ใหม่สูงคา แปลว่าสวัสดีนั่นเองเป็นคำทักทายของชาวไทใหญ่ เราไปพม่าแต่แถว ๆ หมู่บ้านชนบทห่างไกลเมืองหลวงพม่ามาก วันนี้เราจะพาไปดูวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี อาหารการกินของหมู่บ้านเล็ก ๆ ในประเทศพม่ากันว่าเป็นอย่างไร ชาวบ้านน่ารักมากเป็นกันเอง ได้เจออะไรแปลก ๆ ที่บ้านเราไม่มี พูดแล้วก็อยากกลับไปอีกคือมันมีทั้งความตื่นเต้นและรู้สึกที่ดีจริง ๆ ค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลยเริ่มจากตรงนี้เลยละกัน ฮ่า ๆ เอาจริง ๆ ถ้าไปเห็นด้วยตาเปล่ามันกว้างใหญ่มากที่ตรงนี้คนแถวนั้นเขาเรียกแม่น้ำนี้ว่าแม่น้ำคง ก็คือแม่น้ำสาละวินที่บ้านเราเรียกกันนั่นแหละค่ะ ตรงขอบ ๆ แม่น้ำทั้งสองฝั่งเป็นทรายอากาศตอนนั้นร้อนมากค่ะ เราต้องรอขึ้นเรือแล้วก็ข้ามไปอีกฝั่ง ตอนนั่งเรือข้ามแม่น้ำตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยนั่งเรือแบบนี้มาก่อนสนุกมากเลยค่ะนี่เป็นอาหารมื้อแรกที่ได้กินชื่อว่าโต้ยพูอุ่นหรือที่ไทยเรียกข้าวฟืนอุ่นอยู่แถวหมู่บ้านที่ไปพักชื่อว่าหมู่บ้านเมืองนายมีของกินคล้าย ๆ บ้านเรามีก๋วยเตี๋ยว มีข้าวซอย บางครั้งเดินไปร้านค้าก็เจอสินค้าที่มาจากประเทศไทยตลาดที่หมู่บ้านนี้จะนั่งขายของตรงพื้นเลยอยากบอกว่าของที่นี่แต่ละอย่างถูกมาก ขนมแปลก ๆ น่ากินมีเยอะมากแถวหมู่บ้านนี้ส่วนมากจะมีวัดเยอะ เพราะที่พม่าในหมู่บ้านชนบทต้องเรียนโรงเรียนวัด และต้องบวชเรียนถ้าไปแถวนี้ก็จะเห็นว่าพระ เณรเยอะมาก วัด ๆ นึงมีเณรประมาณร้อยกว่ารูปแต่มีอยู่วัดหนึ่งเราก็อ่านชื่อไม่ออกว่าอ่านว่าอะไรแต่คนแถวนั้นเรียกว่าวัดนางสิบสองที่มีเรื่องเล่าสมัยก่อนตามนิทานหรือละคร ที่วัดนี้เป็นที่หลบซ่อนของนางสิบสองสมัยก่อนลักษณะเป็นถ้ำและมีช่องแคบเต็มไปหมดถ้าขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเป็นจุดชมวิวเห็นอีกเมืองนึงนี่เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งถัดจากหมู่บ้านเมืองนายไกลกันประมาณ 1-2 ชั่วโมง ชื่อหมู่บ้านน้ำทรายเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างเจริญเราเดินไปเที่ยวตลาดของหมู่บ้านนี้ของถูกคนเยอะมีของขายหลายอย่างมีทั้งของกินของใช้เต็มไปหมดคล้าย ๆ ตลาดนัดบ้านเราแต่ใหญ่มากเดินขาลากเลยทีเดียว คนแถวหมู่บ้านนี้มีหลายเชื้อชาติเท่าที่เราสังเกตุมีทั้งอินเดีย จีน พม่า ไทใหญ่ เดินเล่นในตลาดสักพักก็ออกมาข้างนอกเพราะร้อนมาก เลยต้องหาของหวานกินซักหน่อย เราเจอร้านนี้ทางเข้าตลาดเป็นร้านน้ำอ้อยคั้น เขาคั้นน้ำอ้อยแบบสด ๆ แล้วก็ใส่กะทิที่ขูดจากมะพร้าวเลย ทุกอย่างแทบจะทำสดเพราะถ้าจะซื้อกะทิกระป๋องหรือแบบเป็นกล่องเหมือนบ้านเราคงต้องสั่งซื้อไกลแถมยังต้องใช้เวลานานอาจจะมีค่าขนส่งหลายอย่างตามมาค่าแรงขั้นต่ำที่พม่าก็คงได้น้อยกว่าบ้านเราเลยต้องประหยัดไว้ก่อน แต่ที่แน่ ๆ ของหวานอร่อยมากหน้าตาก็คล้ายของหวานบ้านเรานะแต่มันคงต่างที่วัตถุดิบหลาย ๆ อย่าง มันหอมหวานมันอร่อยสุด ๆ หรืออาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนด้วยแหละค่ะ ฮ่า ๆช่วงที่เราไปเที่ยวเป็นช่วงงานบวชลูกแก้วของหมู่บ้านแต่นปุดหรืออาจจะมีทุกหมู่บ้านของคนไทใหญ่รึเปล่าเราก็ไม่แน่ใจ แต่เราไปหมู่บ้านนี้พอดีงานจัดอลังการยิ่งใหญ่มากคือประเพณีดูแปลกตาทุกคนแต่งตัวสวยไปหมดโดยเฉพาะลูกชายที่บวชลูกแก้วที่นี่เขาเรียกประเพณีนี้ว่าปอยส่างลอง บรรยากาศคึกคักทั้งวันทั้งคืนเหมือนทุกคนแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ได้ยินผู้ใหญ่ที่นั่นบอกมาว่าประเพณีนี้ยิ่งใหญ่ทุกคนเลยต้องแต่งตัวสวยเป็นพิเศษและที่สำคัญต้องใส่ทองไม่ว่าจะเป็นการใส่สร้อย แหวน กำไรทอง เป็นการบ่งบอกว่าตัวเองมีการอยู่กินที่ดีและเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวตัวเองภูมิใจ เท่าที่เราเห็นทุกคนใส่ทองแบบจัดเต็มมาก ๆ ค่ะก่อนจะกลับไทยวันนั้นเป็นวันที่หมู่บ้านแต่นปุดมีตลาดเช้าผู้ใหญ่ที่นั้นเขาบอกว่า หนึ่งอาทิตย์จะมีตลาดตอนเช้าแค่หนึ่งวัน แต่เราก็กลับเช้าวันนั้นพอดีจึงแวะเที่ยวตลาดหน้าหมู่บ้าน เขาบอกว่าต้องตื่นเช้ามาก ๆ ไม่งั้นถ้าช้าจะไม่ได้กินอะไรเลย เราก็ตื่นตั้งแต่ตีห้าเลยจ้า คือบรรยากาศดีมากเหมือนตลาดสมัยก่อนคือต้องไปเที่ยวจริง ๆ มันบรรยายเป็นคำพูดยากกับความรู้สึกแบบนั้นเรารู้สึกว่าบ้านเราอะไรแบบนั้นมันไม่ค่อยมีแล้ว ตื่นเช้ามามานั่งกินข้าวกันเป็นกลุ่มนั่งคุยกันถ้ามีโอกาสลองไปเที่ยวดูนะคะ อาจจะลำบากหน่อย แต่คุ้มค่าในทุก ๆ วันค่ะ คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตเก่า ๆ แต่อาจจะเป็นอะไรใหม่ ๆ ที่เราได้ลองทำค่ะ