นั่งรถไฟหรือเช่ารถขับแบบไหนดีในญี่ปุ่น หลายคนคงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าไปเที่ยวญี่ปุ่น จะเดินทางด้วยรถไฟหรือเช่ารถขับดี คนส่วนใหญ่นิยมการนั่งรถไฟเนื่องจากมีความสะดวกสบายและเชื่อมถึงกัน แต่บ้างครั้งค่าโดยสารการนั่งรถไฟในญี่ปุ่นก็แพงเช่นกัน ประกอบกับการเช่ารถขับในญี่ปุ่น เราก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากนัก ซึ่งผู้เขียนเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการคำนวณค่าใช้จ่ายในการขับรถและนั่งรถไฟเทียบกันให้แล้วโดยคลิกที่นี้ สำหรับบทความนี้ผู้เขียนจะเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการเช่ารถขับหรือนั่งรถไฟเพื่อสำหรับการประกอบการตัดสินใจในการพิจารณาและเลือกความเหมาะสมให้กับการเดินทางที่เหมาะกับคุณมากที่สุดในแต่ละทริป การนั่งรถไฟเป็นนิยมของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยข้อดีของการนั่งรถไฟ ได้แก่ รถไฟบางประเภท เช่น รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) เป็นต้น ช่วยย่อเวลาการเดินทางของเราโดยเฉพาะการเดินทางข้ามเมือง เช่น โอซาก้าไปโตเกียว ซึ่งเวลาเดินทางน้อยกว่าการขับรถยนต์ เราสามารถหลับพักผ่อนในระหว่างการเดินทางขณะนั่งบนรถไฟได้ โดยเฉพาะเวลานั่งรถไฟข้ามเมือง ข้อเสียของการนั่งรถไฟ หากไม่มีบัตรรถไฟที่ครอบคลุมการเดินทาง การนั่งรถไฟบางประเภทในการข้ามเมืองต่าง ๆ ได้แก่ รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) อาจมีค่าใช้จ่ายต่อคนสูงมาก เช่น โอซาก้าไปโตเกียว มีค่าโดยสารประมาณ 14,730-16,420 เยน แม้ไม่นั่งรถไฟประเภทดังกล่าวก็กินเวลาการเดินทางที่ยาวนานขึ้นมากกว่าเดิมเท่าตัว กรณีเดินทางแบบ Backpacks หรือย้ายโรงแรม ย้ายเมืองทุกวัน จะเหนื่อยกว่าปกติ จึงต้องขนสัมภาระให้น้อยสุด เพราะการเดินทางแบบนี้จะต้องขนกระเป๋าทุกวัน อาจจะกังวลหรือเสียเวลาในการเดินตามหา Locker หรือที่รับฝากสัมภาระมากขึ้นในการไปเที่ยวแต่ละสถานที่ ทำให้มีเวลาเที่ยวในแต่ละสถานที่นั้นน้อยลง และหากบางสถานที่เที่ยวนั้น Locker เต็ม ต้องแบกสัมภาระไปเที่ยวด้วยจึงเหนื่อยกว่า รอบเวลาของรถไฟท้องถิ่นในญี่ปุ่นบางเมือง โดยเฉพาะเมืองที่ยังมีนักท่องเที่ยวน้อย จะมีรอบเวลารถไฟที่ห่างกันค่อนข้างนาน เช่น ทตโตริ เวลารอบรถไฟห่างกันในแต่ละรอบ 30-40 นาทีขึ้นไป รวมถึงรถบัสเช่นกันในบางเมืองนั้นอาจมีชั่วโมงหรือสองชั่วโมงละรอบเลยก็ว่าได้ ทำให้เที่ยวได้น้อยลง ข้อดีของการขับรถ สามารถประหยัดเวลาการเดินท่องเที่ยวได้มากขึ้นในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละเมือง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องไปรอรอบเวลาของรถไฟ หรือรอรอบเวลารถบัส รวมถึงการเดินทางข้ามเมืองในบางเมืองนั้นใช้เวลาเดินทางที่สั้นกว่า ทำให้ไปเที่ยวได้หลายสถานที่มากขึ้น หากเดินทางแบบย้ายเมืองนอนทุกวัน การเดินทางรถยนต์ก็เหมาะสมเช่นกัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องขนสัมภาระให้เหนื่อย และสามารถเอาสัมภาระไปได้เยอะขึ้น มีความชิลในการเดินทางมากขึ้น ในการที่จะออกกี่โมงหรือกลับกี่โมง ไม่ต้องกังวลเรื่องตารางรถไฟ โดยเฉพาะบางเมืองที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวน้อย จะมีรอบรถไฟที่น้อยมาก ถ้าการเดินทางไปมากกว่า 3-4 คน จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากกว่าการนั่งรถไฟ สามารถขับรถไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ตามใจเรา หรือแวะข้างทางเพื่อดูวิวสวย ๆ ระหว่างทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่รถไฟไม่ได้ผ่าน เห็นอีกหนึ่งมุมมองของเมืองมากขึ้น ที่แตกต่างจากการนั่งรถไฟ ข้อเสียของการขับรถ หากเดินทางด้วยตัวคนเดียว หรือไปเพียง 2 คน ค่าใช้จ่ายในการขับรถจะสูงกว่าการนั่งรถไฟ ต้องหาเลือกโรงแรมที่มีที่จอดรถได้เท่านั้น มีค่าใช้จ่ายค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าประกัน หรือค่าจิปาถะต่าง ๆ หากอยากทราบประมาณเท่าไหร่สามารถคลิกอ่านได้ที่นี้ คนขับรถจะเป็นผู้เหนื่อยที่สุดของการเดินทางในครั้งนี้ ต้องศึกษากฎจราจรของประเทศญี่ปุ่น คนขับรถต้องมีใบขับขี่สากล ดังนั้นผู้เขียนคิดว่า หากคุณจะตัดสินใจแบบไหนควรพิจารณาข้อดีหรือข้อเสียของแต่ละประเภทเสียก่อน เพื่อให้เหมาะกับตัวคุณมากที่สุดค่ะ แต่ถ้าผู้เขียนแนะนำในเมืองที่เป็นยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เช่น โตเกียว โอซาก้า นาระ เกียวโต ควรนั่งรถไฟดีกว่านะคะ แต่หากบางเมืองที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่ เช่น วะกะยาม่า ก็ควรขับรถดีกว่าค่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์นะคะ เครดิตรูปภาพ : ภาพหน้าปกและภาพประกอบ โดยผู้เขียน