“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ "วัดโพธิ์ชัย" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีของจังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ริมถนนสายหนองคาย-โนพิสัย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย วัดโพธิ์ชัย สำหรับประวัติของ "วัดโพธิ์ชัย" นั้นเป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้างวัดนี้แต่มีเพียงข้อสันนิษฐานว่าชาวบ้านไผ่คงช่วยกันสร้างวัดขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการเผาศพครั้งนี้จึงเรียกชื่อ "วัดผีผิว" แล้วต่อมาคงเป็นวัดร้างเหลือเพียงแค่เจดีย์เก่า ๆ ให้เห็นร่องรอยเท่านั้น อย่างไรก็ตามต่อมาก็มีคณะกรรมการสงฆ์ได้มาบูรณะวัดผีผิวขึ้นมาใหม่แล้วให้ชื่อ "วัดโพธิ์ชัย" เหตุผลเพราะในบริเวณวัดมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นใหญ่มากจึงได้ชื่อ "วัดโพธิ์ชัย" เพื่อเป็นสิริมงคลตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา วัดโพธิ์ชัย เงียบสงบสวยงาม ส่วนภายในพระอุโบสถประดิษฐาน "องค์หลวงพ่อพระใส" หรือ พระพุทธปฏิมาขัดสมาธิราบเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสุกผสมสำริด ปัจจุบันถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคายและชาวบ้านชาวเมืองหนองคายเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระใส เพราะสมัยโบราณถ้าหากฝนไม่ตกตามฤดูกาลหรือช่วงหน้าแล้งชาวบ้านจะมาประกอบพิธีขอให้ฝนตกส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จ กราบขอพร "องค์หลวงพ่อพระใส" สำหรับทุกวันนี้ชาวประชาชนทั้งหลายมาบูชา "องค์หลวงพ่อพระใส" ขอพรเรื่องให้มีวาสนาดีขึ้นหรือหน้าที่การงานให้เจริญก้าวหน้าโดยการเสี่ยงทายและตั้งใจให้มั่นคงแล้วยกองค์พระพุทธรูปเพื่อเสี่ยงทายตามความเชื่อต้องยกสองครั้งโดยเริ่มต้นถ้าประสบความสำเร็จในเรื่องที่ขอ ก็ขอให้ยกองค์พระพุทธรูปหนักยกไม่ขึ้นส่วนครั้งที่สองขอให้ยกองค์พระพุทธรูปเบา ๆ ถ้าตามจิตใจอธิฐานก็จะได้สมความปรารถนา นี่คือส่วนหนึ่งเท่านั้นเรื่องของความเชื่อและความศรัทธาขององค์หลวงพ่อพระใสเป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยเชียงแสนหรืออาณาจักรแผ่นดินล้านช้าง ต้องลองเองครับ เมื่อครั้งกระนั้นมีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับองค์พระพุทธรูป 3 องค์นี้ กล่าวว่ามีพระราชธิดาสามพี่น้องซึ่งเป็นพระราชธิดาของสมเด็จพระไชยเชษฐาธิราชกษัตริย์แผ่นดินล้านช้างได้ร่วมกันจัดสร้างองค์พระพุทธรูปเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองคือ "หลวงพ่อพระเสริม" ประจำพระราชธิดาองค์โต "หลวงพ่อพระสุก" ประจำพระราชธิดาองค์กลางและ "หลวงพ่อพระใส" ประจำพระราชธิดาองค์น้องสุด แล้วต่อมาหมดยุคสมัยแผ่นดินล้านช้าง ก็เข้าสมัยกรุงเวียงจันท์พระพุทธรูป 3 องค์นี้ก็ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่ "วัดโพนชัย" ในเมืองเวียงจันทร์น่าจะตรงกับสมัยกรุงธนบุรีในปี พ.ศ. 2321 ตอนปลายจนกระทั่งเข้ามาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ครั้งกระนั้นเรียกว่า "กบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งกรุงเวียงจันท์" เมื่อครั้งกระนั้นพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ทรงโปรดฯ ให้สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสนย์ยกทัพไปกรุงเวียงจันท์แล้วได้อัญเชิญองค์พระพุทธรูป 3 องค์ คือ "หลวงพ่อพระเสริม หลวงพ่อพระสุกและหลวงพ่อพระใส" ลงแพไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำโขงบริเวณปากน้ำงึมปรากฏว่าเกิดมีพายุขึ้นฝนตกลมพัดถล่มก็เลยทำให้ "องค์หลวงพ่อพระสุก" จมลงใต้น้ำของแม่น้ำโขงส่วน "องค์หลวงพ่อพระเสริมและหลวงพ่อพระใส" ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัยเมืองหนองคาย ต่อมาสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงโปรดฯให้อัญเชิญ "องค์หลวงพ่อพระเสริมและหลวงพ่อพระใส" ขึ้นบนเกวียนเพื่อเข้าเมืองหลวงคือกรุงรัตนโกสินทร์หรือทุกวันนี้คือกรุงเทพมหานครแต่เมื่อครั้งกระนั้นเกวียนที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นคือล้อของเกวียนหักพอซ่อมแล้วเสร็จก็หักอีกทั้งนี้คณะผู้อัญเชิญองค์หลวงพ่อพระใสก็คิดว่าองค์หลวงพ่อพระใสท่านคงต้องการประดิษฐานที่ "วัดโพธิ์ชัย" แน่แท้นี่คือเรื่องราวของ "องค์หลวงพ่อพระใส" พระพุทธรูปสมัยอาณาจักรแผ่นดินล้านช้างแต่ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคายชาวประชาชนทั้งหลายไปกราบบูชาขอพรกันมากทุกวัน สำหรับท่านผู้อ่านทุกท่านมีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดหนองคายต้องแวะ "วัดโพธิ์ชัย" เรียกว่าพลาดโอกาสไม่ได้ต้องมากราบขอพร "องค์หลวงพ่อพระใส" เพื่อความเป็นสิริมงคลชีวิต "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ ไปกราบขอพร "องค์หลวงพ่อพระใส" กันได้ที่ วัดโพธิ์ชัย ครับ พิกัด "วัดโพธิ์ชัย" https://maps.app.goo.gl/Ztz4UEA7GTya3joe7 เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !