พอเข้าสู่เดือนเมษายน อากาศในเมืองไทยก็ร้อนอบอ้าวมากขึ้นทุกที ทำให้ใคร ๆ ต่างมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบชิลล์ ๆ คลายร้อนอย่างทะเล หรือไม่ก็น้ำตก สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อดับร้อนกันที่ไหนดีล่ะก็... วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยวเล่นที่ “น้ำตกเอราวัณ” จังหวัดกาญจนบุรีค่ะ ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม เพราะน้ำในน้ำตกเป็นน้ำสีฟ้าอมเขียวมรกตที่อยู่ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้สีเขียวร่มรื่น ดูแล้วมีความกลมกลืนกับธรรมชาติแบบสุด ๆ ค่ะ ถ้าพร้อมเที่ยวแล้ว เตรียมปักหมุดเช็กอินไว้ได้เลยค่ะ! ^^ น้ำตกเอราวัณตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ บริเวณฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งน้ำตกเอราวัณมีชื่อเดิมว่า “น้ำตกสะด่องม่องลาย” ที่มาจากชื่อลำธาร “ห้วยม่องลาย” อันเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกนั่นเองค่ะ ธารน้ำตกของน้ำตกเอราวัณนั้นอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ซึ่งสายน้ำตกจะไหลพาดผ่านลงมาจากบนยอดเขาและผาหินปูนที่สูงตระหง่านจากระดับน้ำทะเลประมาณ 65 - 996 เมตร เป็นระยะทางต่อเนื่องกันประมาณ 1.5 กิโลเมตร จนเกิดเป็นน้ำตกลดหลั่นกันถึง 7 ชั้นค่ะ ระหว่างทางก่อนที่จะขึ้นไปยังน้ำตกก็จะมีป้ายบอกชื่อและระยะทางของน้ำตกแต่ละชั้นค่ะว่ามีชื่ออะไรบ้าง และมีระยะทางเท่าใด ซึ่งน้ำตกแต่ละชั้นจะตั้งชื่อให้คล้องจองกัน โดยเริ่มจาก.. น้ำตกชั้นที่ 1 “ไหลคืนรัง” เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ เหมาะสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน หรือนั่งปูเสื่อปิกนิกกับครอบครัวค่ะ แต่ถ้าใครที่รู้สึกหิว ๆ หรือกระหายน้ำก็สามารถซื้ออาหารกับน้ำดื่มกันได้ร้านค้าสวัสดิการตรงข้ามกับน้ำตก ซึ่งร้านค้าสวัสดิการขายอาหารประเภทส้มตำ คอหมูย่าง, พิซซ่า, ขนมขบเคี้ยว และน้ำดื่มต่าง ๆ ในราคาปกติเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แถมยังใช้กล่องพลาสติกใส ๆ แทนกล่องโฟม แต่ก่อนซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มต้องแลกคูปองด้วยนะคะ และหลังจากกินอาหารและน้ำดื่มเสร็จแล้วต้องนำไปทิ้งที่ถังขยะกันนะคะ เพื่อให้ธรรมชาติสวย ๆ จะได้อยู่กับพวกเราอย่างนี้ไปนาน ๆ ค่ะ ^^ น้ำตกชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” อยู่ถัดขึ้นมาจากน้ำตกชั้นที่ 1 “ไหลคืนรัง” เพียงแค่นิดเดียวเองค่ะ แต่ขอบอกเลยว่าน้ำสวยกว่าและน่าเล่นมากกว่า เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำมาก ๆ เนื่องจากมีแอ่งน้ำให้ลงไปเล่นได้ แถมยังมีฝูงปลาพลวงแหวกว่ายและอาศัยอยู่ในน้ำด้วย หากลงเล่นน้ำใกล้กับฝูงปลาพลวงก็จะมีฝูงปลาพลวงมาตอดเท้าให้จั๊กจี้เป็นการสปาเท้าแบบธรรมชาติไปในตัวค่ะ 5555 พอเดินผ่านน้ำตกชั้น 2 ขึ้นไปยังน้ำตกชั้นอื่น ๆ เจ้าหน้าที่อุทยานจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านจากน้ำตกชั้น 2 ขึ้นไปนะคะ แต่ถ้าจำเป็นหรือต้องการนำห่อขนม / เครื่องดื่มขึ้นไปกินหรือดื่มจริง ๆ ก็จะต้องจ่ายค่ามัดจำลงทะเบียนขวดน้ำ หรือห่อขนมต่าง ๆ ก่อน แล้วเจ้าหน้าที่จะทำสัญลักษณ์ไว้ให้ เพียงเท่านี้ก็นำติดตัวขึ้นไปได้แล้ว และอย่าลืมนำน้ำดื่มหรือห่อขนมติดตัวกลับมาตอนเดินลงมาทิ้งในถังขยะที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้และรับเงินมัดจำคืนด้วยนะคะ หากไม่นำกลับมาแสดงว่าทิ้งไว้ในป่าก็จะต้องจ่ายค่าปรับค่ะ น้ำตกชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” อยู่ถัดจากน้ำตกชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” ขึ้นไปเพียง 100 - 200 เมตรเท่านั้นค่ะ ซึ่งน้ำตกชั้นนี้สวยงามสมกับชื่อน้ำตกจริง ๆ ค่ะ เนื่องจากสายน้ำตกจะตกลงมาจากภูผาถึงแอ่งน้ำเขียวสีมรกตอันกว้างใหญ่เบื้องล่าง เมื่อเข้าไปยืนเล่นน้ำข้างใต้น้ำตกก็จะรู้สึกว่าร่างกายสดชื่นซู่ซ่ามาก ๆ เหมาะสำหรับลงเล่นน้ำจริง ๆ ค่ะ น้ำตกชั้นที่ 4 “อกผีเสื้อ” อยู่ถัดจากน้ำตกชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก” ขึ้นไปอีกเพียง 250 เมตรเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่เส้นทางที่ขึ้นมาถึงน้ำตกชั้นนี้ก็สูงชันจนคนส่วนมากเดินต่อแทบไม่ไหวค่ะ ส่วนที่น้ำตกชั้นนี้ถูกตั้งชื่อว่า “อกผีเสื้อ” เป็นเพราะว่าเนินหินทั้ง 2 ก้อนบริเวณที่น้ำตกไหลผ่านลงมานั้นมีลักษณะคล้ายกับเนินอกของนางผีเสื้อสมุทรในวรรณคดีไทยเรื่อง “พระอภัยมณี” นั่นเองค่ะ สำหรับคนที่ชื่นชอบความตื่นเต้นท้าทายหรือการเล่นน้ำแบบผาดโผนด้วยการเล่นสไลเดอร์ไหลลื่นตกลงมายังแอ่งน้ำด้านล่าง ขอแนะนำว่าให้มาเล่นที่น้ำตกชั้นนี้ค่ะ ^^ น้ำตกชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง” เป็นน้ำตกที่สวยงามสมชื่อจริง ๆ ค่ะ เพราะน้ำตกชั้นนี้สวยงามมาก สวยงามจนเบื่อไม่ลง แทบจะละสายตาไม่ได้เลย ยิ่งตอนช่วงสาย ๆ แสงแดดจะสะท้อนลงมากระทบกับผิวน้ำ ทำให้ผิวน้ำนั้นมีสีเขียวอ่อน ๆ ฟ้า ๆ คล้ายกับสีมรกต ยิ่งสวยงามมากขึ้นไปอีกค่ะ หากใครจะมาชมน้ำตกชั้นนี้ต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 500 - 600 เมตรเลยค่ะ แต่รับประกันได้เลยว่าถ้าได้มาชมแล้วจะเบื่อไม่ลงอย่างแน่นอนค่ะ น้ำตกชั้นที่ 6 “ดงพฤกษา” เป็นน้ำตกรายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ซึ่งม่านน้ำตกที่ไหลลงมาแหวกม่านพฤกษาออกมาเลยค่ะ และนี่ก็คือที่มาของชื่อน้ำตกชั้นนี้นั่นเอง สำหรับใครที่เดินมาถึงน้ำตกชั้นนี้ รับรองได้ว่าต้องหายร้อนและหายเหนื่อยอย่างแน่นอนค่ะ น้ำตกชั้นที่ 7 “ภูผาเอราวัณ” นอกจากจะเป็นน้ำตกชั้นบนสุดและชั้นสุดท้ายที่สวยงามมากที่สุดแล้ว ยังเป็นน้ำตกที่มีเส้นทางขึ้นเขาอย่างทรหดและโหดเอาเรื่องจริง ๆ ค่ะ แม้ว่าจะมีบันไดให้ขึ้นอย่างสะดวกกว่าแต่ก่อนก็ยังเดินจนแทบจะหมดแรงกันเลยทีเดียว ซึ่งความพิเศษของน้ำตกชั้นนี้ก็คือเมื่อมองสายน้ำตกไหลบ่าบริเวณหน้าผาตรงหน้าไกล ๆ จะมีลักษณะเหมือนเป็นหัวช้างสามเศียรหรือที่เรียกว่า “ช้างเอราวัณ” และความพิเศษนี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตก “เอราวัณ” นั่นเองค่ะ หากใครวางแผนว่าจะมาเที่ยวเพื่อคลายร้อนในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่าลืมแวะมาพักผ่อนชิลล์ ๆ เที่ยวชมน้ำตกสวย ๆ กันได้ที่ “น้ำตกเอราวัณ” นะคะ และสิ่งสำคัญก็คือควรเที่ยวชมแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยการไม่ทิ้งเศษขยะ ขวดน้ำ ห่อขนม ลงบนพื้นหรือในน้ำตก เพื่อให้ธรรมชาติสวย ๆ ยังคงอยู่ไปอีกนานแสนนานค่ะ 📍 ปักหมุดได้ที่: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250 🚘 GPS: https://goo.gl/maps/UmioVuyytGLtaxBK8👍 Facebook: https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติเอราวัณ-Erawan-National-Park-580314699117381/📞 โทร. 034-574-222, 034-574-234, 034-574-288💸 เสียค่าเข้าชม: คนไทยเด็ก >> (เดิม) ราคา 50 บาท / (ใหม่) ราคา 30 บาท***ผู้ใหญ่ >> (เดิม) ราคา 100 บาท / (ใหม่) ราคา 60 บาท*** ชาวต่างชาติเด็ก >> (เดิม) ราคา 200 บาท / (ใหม่) ราคา 150 บาท***ผู้ใหญ่ >> ราคา 300 บาท ยานพาหนะรถยนต์ >> 30 บาทรถจักรยานยนต์ >> 20 บาท**ทั้งนี้ค่าเข้าชม (ใหม่) นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไปค่ะ**🏡 เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.Credit ภาพหน้าปก, ภาพประกอบบทความโดย: Windy_55 (ผู้เขียน)อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !