เข้าสู่ช่วงหน้าฝนในเดือนกรกฎาคม ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีก็เลยอยากจะมาแนะนำที่เที่ยวหน้าฝนอย่าง "เมืองเก่าชากังราว อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร" เที่ยวหน้าฝนบอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก กำแพงเพชรจังหวัดภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เที่ยวกันหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกคลองลาน น้ำตกคลองน้ำไหล น้ำตกเต่าดำ ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยียน เที่ยวหน้าฝน อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร อยู่ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งอยู่ในเขตตำบลในเมือง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ลักษณะของศิลปะและสถาปัตยกรรมในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนี้เป็นศิลปะแบบเดียวกับที่ปรากฏในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ในอดีตเมืองกำแพงเพชรถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.2534 ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์ สุโขทัย ศรีสัชนาลัย แหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร วัดช้างรอบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมาเมืองเก่ากำแพงเพชรต้องห้ามเลยล่ะค่ะ แต่คนกำแพงเพชรจะเรียกติดปากกันว่า "วัดช้างล้อม" เพราะมีรูปปั้นช้างอยู่ล้อมรอบโบราณสถานแห่งนี้นั่นเองค่ะ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วตัวผู้เขียนเคยมาเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรเมื่อตอนยังเป็นเด็ก วัดช้างรอบสามารถเดินขึ้นบันไดไปข้างบนได้นะคะ แต่พอครั้งนี้ที่ผู้เขียนได้มาเที่ยวที่นี่อีกครั้งปรากฎว่าทางอุทยานติดป้ายห้ามขึ้นไปแล้วนะคะ น่าจะเป็นเพราะอิฐที่ก่อสร้างมานานอาจจะผุพังไปตามกาลเวลานั่นแหล่ะค่ะ แต่สามารถเดินชมบรรยากาศและโบราณสถานโดยรอบวัดช้างรอบได้ค่ะค่ะ ตอนเด็กที่ได้มาเที่ยวผู้ใหญ่จะให้เดินนับว่ามีรูปปั้นช้างอยู่รอบวัดช้างรอบอยู่เท่าไหร่ จำได้ว่าเดินวนหลายรอบมากค่ะว่าจะนับได้ตรงกันหรือป่าว พอได้มาเที่ยวอีกครั้งความทรงจำบรรยากาศเก่าก็พอจะกลับมาบ้าง แต่มาเที่ยวครั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้เดินวนแล้วนับรูปปั้นช้างแล้วนะคะ เพราะอ่านป้ายเอาค่ะว่ามีรูปปั้นช้างทั้งหมด 68 เชือก อยู่รอบวัดช้างรอบ นอกจากจะมีรูปปั้นช้างอยู่รอบทั้งสี่ด้านแล้ววัดช้างรอบจะมีบันไดตรงกลางเป็นทางขึ้นไปข้างบนทั้งสี่ด้านเพื่อใช้ขึ้นไปข้างบนโดยมีซุ้มประตูทั้งสี่ด้านอยู่ด้านบน วัดช้างรอบมีเจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่อยู่ข้างบน ภายในบริเวณโบราณสถานวัดช้างรอบใกล้ๆ กันจะมีบ้านไม้โบราณให้ได้เดินชมและแวะถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ วัดพระนอน ผังของตัววัดพระนอนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก อาคารต่างๆ ก่อสร้างด้วยศิลาแลง พื้นที่นอกกำแพงวัดด้านทิศตะวันออกมีอาคารศาลาโถง และบ่อน้ำที่ขุดเจาะลงไปในชั้นศิลาแลง ประตูทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันออก ทางเดินปูลาดด้วยศิลาแลง มีเสาปักตลอดสองฟากข้างทางเดิน บ่อน้ำโบราณ ลึกอยู่พอสมควรค่ะ มองไปด้านล่างเป็นโพรงน้ำกัดเซาะดินใต้หินศิลาแลง สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดพระนอนประกอบด้วยพระอุโบสถ ตั้งอยู่ทางตอนหน้าสุด และมีฐานใบเสมาตั้งอยู่รอบอาคาร เดินถัดจากพระอุโบสถเป็นวิหาร มีผังเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเสาศิลาแลงหลายต้นในพระวิหาร นอกจากนี้ยังเจอศิลาแลงรูปปั้นรอยเท้าอยู่ด้วย ภายในวิหารแห่งนี้มีแท่นอยู่ซึ่งในอดีตเป็นแท่นอาสนสงฆ์และแท่นที่ใช้ประดิษฐานพระพุทธรูปในอิริยาบถไสยาสน์ แต่องค์พระพุทธรูปพังทลายลงจึงไม่ได้เห็นในปัจจุบันแล้วค่ะ ถัดจากวิหาร เดินออกจากหลังพระวิหาร ก็จะเป็นพระเจดีย์ประธาน วัดพระนอน เป็นแบบเจดีย์ทรงกลม ส่วนยอดเจดีย์หักพังทลายไป วัดพระสี่อิริยาบถ หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า "วัดพระยืน" ถ้าไปค้นหารูปภาพหรือค้าหาชื่อวัดพระยืนจะเห็นรูปปั้นพระพุทธรูปยืนชัดเจน ทำมาจากศิลาแลง มีมณฑปจตุรมุขเป็นที่ประทับของพระพุทธรูปขนาดใหญ่มีสี่อริยาบถ ด้านหน้าวัดมีบ่อน้ำเช่นเดียวกับวัดพระนอน กำแพงเป็นศิลาแลงปักตั้งล้อม 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีวิหารที่ก่อด้วยศิลาแลงขนาดใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า วัดพระยืน นั้น เป็นวัดที่มีกำแพงศิลาแลงปักตั้งล้อมกันถึง 4 ด้าน มีทางเข้าปูด้วยศิลาแลง และมีศาลาโถงปลูกคร่อมทางเดิน โดยที่ฐานชุกชี จะมีรอยตั้งพระพุทธรูปนั่ง ส่วนบริเวณมณฑปพระอิริยาบถ นั้น จะมีกำแพงแก้วเตี้ยๆ เหลือแต่ฐาน และมีพระพุทธรูปปูนปั้นถึง 3 ด้านด้วยกัน แต่ทั้งหมดนั้นชำรุดอย่างมาก แต่ก็พอจะเห็นเป็นร่องรอย ดูรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปค่ะ ถือได้ว่าเป็นหลักฐานพระพุทธศิลปในแบบสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร ที่หาดูได้ยากมากๆ เลยค่ะ วัดสิงห์ วัดสิงห์ มีกำแพงศิลาแลง โดยรอบทั้ง 4 ด้าน สิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัดประกอบด้วย ฐานอาคารขนาดใหญ่โดยทำฐานซ้อนกันสองชั้น ชานชาลาด้านหน้าพบหลักฐานการประดับสิงห์ปูนปั้นและทวารบาลที่มีแกนในเป็นศิลาแลงซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด บนลานประทักษิณมีแท่นใบเสมาโดยรอบจำนวนแปดตำแหน่ง ทำให้ทราบได้ว่าอาคารที่สร้างบนฐานทักษิณเป็นอุโบสถ แต่เมื่อพิจารณาภายในอาคารพบแท่นอาสนสงฆ์ตรงแนวผนังด้านทิศใต้ จึงทำให้ทราบว่าอาคารหลังนี้เดิมใช้เป็นวิหารมาก่อน สำหรับใบเสมาสลักหินชนวนบางใบสลักลายพฤกษาในกรอบรูปสามเหลี่ยมและขอบสลักเป็นแถวลายกระหนกปลายแหลมที่เป็นลวดลายแบบอยุธยา ถัดจากฐานอุโบสถ เป็นเจดีย์ประธานมีกำแพงแก้วล้อมรอบ เจดีย์ประธานเหลือเฉพาะฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมและฐานบัวสี่เหลี่ยมตอนล่างทำเป็นซุ้มพระยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน หรือ 4 ทิศ องค์เจดีย์ก่อด้วยอิฐซึ่งต่างไปจากเจดีย์ประธานอื่นๆ ที่ก่อด้วยศิลาแลง ส่วนยอดเจดีย์พังทลายจนหมด ช่วงหน้าฝนแบบนี้หลายคนอาจจะเคยเที่ยวน้ำตก เที่ยวภูเขากันมาแล้ว เลยอยากจะแนะนำลองเที่ยวเมืองเก่ากันบ้างค่ะ นอกจากนี้ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรยังมีที่เที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น วัดพระบรมธาตุเจดียาราม วัดพระธาตุ วัดพระแก้ว วัดอาวาสใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมายให้เที่ยวชมภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ขับรถชมวิวบรรยากาศเมืองเก่า นอกจากได้เที่ยวแล้วยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เมืองชารังราวในอดีต ท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีในช่วงหน้าฝน บอกเลยว่าบรรยากาศดีมากๆ รับรองว่าถ้าได้มาเที่ยวแล้วจะได้ความรู้สึกดีๆ กลับไปอย่างแน่นอน อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน เวลาเปิด – ปิด 8.30 – 16.30 น. ค่าธรรมเนียม ชาวไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท ถ้านำรถยนต์ส่วนตัวเข้าเที่ยวชมภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มีค่าใช้จ่ายคันละ 50 บาท ภาพปกและภาพที่ 1-36 โดย : FIRNNY อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !