ่มกันเลย การเดินทาง ผู้เขียนเป็นคนขอนแก่น การเดินทาง เลยใช้เวลาไม่มาก สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปที่หนองคาย หรือจะนั่งรถประจำทาง หรือ จะเป็นรถไฟ หากเป็นรถไฟ แบบประหยัด สามารถไปซื้อตั๋วที่สถานีได้เท่านั้น ไม่รับจองล่วงหน้า ราคาไม่เกิน 50.-บาท/คน ส่วนรถประจำทางก็จะเป็นสาย ขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้รถมาตรฐาน 2 ปรับอากาศ เที่ยวไปมีรอบเวลา 08.15 และ 14.45 น. เดินรถผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ และเที่ยวกลับมีรอบเวลา 07.45 และ 15.00 น. ระยะทาง 194 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 180 บาท เดินทางด้วย รถประจำทางหรือ รถไฟ ถ้ายังไม่มี พาสปอร์ต ต้องเหมารถสามล้อไปที่ทำพาสปอร์ต ราคาประมาณที่ 50.-บาท ขั้นตอน การทำใบผ่านแดนชั่วคราว สามารถไปทำได้ที่ สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนอำเภอเมืองหนองคาย เปิดทุกวัน เวลา 7.00-17.00 น เอกสารสำหรับคนที่ไม่มีพาสปอร์ต "ห้ามลืมบัตรประชาชนโดยเด็ดขาด" มีแค่บัตรประชาชน และเงิน 30 บาท ก็สามารถทำเอกสารได้ง่ายมากแค่ นับ 1 ถึง 5 กรณีที่คนไม่เยอะน่ะค่ะ พอได้ใบผ่านแดนแล้ว ต้องถ่ายเอกสาร อีก 1 ชุด มีที่ถ่ายเอกสารก่อนเข้าไปด่าน ราคาใบละ 10.-บาท แล้วก็เข้าไปต่อแถวได้เลย ส่วนคนที่มี พาสปอร์ต ก็ไม่ต้องถ่าย เดินเข้าไปข้างใน จะแบบให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หรือ สามารถตรวจสอบด้วยตนเองได้เช่นกัน แต่สุดท้ายก็ต้องเอาไปให้เจ้าหน้าที่เซ็นต์ก่อนข้าม และต้องเสียค่าข้ามแดนที่ 20.-บาท ส่วนคนที่ ใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวไม่ต้องเสียขาเข้า ผ่าน ตม. เรียบร้อยแล้วก็ไปจ่ายค่ารถเข้าลาว คนละ 35.-บาท เดินทางเข้าไปไม่นาน ประมาณ 15-20 นาทีก็ถึง ลงรถแล้วก็ไปเข้าตรวจคนเข้าเมืองที่ลาว คนที่มีพาสปอร์ต ก็กรอกเอกสาร หากไม่สะดวกกรอกเองก็มีบริการ คนละ 20.-บาท คนที่ใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวไม่ต้องกรอกเอกสาร ไปตามขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองได้เลย ผ่านเข้ามาถึงช่วงตรวจสัมภาระ ตรวจเสร็จแล้วให้ถ่ายเอกสารใบผ่านแดนชั่วคราว อีก 2 ชุด ใบละ 10.-บาท สาเหตุที่มาที่จุดนี้เนื่องจากต้องมีตราปั๊ม และลายเซ็นต์ของเจ้าพนักงานเสียก่อน ถ่ายเอกสารเสร็จแล้วให้ไปเสียค่าเข้าเมือง อีก 20.