วิสาขบูชา 2568 สักการะ 4 สังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล พุทธสถานสำคัญ

วันวิสาขบูชา 2568 ตรงกับวันปีที่ครบรอบ 2,572 ปีแห่งการ ประสูติ–ตรัสรู้–ปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า สังเวชนียสถาน ทั้ง 4 แห่งนี้นับว่าเป็นสถานที่สำคัญที่ชาวพุทธผู้ศรัทธา ตั้งใจว่าจะต้องเดินทางไปสักการะให้ได้สักครั้งในชีวิต เป็นการตามรอยพระพุทธเจ้าในดินแดนต้นกำเนิดศาสนาพุทธที่อยู่ในประเทศอินเดีย และเนปาล นับได้ว่าเป็นการเดินทางเพื่อความตื่นรู้ เบิกบาน และระลึกถึงพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
สังเวชนียสถาน สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธทั้งสี่ คืออะไร?
จากเนื้อความในมหาปรินิพพานสูตร บันทึกไว้ว่า "สังเวชนียสถานสี่แห่งนี้ เป็นสถานที่ควรไปเคารพสักการะ ควรไปแสวงบุญเพื่อให้เกิดความสังเวช และเกิดพุทธานุสติ อันจะนำมาซึ่งบุญกุศล และความปลาบปลื้มใจ" แสดงให้เห็นว่าสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้ได้เกิดขึ้นโดยคำแนะนำของพระพุทธองค์ ที่ได้ตรัสว่า ผู้ใดระลึกถึงพระองค์ พึงจาริกไปยังสังเวชนียสถานทั้งสี่นี้ (ที่มา : พระไตรปิฎก เล่มที่ 10 พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 2 ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร. พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ) ได้แก่
1. ลุมพินีวัน หรือ รุมมินเด
สถานที่ประสูติแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ลุมพินีวัน ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตประเทศเนปาล อยู่ห่างจากชายแดนอินเดีย-เนปาลประมาณ 32 กิโลเมตร ภาษาทางราชการเรียกว่า "รุมมินเด" ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2540
ลุมพินีวันในสมัยโบราณเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ และเมืองเทวทหะ แคว้นโกลิยะ อินเดียสมัยพุทธกาลมีธรรมเนียมว่าฝ่ายหญิงที่แต่งงานออกเรือนไป หากมีครรภ์จะกลับไปคลอดที่บ้านฝ่ายหญิง แต่พระนางสิริมหามายา เดินทางไปไม่ทันจะถึงเทวทหะ ก็เกิดเจ็บท้องจะคลอดกลางทางระหว่างแวะพักที่ลุมพินีวันพอดี เจ้าชายสิทธัตถะจึงประสูติที่นี่ในที่สุด
ประมาณปี พ.ศ.294 พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จมานมัสการ ณ ลุมพินีนี้ แล้วทรงสร้างอาราม พระเจดีย์ และเสาศิลาจารึกไว้เป็นสัญลักษณ์ แต่ด้วยกาลเวลาก็ทำให้เสาหิน รวมถึงซากโบราณสถานสำคัญๆ ทั้งหมดถูกดินฝังกลบไป จนในปี พ.ศ. 2438–2439 คณะสำรวจจึงได้ขุดค้นพบเสาศิลาพระเจ้าอโศกในที่สุด รวมถึงซากปรักหักพังจำนวนมาก ซากสถูปกว่า 50 องค์ และซากวิหารอาราม มีอายุตั้งแต่สมัยราชวงศ์โมริยะ ราชวงศ์ศุงคะ ราชวงศ์กุษาณะ และสมัยคุปตะ (ประมาณ พ.ศ. 300 - 950)
====================
2. พุทธคยา
สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
พุทธคยา ในสมัยพุทธกาลนั้นคือตำบลอุรุเวลาเสนานิคม เมืองคยา แคว้นมคธ ซึ่งมีเมืองราชคฤห์ เป็นเมืองหลวง ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้นี้เรียก ตำบลพุทธคยา ขึ้นอยู่กับจังหวัดคยา (ห่างจากจังหวัดคยา 12 กิโลเมตร) รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2545 แต่ละปีมีชาวพุทธ และผู้สนใจจากทั่วโลกหลั่งไหลมายังพุทธคยาเป็นจำนวนมาก การเดินทางง่าย มีสนามบินคยา อยู่ไม่ไกลจากตัวพุทธคยา เดินทางเพียง 30 นาทีก็ถึงแล้ว
พุทธคยามีอีกชื่อเรียกว่า วัดมหาโพธิ์ เป็นศูนย์รวมของจุดหมายในการแสวงบุญของชาวพุทธผู้มีศรัทธาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิกายไหนก็ตาม โดยมีจุดสำคัญที่เราจะคุ้นตากันมากที่สุดอยู่ที่ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาสร้างความร่มรื่นทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งนับเป็นต้นพระศรีมหาโพธิ์รุ่นที่สี่ ปลูกเมื่อพ.ศ. 2423 ที่ยังคงยืนต้นมาจนปัจจุบัน
