บางครั้งการเดินทางก็ไม่จำเป็นต้องมีการวางแผน เหมือนกับทริปนี้ ปลายฝน ต้นหนาว " น่าน Music Folk " ถ้าให้เล่าจริงๆ เราจะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ตัวเราเลยตั้งแต่เริ่มแรก แต่ด้วยอารมณ์อยากท่องเที่ยวทำให้เราตอบตกลงไปแบบไม่ทันคิด โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามันคืองานดนตรีแนวไหน แม้แต่ชื่อวงดนตรีและนักร้องเรายังไม่รู้จักฮ่า ๆ ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับเรา เราเดินทางจากเชียงใหม่ไปจังหวัดน่าน โดยรถกรีนบัส ราคาค่าตั๋วไป-กลับ คนละ 550 บาท ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5ชั่วโมงกว่า ก่อนจะเดินทางเราพอมีเวลาที่จะทำความรู้จักกับแนวเพลงที่จะเล่นในงานนี้ แฟนเราเปิดเพลงของ เขียนไขและวานิช ให้เราฟังตลอดการเดินทาง เพราะวงนี้เป็นวงที่พวกเราตั้งใจไปฟัง ซึ่งช่วงแรก ๆ เรายอมรับเลย ว่าไม่ค่อยอินกับแนวเพลงแบบนี้เท่าไหร่😁 ซึ่งงานนี้ถูกจัดขึ้นที่ ป่าเป่ย เฮือนฮังต่อ จังหวัดน่าน ภายในงานมีบริเวณให้สำหรับกางเต้นท์สำหรับพักผ่อนตอนกลางคืน งานจะเริ่มตั้งแต่ 16.00 - 23.30 น. และจะมีวงดนตรีมากมายสลับผลัดเปลี่ยนกันขึ้นรองเพลง เมื่อมาถึงหน้างานประมาณบ่ายสามกว่าๆ พวกเราก็เข้าไปรับบัตรเพื่อเข้าไปในบริเวณงาน เราได้รับสายข้อมือเล็กๆมาเพื่อแสดงว่าสามารถเข้าออกงานได้ งานนี้พวกเราตั้งใจมากางเต้นท์นอนฟังเสียงเพลงกัน บรรยายกาศในงานสบายๆทุกคนต่างพากันกางเต้นท์สำหรับนอนในตอนกลางคืน ส่วนบางคนที่ไม่ค้างคืนก็มีเสื่อเล็กๆสำหรับปูรองนั่ง ทุกคนต่างมีหน้าตาสดใส เฮฮ่า ภายในงานมีบูทขายของเล็กๆ แนววินเทจ รักๆ เมื่องานเริ่มขึ้น ต่างมีวงดนตรีผลัดกันขึ้นมาเล่น ผู้คนต่างพากันจับจองหาที่นั่งบริเวณหน้าเวที บรรยากาศสบายๆยามเย็นคู่กับเสียงเพลงเบาๆ ทำให้เรารู้สึกมีความสุขแบบบอกไม่ถูก ถึงแม้เราจะไม่รู้จักเพลงที่ได้ฟังเลยก็ตาม เรานั่งฟังเพลงจนถึงเวลาประมาณ 3ทุ่ม จึงตัดสินใจกลับไปนอนที่เต้นท์เพราะรู้สึกปวดหลัง แต่การกลับมานอนที่เต้นท์ ทำให้เราได้ตั้งใจฟังเพลงพร้อมกับมองพระจันทร์ ไปด้วย มันทำให้เรารู้ว่า เนี้ยแหละคือการพักผ่อนที่แท้จริง แนวเพลงที่เราไม่เคยรู้จักกลับทำให้เราได้สัมผัสกับความสุขในแบบที่เราตามหา มันรู้สึกสบายใจจนไม่อยากขยับตัวไปไหน จนถึงตอนเช้า หลังจากจบงานนี้ทำให้เราได้เปิดโลกและรู้จักแนวเพลงอีกแนวหนึ่ง ที่มีความไพเราะและแสดงถึงตัวตนของผู้แต่งและคนร้องได้ดี