-บาท ซึ่งจะอยู่ด้านหลังจุดตรวจสอบสัมภาระ จะมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเพราะเป็นเครื่องแบบอัตดนมัติ พอเสียเงินเรียบร้อยแล้ว เดินเอาไปให้เจ้าหน้าที่ด่านคนสุดท้าย พร้อมใบเสียค่าธรรมเนียม เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเข้าเมือง จะได้เอกสารไว้ 2 ใบ "ห้ามทำหายโดยเด็ดขาด" ขากลับออกจากลาว ก็จะคล้ายๆขาเข้า แต่จะน้อยกว่า จะมีค่าธรรมเนียมคนละ 20.-บาท ทั้งที่ใช้ใบผ่านแดนชั่วคราว หรือ แบบมีพาสปอร์ต แล้วก็ไป ซื้อตั๋วรถเมล์กลับเข้าไทย คนละ 35.-บาท เช่นเดิม ส่วนขั้นตอนเข้าไปก็สบายๆ ยิ่งถ้าไม่ได้ซื้ออะไรมาจากฝั่งลาวก็เดินผ่านเข้าไปตรวจเอกสาร และ สัมภาระได้เลย ขั้นตอนการเข้าเมืองเวียงจันทน์ ซื้อซิมการ์ด เดินเข้าไปก็เจอเลย เป็นโต๊ะอยู่ตรงทางเข้า แต่ตรงนี้จะแพงกว่า จะมีให้เลือก แบบเป็น 7 วัน 10 วัน ราคาประมาณ 250.-บาท ถ้าเดินเข้าไปอีกเล็กน้อย อาคารพาณิชย์ด้านข้างใกล้ๆกับที่แลกเงิน ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100.-บาท แลกเงิน เดินเข้าไปแลกที่ธนาคาร หรือจุดแลกเงินด้านในตรงข้ามกับด่านตรวจคนเข้าเมืองจะได้ราคาดีกว่า แต่สามารถแลกได้เฉพาะคนที่มีพาสปอร์ตเท่านั้น แต่สามารถขอให้คนที่ไปแลกเงินช่วยแลกให้ แต่ให้เช็คอัตราค่าเงินก่อนด้วย เดิมแลกไป 1,000.-บาท จะได้ประมาณ 660,000.-กีบ (วันที่เดินทางเดือนตุลาคม 2567) คิดว่าน่าจะพอ เพราะไปพักแค่ 1 คืน ไม่น่าจะได้ซื้ออะไรเยอะ แต่สรุปแล้วไม่พอกลายเป็น แพนิค เงินไม่พอจ๋า เดินหาที่กดเงิน กันจนเท้าพอง สรุปแล้ว ตอนเย็นเดินออกจากที่พัก ตู้ เอทีเอ็ม เต็มเลย บัดโถ่! รถประจำทาง เป็นรถแอร์ เดินจากจุดด่านตรวจคนเข้าเมืองไปไม่ไกล ตรงนั้นจะเป็นที่ขายของต่างๆ มีป้ายรถเมล์ สาย 16 หรือจะสอบถามคนขับ หรือกระเป๋ารถเมล์ก่อน จุดหมายครั้งนี้ คือ ตลาดเช้า ค่าโดยสายประมาณ 18.-บาท นั่งสบายๆ ใจเย็นๆ นั่งรอที่ป้ายรถเมล์ หรือ ถ้าหากมีของเยอะ และเดินทางไปด้วยกันหลายคน ก็มีรถ แบบเหมา ต่อราคากันได้ตามความเหมาะสม โดยผู้เขียน ก็ไปแบบรถเหมาไปร่วมกับลายๆคน คนละ 50.-บาท การเดินทางในเวียงจันทน์ จะมีแค่เดิน หรือ เหมารถสกายแลป ก็สามารถต่อรองราคากันได้ ที่พักที่เวียงจันทน์ COSI Vientiane Nam Phu ที่พักเปิดใหม่ใจกลางเมือง มีสระว่ายน้ำ ที่ชั้น 8 ดูวิวเมืองตอนกลางคืนสวยมาก สระว่ายน้ำแบบ วิวเมือง โซนที่ตั้งของโรงแรมจะเป็นเหมือน โซนราชการก็ว่าได้ เพราะ รอบๆ มีทั้งที่ตั้งของ , กงศุล ,พิพิธภัณฑ์, วัด ,ที่พัก หรือ ที่ทำงานของผู้นำประเทศ มีร้านอาหารหลากหลาย ใกล้ตลาดกลางคืน ริมโขง ตลาดของกินยามกลางคืน ร้านอาหารตกแต่งสวนงาม ช่วงที่ไปคนไม่เยอะมาก เดินเล่นตอนกลางคืนได้สบายๆ ไม่อันตราย แต่แทบจะไม่มีร้านสะดวกซื้อเลย ราคาค่าห้องพักอยู่ที่ 1,8++.