เคยไหมครับเวลาที่ไปเที่ยวบนดอยหรือยอดภูต่าง ๆ แล้วตื่นเช้าเพื่อไปรอชมทะเลหมอก แต่ก็ไม่เคยได้เห็นเลยสักครั้ง ผมคือคนนึงครับ ผมเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติขึ้นดอยขึ้นเขาเป็นอย่างมาก เวลาไปก็จะไปกางเต๊นท์นอน เช้า ๆ ก็จะรีบตื่นเพื่อคิดว่าจะได้เห็นทะเลหมอก แต่มันไม่เคยเป็นอย่างที่คิดเลยเพราะมันมีแต่หมอกขาวโพลนไม่เห็นอะไรเลยมากกว่า ที่ไหนที่เค้าว่าไปแล้วเห็นผมก็ไปมาหมดแต่ก็ไม่เจอทะเลหมอกสักที อาจจะเป็นเพราะความโชคร้ายที่ทุกครั้งที่ไปสภาพอากาศอาจจะไม่เอื้ออำนวยแก่การมีทะเลหมอกก็เป็นได้ แต่ในที่สุดผมก็ได้เจอทะเลหมอกสมใจอยากสักที ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผมได้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงราย และผมมีความมุ่งมั่นมาก ๆ ว่าต้องขึ้นภูชี้ฟ้าให้ได้ ผมรีบออกจากที่พักในตัวเมืองเชียงรายตั้งแต่ ตี 4 เพื่อจะได้มาถึงภูชี้ฟ้าในตอนเช้าพอดี ผมมาถึงบริเวณทางขึ้นภูชี้ฟ้าซึ่งในช่วงเทศกาลทางเจ้าหน้าที่จะให้จอดรถไว้ และจะมีรถที่บริการขับขึ้นไปส่งตรงจุดที่ต้องเดินขึ้นไป ผมจอดรถและใช้บริการนั่งรถขึ้นไปเมื่อถึงก็เห็นป้ายทางเดินขึ้นไปที่ยอดภูชี้ฟ้าซึ่งต้องเดินขึ้นไปอีก 760 เมตร ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ในช่วงเช้าอากาศค่อนข้างเย็นทำให้บริเวณทางเดินจะลื่นแนะนำให้ใส่เป็นรองเท้าผ้าใบจะสะดวกมากกว่ารองเท้าแตะ ก่อนทางเดินขึ้นจะมีชาวบ้านเด็ก ๆ มาตั้งร้านขายพวงกุญแจ ของที่ระลึกกันด้วย ซึ่งมีราคาขายที่ถูกมาก ๆ ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ระหว่างทางเดินขึ้นไปจะพบกับเด็กดอยตัวเล็ก ๆ แต่งตัวมายืนร้องเพลงและให้เราได้ถ่ายรูปคู่ด้วย และให้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ก็ได้ตามที่เราอยากให้ ซึ่งมีน้องมายืนตามทางเป็นระยะ ๆ น้อง ๆ น่ารักมาก ๆ เลยต้องถ่ายรูปด้วยสักหน่อย ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) เมื่อเดินขึ้นไปสักพักสิ่งที่ผมอยากเห็นมาตลอดชีวิตก็เริ่มจะปรากฎขึ้นมา นั่นก็คือทะเลหมอก พอเริ่มเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเห็นยอดภูชี้ฟ้า ที่ชี้ยื่นออกไป เป็นภาพที่ต้องบอกว่าสวยงามเกินที่จะบรรยายได้ ถ่ายรูปออกมาก็ยังมีความรู้สึกว่ามันยังไม่สวยเท่ากับตาเห็นเลย ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) เดินขึ้นไปถึงบริเวณยอดภูชี้ฟ้า จะพบกับหลักกิโลที่ด้านนึงเขียนว่าประเทศไทย และอีกด้านนึงเขียนว่าประเทศลาว และมีป้ายชื่อภูชี้ฟ้าให้ได้ถ่ายรูปกันด้วย แต่ผมมาในช่วงเทศกาลทำให้มีคนเยอะมาก ๆ ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) บนยอดภูชี้ฟ้า เราจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบ 180 องศา ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเห็นแต่ทะเลหมอก ผมใช้เวลาอยู่บนนี้เป็นเวลานานเกินชั่วโมง แม้ว่าแดดจะเริ่มออก แต่อากาศด้านบนก็ยังเย็นสบายและทะเลหมอกก็ยังแน่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ยิ่งพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงทะเลหมอกก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) ที่มาภาพ Tae Rattawat ( ผู้เขียน ) การขึ้นมาที่ภูชี้ฟ้าในครั้งนี้อย่างน้อยก็ทำให้ผมนั้นได้เห็นทะเลหมอกสักที หลังจากที่อยากเห็นมานานมากแล้ว นอกจากได้เห็นทะเลหมอกแล้วยังได้สัมผัสธรรมชาติ ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้สัมผัสอากาศที่เย็นสบาย เท่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ แล้ว สำหรับการขับรถมาที่ภูชี้ฟ้านั้นก็ถือว่ามีช่วงที่สูงชันอยู่บ้างแต่ก็ไม่ยากมากนัก โดยผมแนะนำให้ขับมาทางถนนหมายเลข 1155 เมื่อถึงจุดสกัดบ้านแผ่นดินทองให้วิ่งตรงไปตามถนนหมายเลข 1093 วิ่งตรงมาเรื่อย ๆ จะพบกับโรงเรียนบ้านราษฎร์ภักดี ( ต.ตับเต่า ) ขับต่อไปจนถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาไปทางวนอุทยานภูชี้ฟ้า ขับไปอีกนิดก็ถึงครับ ส่วนถ้าไม่ได้มาทางที่ผมแนะนำ เส้นทางจะค่อนข้างขับยากและมีความชันมากด้วย สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอกแน่น ๆ ของภูชี้ฟ้า ควรวางแผนการเดินทางกันด้วยนะครับ และควรเช็คสภาพรถให้อยู่ในสภาพที่พร้อม เมื่อสภาพรถพร้อมแล้ว คนขับก็ต้องพร้อมเช่นกันนะครับ ที่มาภาพปกและภาพประกอบทั้งหมด โดย Tae Rattawat ( ผู้เขียน )