คุณเชื่อว่าสวรรค์มีจริงไหมคะ !? สำหรับเราคำว่าสวรรค์มีจริง เพราะเราเหมือนเกิดและโตมาที่นั้น อยากรู้หล่ะสิว่าที่นั้นเป็นยังไง ก็.. รอบ ๆ มีอากาศที่บริสุทธิ์ ท้องฟ้าสีครามสุดลูกหูลูกตา ป่าไม้เขียวชะอุ่ม มีอาหารทั้งคาวหวานให้กินไม่ขาด คนที่นั้นใจดีสุด ๆ ยิ้มแย้มมีไมตรีจิตที่ดีต่อกัน สวรรค์ที่เราพูดถึงไม่ต้องรอเป็นนางฟ้าก็สามารถมาสัมผัสได้ ทั้งหมดที่พูดมาเราหมายถึง สวรรค์(ที่)บ้านเกิด ของเราเอง เสน่ห์เมืองนาทวี ศรีวัดในวัง มนต์ขลังเขาน้ำค้าง รวยยางพารา เนื้อหนาขนุนทอง ลองกองมีชื่อ เลื่องลือสะเดาเทียม สวัสดีเพื่อน ๆ นักอ่านที่น่ารักของเรานะคะ เป็นไงกันบ้างคะกับวันหยุดที่ผ่านมา ? ส่วนเราตามสไตล์นักเรียนบ้านนอกที่เข้ามาเอาวิชาในเมืองกรุง เรียนเสร็จก็กลับหอมาอ่านหนังสือต่อ พอมีเวลาว่างก็นั่งเขี่ยหน้าจอมือถือไปมา เห็นเพื่อนที่เรียนในตัวจังหวัดสงขลา กลับบ้านไปเที่ยวกับครอบครัว เราเลยยกหูโทรศัพท์คุยกับแม่ พูดว่ากลับบ้านไปรอบนี้จะพาแม่กับน้องเที่ยวให้หนำใจ ! พูดถึงเรื่องบ้านเกิดของเรา มีหลาย ๆ เรื่องที่เราอยากเอามาโม้ เอ้ย ! มาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง บางทีเพื่อน ๆ อ่านบทความนี้จบ อาจจะวางแผนเก็บกระเป๋า มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่นี้เลยก็ได้นะ :) พูดถึงเรื่องเที่ยวและเรื่องกิน ในอำเภอนาทวี ที่เราอยู่ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน ถ้าไม่เชื่อลองมาดูตัวเราสิ เป็นมาสคอตทางด้านอาหารของอำเภอได้เลยนะ ! เพราะเรายึดคติที่ว่า ' เรื่องรักเราแพ้คนสวยจนเคยชิน แต่เรื่องกินเราไม่ยอมแพ้ใคร ' แฮร่ อย่างที่เราเกริ่นไว้ด้วย คำขวัญของเมืองนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งเราคิดว่าคำขวัญของแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด เป็นการรวบรวมของดีที่ชาวบ้านอยากจะนำเสนอ ด้วยการเรียบเรียงตัวอักษรผ่านคำขวัญ ดังนั้นวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักและไปเที่ยวเมืองเล็ก ๆ อันแสนอบอุ่นแห่งนี้ตามคำขวัญของอำเภอกัน เริ่มที่แรกกับสถานที่ดี ๆ เหมาะกับพักกายและใจ ใช่ว่าคนแก่เท่านั้นที่มาที่นี้ อย่างน้อยเราก็เป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่มาบ่อย และมองว่าที่นี้สวยงาม เป็นเหมือนดั่ง หัวใจ ที่ยังเต้น เพื่อหล่อเลี้ยงความสวยงามและวิถีชีวิต ของพุธศาสนิกชนในอำเภอนาทวี สถานที่ที่เรากำลังพูดถึงคือ วัดในวัง เสน่ห์เมืองนาทวี ศรีวัดในวัง วัดในวัง เป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนาน เริ่มสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2539 เริ่มจากความคิดที่จะสร้างสะพานข้ามคลองนาทวี โดยความร่วมมือของชาวบ้าน รวมถึงพระสงฆ์ ดังนั้นจึงมีการสร้างที่พักให้พระสงฆ์ที่มาช่วยสร้างสะพานข้ามคลองนาทวี จนทุกคนปิ๊งไอเดียร์ ! ว่าถ้ามีวัดในพื้นที่ตรงนี้คงจะดี เพราะสะดวกในการมาทำบุญของชาวบ้านไม่เฉพาะแค่ชาวบบ้านนาทวี แต่พื้นที่ค้างเคียงก็สามารถมาได้ทั้งทางถนน และทางคลอง จึงเกิดเป็น “วัดในวังแปลงประดิษฐ์” อย่างที่ทุกคนทราบว่าเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ทุกอย่างเปลี่ยน ชื่อวัดก็เปลี่ยนเช่นกันจากที่คนคุ้นเคยกันในชื่อ “วัดในวังแปลงประดิษฐ์” คำว่าแปลงประดิษฐ์ได้หายไป เหลือเพียงชื่อ “วัดในวัง” ให้คนได้เรียกขานกันเท่านั้น เข้ามาข้าในวัดมีบรรยากาศที่ค่อนข้างสงบร่มรื่นจากต้นไม้ เหมาะกับการเข้ามาพักกาย และพักใจ ด้านในมีการแบ่งพื้นที่ของแต่ละส่วนได้ชัดเจน และอีกหนึ่งจุดที่เรามักจะเข้าไปบูชาและกราบท่าน คือ วิหารของหลวงปู่ทวด หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินหรือเคยได้รู้จักพระระดับเกจิท่านนี้มาบ้างแล้ว สำหรับเรา เราได้ยินเรื่องของท่าน ในฐานะพระที่สามารถเหยียบน้ำทะเลเป็นน้ำจืด มาตั้งแต่เด็ก จากการบอกเล่าปากต่อปากของแม่เฒ่า (คุณยาย) แม่เฒ่าเล่าว่าในสมัยก่อนการเดินทางนิยมโดยสารทางเรือ ซึ่งครั้งนั้นหลวงปู่ทวดอยู่บนเรือกับลูกเรื่อที่กำลังจะเดินทางไปอยุธยา นานแรมปี น้ำที่เตรียมไว้หมด หลวงปู่ทวดจึงตั้งอธิฐานว่าถ้าท่านคือคนที่สืบต่อพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองได้ ขอให้น้ำทะเลกลายเป็นน้ำจืด จากนั้นท่านก็เอาเท้าจุมลงไปในน้ำ ด้วยบุญญาของท่า น้ำทะเลจึงเปลี่ยนเป็นน้ำจืด ทำให้คนบนเรือมีน้ำกินน้ำใช้จนไปถึงที่หมาย เวลาที่เรามีเรื่องที่ไม่สบายใจ จะมาทำบุญที่นี้ และเข้ามากราบท่านด้วย ที่นี้จึงเรียกได้ว่าเป็นที่หยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมใจของชาวพุทธ ในอำเภอนาทวีและใกล้เคียง แน่นอนว่าวิถีชีวิตชาวพุทธ มาพร้อมกับพระพุทธศาสนา แต่การอยู่ร่วมกับของชาวสามจังหวัดและสี่ชายแดนภาคใต้ที่มีความหลากหลายทางเชื่อชาติ ศาสนา ทั้งมุสลิม และคริสต์ ศาสนาจึงไม่ได้เป็นตัวแบ่งความต่างของคน แต่การนำเอาคำสอนทางศาสนามาปรับใช้ เพื่อให้อยู่ด้วยกันให้มีความสุขในสังคม นี่สิ คือจุดประสงค์หลักของศาสนาที่แท้จริง มนต์ขลังเขาน้ำค้าง อุโมงค์เขาน้ำค้าง ถ้ำขุดมือโบราณเย็นสบายเหมือนติดแอร์ ที่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยนิยมมากนัก สำหรับเราแล้วทางเข้ามาที่นี้ค่อนข้างยาก เพราะทางเป็นไหล่เขา และมีความชันอีกทั้งถนนยังคดเคี้ยวที่โคตรคุ้มค่ากับการมาเยือน ที่นี้ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์เขียวขจี และนอกจากนั้นยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันล่ำค้า การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความภาคภูมิใจของลูกหลานต่อบรรพบุรุษของพวกเขา บางคนอาจสงสัยว่า อุโมงค์เขาน้ำค้างแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อใดและมีความเป็นมาอย่างไร เราขอย้อนไปถึงช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี้ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการลับของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ใช้กำลังคนขุดมากกว่า 200 คนและใช้เวลาในการขุดประมาณ 2 ปี เรียกว่าใช้กำลังคนกันเยอะเลยทีเดียวค่ะเพื่อน ๆ และสิ่งที่ได้จากการขุดมาเป็นเวลานานนั้นคือ สถานที่หลบภัยชั้นดี ข้างในมีพื้นที่ทั้งหมด 3 ชั้นทางเข้าออกมีทั้งหมด 16 ทาง ส่วนข้างในนั้นเพื่อน ๆ จะเรียกว่าเป็นเมืองขนาดย่อส่วนก็ได้ค่ะ เพราะมีสถานที่อำนวยความสะดวกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญที่ขาดไม่ได้อย่างสถานพยาบาล แหล่งเก็บอาวุธ โรงเรียนการเมือง และอีกมากมาย รวมเวลานับจากอดีตจนถึงปัจจุบันประมาณ 45 ปีแล้ว หลังจากผ่านเข้ามาในอุโมงค์แล้ว เราต้องขึ้นบันใดซึ่งมีหลายขั้นและมีความชัน กว่าจะถึงขั้นแรกก็เล่นเอาเราหอบแฮ่ก ๆ เหมือนกัน เข้าไปจะรู้สึกถึงความเย็นอย่างกับติดแอร์ ทั้งที่ข้างนอกร้อนมาก คนสมัยก่อนนี่ว่าไม่ได้นะคะ ทั้งความคิดและการเอาตัวรอดถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียว อีกหนึ่งที่ ที่เราภูิมิใจนำเสนอ ถ้ามาที่เขาน้ำค้างระหว่างทางกลับอย่าลืมแวะ เขาน้ำค้างโมเดล เป็นร้านลูกหลานเกษตรกรชาวนาทวี ที่มีทั้งส่วนของผักออแกนิดและกาแฟสด ได้ประโยชน์ทั้งผู้ประกอบธุรกิจ กระจายรายได้ให้ชาวบ้านรอบ ๆ และเราก็ยังได้ทานของดี ๆ ได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ผ่านผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอีกด้วย บรรยากาศหลักล้าน ราคาอาหารหลักสิบ คุ้มค่าขนาดนี้ไม่แวะ ไม่ได้แล้ว ' ถึงเขาคนไหนจะไม่รัก ก็ยังมีธรรมชาติที่เขาน้ำค้างให้มาพักใจ ' ' เจ็บตรงหัวใจ พี่เขาบอกรักษาให้ไหม ด้วยน้ำใบบัวบก :) ' ราคาเครื่องดื่มที่นี่เริ่มต้นเพียง 25 บาท เรียกว่าราคาเป็นมิตร รสชาติอร่อยเลยทีเดียวหล่ะ ในสวนผักออแกนิกเราสามารถเข้าไปเก็บได้ตามที่เราชอบ แล้วเอามาคิดเงินที่เคาน์เตอร์ด้านนอก คุณจะได้ผักหนึ่งถุงที่สะอาด ปลอดภัยไร้สารพิษ เป็นมิตรต่อร่างกาย และสบายกระเป๋าอีกด้วยนะ เพื่อนเราเคยนัดแฟนมาเดทครั้งแรกที่นี่ มันเล่าให้เราฟังว่าเป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษ ได้ขับรถขึ้นมาบนเขาสองข้างทางเขียวชอุ่ม ได้มาทำกิจกรรมด้วยกัน (เก็บผัก) นั่งจิบกาแฟมองตากันแทบไม่กระพริบ ช่วงเย็น ๆ ท้องฟ้าสลัว พอกลับก็จ่ายค่าอาหารเลี้ยงแฟน เพราะค่าอาหารถูก ฮ่า ๆ ทุกวันนี้ถึงเพื่อนเราจะไม่ได้คบกับเธอคนนั้นแล้ว แต่ทุกครั้งที่เล่าเรื่องนี้เรายังเห็นรอยยิ้มของมัน คงเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษจริง ๆ สินะ :) รวยยางพารา ' มือพ่อถือมีดกรีดยาง ลุยสวนยางโหม๋เช้า แม่รีดยางส่งเรา ทั้งหนักเบาต้องอดทน..' เป็นหนึ่งท่อนในเพลงของบัณฑิตกรีดยาง ของคุณนุ้ย สุวีณา ถ้าใครที่เคยได้ฟังเพลงใต้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ เด็กที่ขึ้นไปเรียนรามคำแหง หรือเพลงที่เกี่ยวกับการที่พ่อแม่ทำสวนยางส่งลูกเรียน ซึ่งเพลงเหล่านั้นล้วนแต่งมาจากวิถีชีวิตและเรื่องราว ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ของชาวใต้ส่วนใหญ่ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าอาชีพหลักของชาวใต้คือการกรีดยาง ชาวนาทวีก็เช่นกัน เราก็เป็นอีกคนที่พ่อแม่และครัวครัว ทำอาชีพชาวสวนยาง เพื่อส่งเราเรียน เรียนทุกบาททุกสตางค์มาจากหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ พ่อแม่เราต้องตื่นเช้ามาตั้งแต่ตี 4 เพื่อตื่นไปกรีดยางที่สวน มือถือมีดกรีดยาง หัวใส่ไฟส่องทาง กรีดเสร็จประมาณ 6 โมงเช้าก็กลับมาบ้าน เพื่อพักกินข้าว และหายใจหายคอสักนิดนึง แล้วต้องฮึบ ! อีกครั้งหนึ่งเพื่อไปเก็บยาง เปลี่ยนอุปกรณ์จากมีดเป็นถึงและไม้กวาด เพื่อเก็บน้ำยาง ประมาณ 3 ทุ่มก็ต้องเตรียมลับมีดเพื่อเตรียมตัวไปกรีดยาง เป็นชีวิตประจำวันที่วนลูปไปเรื่อย ๆ จุดมุ่งหมายเดียวของพวกท่านคือ ส่งเราเรียน ' ไม่อยากจะโม้นะ ว่าตอนเด็ก ๆ เราเป็นมือเก็บอันดับหนึ่งของครอบครัวเลยหล่ะ ' ตื่นตอนเช้าเราต้องรีบกินข้าว เปลี่ยนชุดเป็นชุดแขนยาวขายาว เปื้อนขี้ยางทั้งชุด ซ้อนมอเตอร์ไซต์แม่ ไปเก็บยาง แรก ๆ ก็สนุก หลังก็เหนื่อย จนคิดว่า นี่เราต้องมาเหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ !? แต่มานึกย้อนว่า เราทำแค่นี้ยังเหนื่อย แล้วพ่อแม่ที่ทำมากกว่าเราหล่อจะไม่เหนื่อยกว่าเรารึไง จนมาถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ รู้ไหม เราโคตรภูมิใจเลยอะ ที่เป็นลูกของชาวสวนยาง อาชีพที่ไม่สูงส่ง ไม่ได้รับการเคารยกมือไหว้จากคนทั่ว ๆ ไป แต่เป็นอาชีพเลี้ยงเรามาจนโต และเรามองทุกอาชีพในสังคมเท่าเทียมกันหมด เพราะแต่ละอาชีพส่งเสริมแล้วเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างทำหน้าที่เพื่อจุดประสงค์ที่คล้าย ๆ กัน ' เรียนว่าเหนื่อยแล้ว คนส่งเราเรียนสิ เหนื่อยกว่า ' เราเคยพาเพื่อน ๆ ที่กรุงเทพมาเที่ยวที่บ้าน เพื่อน ๆ เราขอมาลองเก็บยาง นั้นแหละค่ะคือ จุดเริ่มต้นของความสนุก เราเริ่มปลุกเพื่อน ตั้งแต่ตอนเช้า หาเสื้อผ้าแขนยาวขายาวให้เพื่อน แล้วพาไปสวนยาง เพื่อนเราเพลิดเพลินกับบรรยากาศสองข้างทาง ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และป่าเขาลำเนาไพร่ แต่พอถึงที่ทำงานและสอนเก็บยางแล้ว เก็บได้ประมาณ 5 ต้น เพื่อนเราก็ขอกลับ เพราะทั้งยุงกัด ทั้งความหนักของน้ำยาง เจ็บมือจากการจับไม้กวาดน้ำยาง เราถามเพื่อนคำเดียวหลังจากกลับไปถึงบ้านว่า ' นี่แกจะมาอีกป่ะ ' เพื่อนตอบเรามาคำเดี๋ยวเหมือนกันว่า ' นี่ยังจะถามอีกหรอว่ะ ' ฮ่า ๆ ๆ เนื้อหนาขนุนทอง ลองกองมีชื่อ เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า ขนุนทอง นี่มันต่างจากขนุนปกติยังไง !? ขนุนทองเป็นสายพันธุ์ของขนุนอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่เนื้อในของขนุนมีสีเหลืองทองน่ารับประทาน ขนุนพันธุ์นี้ให้ผลใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนุนพันธุ์นี้ติดผลดีออกผลปีละ 2 ครั้้ง คือในช่วงเดือนธันวาคม ออกดอกชุดหนึ่งและออกดอกในราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม อีกชุดหนึ่ง ลักษณะผล มีขนาดใหญ่มาก เฉลี่ย 50 กิโลกรัมต่อผล โตใหญ่ยาวและหนา ยวงสีเหลือง แต่รสชาติหวานพอประมาณ เนื้อจะหวานขึ้นเมื่อผลสุกงอมเต็มที่ เป็นไงหล่ะคะ สมกับที่เป็นผลไม้ที่อยู่ในคำขวัญของอำเภอรึเปล่า !? เนื้อหนา อร่อย หอม ใครที่อยากกินสามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปเลยนะ ทั้งในตลาดในอำเภอและในตลาดของชุมชน บ้านเราก็ปลูก แต่ปลูกไว้เพื่อกิน และเพื่อแบ่งปันเพื่อนบ้านรอบ ๆ จะบอกว่าตั้งแต่เด็กจนโต บ้านเราไม่เคยจน ไม่ใช่เรื่องเงินนะ บ้านเราไม่เคยจนน้ำใจ และจนความสุข ทุกคนต่างแบ่งปัน เพื่อหนึ่งคนเริ่มให้ คนได้รับก็เริ่มเป็นผู้ให้ จนเป็นการให้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด จนเกิดความสุขที่ไม่มีวันสิ้นสุดเช่นกัน ลองกองมีชื่อ' ลองกองดูเฉย ๆ ไม่ได้ขาย ' พ่าม !! มุขคลาสสิคที่เราชอบเล่นกับเพื่อน แต่ความอร่อยของลองกองนาทวีไม่มีมุกนะ อร่อยจริง ๆ ในอำเภอนาทวีถือว่าเป็นอำเภอเกษตรอีกอำเภอหนึ่ง ที่มีทั้งการปลูกยางและผลไม้ หนึ่งผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญคือ ลองกอง เป็นผลไม้ที่อยู่คู่เกษตรกรชาวนาทวีมานานและสร้างรายได้มากมายสู่ชาวนาทวี ถามว่าทำไมลองกองที่นี้ถึงแตกต่างจากลองกองที่อื่น เราตอบเลยค่ะว่า ไม่รู้ เพราะเราเคยกินแต่ลองกองที่นี้ และสิ่งที่ทำให้ลองกอง เป็นผลไม้ที่ไม่ตกเทรนด์ คือ เป็นผลไม่ที่ปลอกเปลือกทานง่าย รสชาติหวานอร่อย เลื่องลือสะเดาเทียม สะเดาเทียม ไม่ใช่สะเดาปลอมแต่อย่างใด.. มองขึ้นไปสูงละลิ่ว จนถึงจุดที่คนเรียกกันว่า สุดยอด ต้นไม้นี้ก็สุดยอดไม้แพ้กัน เป็นต้นไม้ที่สร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้าน และถือว่าเป็นการใช้ธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เพราะต้นนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เมื่อโค้นต้นสามารถนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มมูลค่าของต้นไม้ที่คนมองว่าธรรมดา ใบกับเมล็ด สามารถนำมาทำยาฆ่าแมลง เปลือก นำไปต้มดื่มน้ำทำเป็นยาแก้อาการท้องบิดและท้องร่วง ดอกอ่อนรับประทานได้ เป็นไม้พันธุ์หนึ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวสงขลาเพราะเป็นพันธุ์พระราชทาน และนอกจากนั้นยังนำมาซึ่งอาชีพ รวมถึงการต่อยอดในการใช้ประโยชน์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด นาทวี กับความสุขที่ ทวีคูณของเรา เพื่อน ๆ เชื่อไหมว่าเรามีความสุขทุกครั้งตอนกลับบ้าน ได้ยินเสียงหัวเราะความอบอุ่นจากครอบครัว มากกว่านั้น เวลาที่เราไปซื้อของที่ตลาดหรืออยู๋ในหมู่บ้าน ทุกคนพูดภาษาใต้ที่ดูเหมือนจะแรง ๆ แต่จริง ๆ แล้วแฝงไปด้วยความจริงใจ เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี้แล้วลงหลักปักฐานมีครอบครัว เราเคยถามเขาว่าทำไมไม่กลับบ้านหล่ะ เขาตอบเรามาว่า ที่นี้แหละคือบ้านของเขา เราฟังแล้วรู้สึก เห้ย !! ก็จริง เราก็มีความรู้สึกแบบนั้น ที่นี่แหละค่ะคือสวรรค์ของเรา แก..มาเหอะ เราอยากให้มา... ลองมาสัมผัสแล้วมาหลงรักที่นี้ไปด้วยกันนะ เรายินดีต้อนรับเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยใจจริง และเชื่อว่าชาวบบ้านทุกคนก็คิดเช่นเดียวกัน แล้วเจอกันนะ... จากเจ้าถิ่น ขอขอบพระคุณรูปภาพประกอบบทความจาก technologychaoban mtec bangkokassets hatyaifocus www.facebook.com เล่าเรื่องโดย ครูอิงลิชอิสมีคนดีคนเดิม :) #เรื่องเล่าจากเจ้าถิ่น