ธรรมชาติ และป่าเขาที่สวยของ จ.กาญจนบุรี เป็นสิ่งที่เราทราบกันดีถึงความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อติดอันดับของประเทศ รวมถึงเป็นแหล่งรวมของวัดสวยงามหลายแห่ง "วัดบ้านถ้ำ" จึงเป็นอีกสถานที่ซึ่งจะตอบโจทย์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบทำบุญ และชมความงามของธรรมชาติไปพร้อมกัน แต่ต้องเตรียมฟิตร่างกายให้พร้อมสักหน่อยเพราะเราจะพาไปชม "ถ้ำม่านวิจิตร" ที่ต้องปีนบันได้ขึ้นไปกว่า 700 ขั้น แต่เป็น 700 ขั้นที่สวยตลอดเส้นทาง เมื่อขึ้นไปถึงจุดหมายแล้วเราจะลืมความเหนื่อยไปเลย วัดนี้ตั้งอยู่ใน อ.ท่าม่วง ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีเพียง 10 กิโลเมตร มาทางเขื่อนแม่กลองที่เราจะผ่านถนนบนสันเขื่อนชมเขื่อนแม่กลองเป็นของแถม หลังจากผ่านเขื่องแม่กลองแล้วเราจะผ่านทางเข้าวัดดังๆ อีกหลายวัดเช่นวัดถ้ำเสือ , วัดถ้ำแฝด ที่สามารถจัดโปรแกรมทัวร์พร้อมกันได้ในวันเดียว ไม่นานนักเพียง 15 นาทีจากตัวเมืองกาญจนบุรี เราก็มาถึงตัววัด เมื่อจอดรถแล้ว เราจะเห็นพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ ด้านขวาใกล้กันเป็นศาลาสำหรับทำบุญ มีพระพุทธชินราชจำลอง และรูปเหมือนเกจิชื่อดังหลายองค์ให้เราได้สักการะ มีดอกไม้ธูปเทียนไว้บริการตามกำลังศรัทธา ไม่ไกลกันนักมีรูปเหมือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเคยเสด็จประพาสมาที่วัดบ้านถ้ำในปี พ.ศ.2431 เส้นทางที่เราจะไปชมจึงเปรียบเสมือนการตามรอยพระองค์ท่าน หลังจากไหว้พระเสร็จตรงจุดนี้แล้วเราจะเดินไปทางขึ้นเพื่อไปนมัสการองค์หลวงพ่อใหญ่ ถ้ำม่านวิจิตร และองค์เจดีย์สีทองที่อยู่ด้านบน บันไดทางขึ้นมีพญานาคที่ราวบันไดทั้ง 2 ข้าง ตรงกลางเป็นที่จับ มีระฆังเรียงรายขึ้นไปจนถึงปากมังกรที่ภายในเป็นบันไดไปสู่องค์พระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อใหญ่ รวมแล้ว 269 ขั้น มาถึงตรงนี้ก็ยังถือว่าไม่หนักหนาเท่าใดนักเพราะยังเป็นบันไดปกติแค่เรียกเหงื่อได้เล็กน้อย ภายในทางเดินท้องมังกรยังมีภาพเขียนบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติให้ชมกันเพลินๆ ระหว่างเดินขึ้นบันได มากันถึงภายในโถงแรกของถ้ำ เป็นโถงขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช หรือหลวงพ่อใหญ่อยู่ภายในซุ้มวิหาร เบื้องขวาขององค์พระมีปากปล่องของถ้ำที่ให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามากระทบกับตัวองค์พระทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น บริเวณฐานมีพระพุทธรูปรายล้อมอีกหลายองค์ ข้างในเย็นสบายไม่รู้สึกอับ ใช้เวลาเดินชมข้างในพอสมควรที่ต้องบอกก่อนว่าตรงนี้ยังไม่ใช่ถ้ำม่านวิจิตรที่มีหินงอกหินย้อย ทางขึ้นจะอยู่ด้านหน้าของโถงแรกนี้ที่ต้องเดินขึ้นไปไกลกว่าที่เดินขึ้นมาผ่านบันไดอีกประมาณ 400 กว่าขั้น บันได้ทางขึ้นเริ่มจากบันไดเหล็กด้านหน้าโถงถ้ำ ลัดเลาะขึ้นไปบนหลังคาปล่องของโถงแรก บางช่วงค่อนข้างชันพอสมควรซึ่งเส้นทางที่จะเดินกันต่อไปนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างเหนื่อยกันสักนิดผ่านบันไดทางขึ้นอีกประมาณ 400 ขั้นทั้งบันไดที่สร้างขึ้น และบันไดที่เป็นเส้นทางธรรมชาติ สาเหตุที่ไม่ได้ระบุเป็นจำนวนขั้นที่แน่นอน จากล่างสุดบางแหล่งก็ว่า 707 ขั้น จากคนในวัดก็ว่า 710 เพราะบันไดที่เป็นทางธรรมชาติบางขั้นเป็นหินที่ทับซ้อนกันค่อนข้างนับยากสักนิด แต่เอาเป็นว่าถ้าเดินขึ้นไปจนถึงเจดีย์ด้านบนมี 700 ขั้นแน่ๆ จากนั้นเป็นเส้นทางขึ้นธรรมชาติ วิวทิวทัศน์สวยงามตลอดเส้นทาง มีจุดพักที่มองลงไปเห็นวิวของแม่น้ำแม่กลอง มีแบล็คกราวเป็นภูเขาด้านหลังในมุมกว้างสุดสายตา มาถึงเจดีย์สีทองด้านบนมีชื่อเต็มว่า "พระธาตุเกตุแก้วจุฬามณีนาคพรรณบุรีศรีเมืองกาญจน์" องค์เจดีย์สีทองอยู่ด้านบนของยอดเขาเป็นศูนย์รวมของพระธาตุ 12 นักษัตร ลมพัดเย็นสบายสังเกตได้จากธงที่พัดโบกสะบัด มองเห็นวิวข้างล่างจากมุมสูงได้โดยรอบ เดินมาถึงตรงจุดนี้หลายคนคงผ่านปากทางเข้าถ้ำแบบไม่รู้ตัว เพราะถ้ำม่านวิจิตรที่เรากำลังตามหากันมีปากทางเข้าเล็กๆ อยู่ก่อนถึงทางขึ้นองค์เจดีย์ที่ไม่กว้างนัก ไม่ยากที่จะลงไปแต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังกันสักนิด ปากทางเข้าถ้ำเป็นช่องทางเล็กๆ มองจากด้านบนค่อนข้างชัน แต่เมื่อได้ก้าวลงไปกลับไม่รู้สึกว่าชันเท่าไหร่เป็นบันไดทางลงปกติ มีเชือกให้จับเพื่อกันพลัดตก ลงไปด้านในเป็นโถงถ้ำประดับไฟสวยงาม มีหินงอกหินย้อยที่สวยแปลกตา ด้านหลังเป็นทางที่เราลงมา ค่อนข้างชัน แต่ไม่ยากเกินความพยายาม ใช้เวลาเดินชมข้างบนกันพอสมควร คราวนี้มาถึงตอนลงบ้าง จะว่าไปง่ายกว่าตอนขึ้นนะ แต่ก็เรียกเหงื่อได้พอสมควร มาถึงด้านล่างสิ่งแรกที่ตรงไปซื้อเลยคือน้ำเย็นๆ แต่โดยรวมแล้วถือว่าคุ้มมากกับความสวยที่เราได้ขึ้นไปชมด้านบน เหมาะมากกับผู้ที่ต้องการทำบุญ และรักธรรมชาติ จะบอกว่ารักการผจญภัยเลยก็ว่าได้เรียกได้ว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังเลย แถมยังได้รูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นความประทับใจ วัดบ้านถ้ำ จ.กาญจนบุรี พิกัด : https://goo.gl/maps/dxSv5kRug8mjJ54aA เครดิตภาพถ่ายทั้งหมด : เป็นของ ภิญโญ ส่องแสง ผู้เขียนบทความนี้