====================
3. ธัมเมกขสถูป สารนาถ
สถานที่แสดงปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า
ธัมเมกขสถูป อยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใกล้เมืองพาราณสี ปัจจุบันอยู่ในรัฐอุตระประเทศ ประเทศอินเดีย แคว้นกาสี ซึ่งเมืองพาราณสีนี้อยู่ห่างจากเมืองพุทธคยา สถานที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร
หลังจากพระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา และเทศน์โปรดปัญวัคคีย์จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งหมดแล้ว ทรงพักจำพรรษาแรก ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันพร้อมกับเหล่าปัญจวัคคีย์ และทรงประกาศเริ่มต้นส่งให้พระสาวกกลุ่มแรกออกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาหลังจากทรงจำพรรษาแรกแล้ว เชื่อกันว่าเป็นจุดที่เดียวกับที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา คือธรรมเมกขสถูป นั่นเอง
====================
4. กุสินารา
สถานที่ดับขันธปรินิพพาน
กุสินารา ตั้งอยู่ในแคว้นมัลละ ปัจจุบันตั้งอยูในรัฐอุตระประเทศ ประเทศอินเดีย ในสมัยพุทธกาล กุสินาราจัดว่าเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก แต่การที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกที่นี่เป็นที่ปรินิพพาน ทรงทราบดีว่าเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พระสรีระ และพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์คงถูกแว่นแคว้นต่างๆ แย่งชิงไปทำการบูชา หากพระองค์ปรินิพพานในเมืองใหญ่ เมืองใหญ่เหล่านั้นอาจไม่แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้เมืองเล็กๆ อย่างเช่นเมืองกุสินารานี้ ซึ่งก็เป็นความจริงเพราะหลังพระพุทธองค์ปรินิพพาน เจ้าผู้ครองแคว้นต่างๆ ก็ได้ยกกองทัพหลวงของตนมาล้อมเมืองกุสินาราเพื่อจะแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ แต่ด้วยความที่กุสินาราเป็นเมืองเล็ก จึงต้องยอมระงับศึกโดยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทุกเมืองโดยไม่ต้องเกิดสงคราม
ต่อมาภายหลัง จึงมีการสร้างสถูปใหญ่ คือ มหาปรินิพานสถูป อันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า มหาสถูปนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของปูชนียสถานอื่นๆ ที่สร้างขึ้นมาภายหลังในบริเวณนั้น ปัจจุบันชาวพุทธทั่วโลกได้มาก่อสร้างวัดไว้มากมาย โดยมีวัดของไทยด้วย ชื่อ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ปัจจุบันชาวไทยที่มาสักการะ ณ กุสินารา นิยมมาพักที่นี่
ข้อมูลน่ารู้ 4 สังเวชนียสถาน
สถานที่ | ประเทศ 🌍 | ปีที่ขึ้นทะเบียน UNESCO 📅 | ระยะทางจากเมืองหลัก ✈️ |
ลุมพินีวัน (Lumbini) | เนปาล | 1997 | ~300 กม. จากกาฐมาณฑุ |
พุทธคยา (Bodh Gaya) | อินเดีย | 2002 | ~110 กม. จากปัฏนา |
ธัมเมกขสถูป สารนาถ (Sarnath) | อินเดีย | - | ~10 กม. จากพาราณสี |
กุสินารา (Kushinagar) | อินเดีย | - | ~53 กม. จากโกศินคร |
การ ตามรอย 4 สังเวชนียสถาน ในวันวิสาขบูชาไม่เพียงแต่เป็นการถวายความเคารพต่อพระพุทธเจ้า แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้ซึมซับประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอันยาวนานของดินแดนพุทธภูมิ ทั้งเนปาล และอินเดีย หวังว่าตาราง และข้อมูลต่างๆ นี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวออกเดินทางได้ง่ายขึ้น ขอให้ทุกท่านมีทริปบุญที่เปี่ยมสุข และความหมายครับ
====================