-บาท สามารถจองผ่านแวบไซด์ต่างๆได้ ราคาเหมือนกับที่ Walk in เวลาเช็คอิน ประมาณบ่าย 3 โมง สามารถฝากกระเป๋า หรือ นั่งเล่นที่ลอบบี้ได้ แอร์เย็นสบาย ด้านข้างโรงแรมจะมีสวนน้ำพุ ช่วงตอนเย็น ก็สวย อาหารที่เวียงจันทน์ สำหรับผู้เขียนที่เพิ่งจะเคยเดินทางเข้ามาข้างในลาว ตอแรกก็มีคิดว่า จะกินอะไรดีน๊า ของกินจะเป็นแบบไหน แต่พอมาถึงแล้ว อาหารอร่อย รสชาติคล้ายๆที่ไทย ในโซนที่ผู้เขียนอยู่จะเป็นอาหารเวียดนาม และอาหารแบบฝั่งทางยุโรป อเมริกา เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ,พิชซ่า ,ครัวซองค์,อาหารจีน ก็เยอะมาก ทั้งในรูปแบบร้านอาหารที่ตกแต่งสวยงาม หรือจะในตลาดอาหารตอนเย็น อาหารของคนท้องถิ่น ก็จะเป็น บาแกตต์ เป็นขนมปังฝรั่งเศส คล้ายแซนด์วิช ตอนลงที่ตลาดเช้า ราคาอาหารถ้าเทียบเป็นเงินไทย ก็แพงเอาเรื่องอยู่ ไม่ต่างจากไทย ราคาอาหาร 1 มื้อ ประมาณ 200-300.- บาท ถ้าทานแบบอาหารจานเดียว ราคาผัดกระเพราะต่อจานอยู่ที่ 69,000 กีบ ประมาณ 99.-บาท (ค่าเงิน ณ ช่วงเวลาที่ไป) ดังนั้นถ้าสายกิน ควรแลกไปอย่างน้อย 2,000.-บาท ขึ้นไป ส่วนค่าน้ำดื่ม ราคาแพงกว่า ขวดขนาดเล็ก 8.- บาท อยู่ที่นั่นจะประมาณ 15.-บาท แต่ก็เพราะว่าซื้อในโรงแรม มองหาร้านสะดวกซื้อไม่เจอ และบางโรงแรมห้ามน้ำอาหารและน้ำจากข้างนอกเข้าไปข้างใน ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ส่วนมากที่เที่ยวก็จะเป็นวัดต่างๆ เช่น พระธาตุหลวง เวียงจันทน์ ,หอพระแก้ว ,ประตูชัย หรือ ปะตูไซ ทุกที่จะมีค่าเข้าคนละ 30.-บาท โดยส่วนมากจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพภายในได้ หากมีโอกาสได้ไปเยือน เวียงจันทน์ ประเทศลาว ห้ามพลาด ไปแวะชมบรรยากาศเมือง ที่สงบ สะอาด เป็นระเบียบ อย่างไม่น่าเชื่อ และ แอบกระซิบ ทหารลาวหน้าตาดีมาก ครั้งหน้าจะพาไปไหน ฝากติดตามด้วยค่ะ มีคลิปการเดินทางและคลิปโรงแรม บรรยายกาศ ทั้งร้านอาหาร และที่ท่องเที่ยว สามารถเข้าไปดูได้ การเดินทางไปเที่ยวลาวด้วยตัวเอง การเดินทางเข้าลาวด้วยรถประจำทาง ที่พักเวียงจันทน์ COSI Vientiane Nam Phu รูปภาพ และคลิป โดยผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !