วันหยุดยาวช่วงปีใหม่ หลายท่านที่มีบ้านอยู่ต่างจังหวัด อาจจะกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่หรือญาติๆ ที่บ้าน แต่ถ้าหากท่านใดที่ยังไม่มีโปรแกรมจะไปไหน ผู้เขียนขอแนะนำที่นี่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ พอฟังชื่อแล้วอาจจะมองว่าไกลไปหน่อย แต่ถึงจะไกลแต่ก็ขอบอกเลยว่าถ้าได้มาสักครั้ง บางท่านอาจจะบอกว่ามาครั้งเดียวต้องอยากมีครั้งสอง เพราะนอกจากจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนรู้ใจ หรือกลุ่มเพื่อนๆ ในช่วงปีใหม่แล้ว ต้องขอบอกเลยว่าน้ำทะเลที่นี่ ใส จนมีสีเขียวมรกต แถมมีปะการังและฝูงปลาสวยงามอีกมากมาย ส่วนหาดทรายนั้นยังขาวสะอาดและอ่อนนุ่มจนต้องทิ้งตัวลงนอน น้ำทะเลใสๆ หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไม ผู้เขียนถึงชวนมาเที่ยวที่เกาะพีพีในช่วงปีใหม่นี้ นั่นก็เพราะว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ บรรยากาศดีที่สุด ไม่มีลมไม่มีฝนไม่มีพายุ แถมแดดก็ไม่แรงมาก น้ำทะเลจะใสและเขียวสวยเอามากๆ มีลมเย็นโชยๆ เหมาะแก่การพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้ หากท่านใดยังหาที่เที่ยวไม่ได้ ที่นี่อาจจะเป็นหนึ่งทางเลือก เพราะนับตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมเป็นต้นไป ร้านค้าและบาร์ต่างๆ เริ่มจัดปาร์ตี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ มีโปรโมชั่นลดราคา อาหาร เครื่องดื่ม กันแทบทุกร้าน แต่กิจกรรมพิเศษสุดประทับใจ คือพลุเคาท์ดาวน์ที่จุดขึ้นไปบนท้องฟ้า ถ้าเทียบกับที่อื่นแล้ว ผู้เขียนขอรับประกันว่าที่นี่ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน ท่าเรือเกาะพีพี เกาะพีพี เป็นเกาะเล็กๆ ฝั่งทะเลอันดามันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง จังหวัดกระบี่กับจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง มาจากทั้งฝั่งกระบี่และภูเก็ต 45 กิโลเมตรเท่ากัน ระยะเวลาในการนั่งเรือข้ามฟากประมาณ 2 ชั่วโมง เท่ากันทั้งสองฝั่ง ใครที่ยังไม่เคยมาผู้เขียนขอแนะนำ ให้มาทางฝั่งกระบี่จะสะดวกกว่าเพราะเมืองกระบี่เป็นเมืองเล็กๆ ไม่วุ่นวาย การเดินทางมาท่าเรือก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ไม่ว่าจะเดินทางโดยเครื่องบิน รถทัวร์ หรือจะขับรถส่วนตัวมา สามารถนำมาจอดที่ท่าเรือข้ามฟากได้เลย เรือข้ามฟากฝั่งกระบี่มีทั้งเรือเร็ว(สปีดโบ้ท) และเรือเฟอร์รี่ เรือสปีทโบ้ท 3 เที่ยวคือ 1.เวลา 09.00 น. 2. เวลา 13.00 น. 3. เวลา 16.00 น. เรือสปีทโบ้ทนี้ใช้เวลาเดินเรือ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ อัตตราค่าโดยสารต่อคนจะตกอยู่ที่ 400 บาท สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือนพรัตน์ธารา เรือเฟอร์รี่มี 4 เที่ยวคือ 1.เวลา 09.00 น. 2. เวลา 10.30 น. 3.เวลา 13.30 น. 4.เวลา15.00 น. อัตตราค่าโดยสารขึ้นอยู่กับว่าซื้อจากตรงไหน ถ้าซื้อตรงโต๊ะที่ตั้งรับราคาจะประมาณ 450-600 บาท ขึ้นอยู่กับบริษัททัวร์ ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 1 ชั่วโมง หาดหน้าเกาะพีพี สำหรับท่านที่เลือกเรือเฟอร์รี่นี้ผู้เขียนมีข้อแนะนำดังนี้ เมื่อท่านเดินทางมาถึงท่าเรือคลองจิหลาดหรือท่าเรือเกาะพีพี เมื่อเดินผ่านประตูเข้ามาแล้วจะสังเกตุว่ามีพนักงานของบริษัททัวร์ต่างๆ กวักมือเรียกอย่าได้เผลอเดินเข้าไปเป็นอันขาด ให้เดินตามลูกศรเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอประตูอีกชั้น ข้างๆ ประตูจะมีห้องกระจกสำหรับขายตั๋ว ถ้ามาหลายคนให้ส่งตัวแทนไปซื้อแค่คนเดียว คนที่เข้าไปซื้อให้เลือกคนที่แต่งตัวสบายๆ เซอร์ๆ หน่อยทำเนียนๆ ว่ามาทำงานที่เกาะ ท่านจะได้ ตั๋วเรือในราคา 200 บาทต่อคน ไม่งั้นจะโดนราคามาตรฐานนักท่องเที่ยว ที่ 450 บาทต่อคน ซึ่งถ้ารวมๆ กันแล้วส่วนต่างก็แพงเอาเรื่อง มาถึงแล้วก็เช็คอินเข้าที่พักกันก่อน แล้วค่อยหากิจกรรมสนุกๆ ทำ ในส่วนของที่พักแนะนำอย่าเลือกจองบนเขา หรือที่ที่ไกลจากชุมชนมากนัก เพราะที่นี่ไม่มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือแม้แต่จักรยาน จะมีแค่รถเข็นที่ไว้สำหรับเข็นของเข็นกระเป๋าเท่านั้น หาดหลังเกาะพีพี เมื่อเช็คอินเข้าที่พักกันเรียบร้อยแล้ว ก็หากิจกรรมสนุกๆ ทำกันเลย กิจกรรมที่โดดเด่นของที่นี่คือ การนั่งเรือหางยาวออกไปเที่ยวรอบๆ เกาะอัตตราค่าเช่าเรือหางยาวนั้นขึ้นอยู่กับเวลาที่ไป จะครึ่งวันหรือเต็มวัน ครึ่งวันจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-2,500 บาท แล้วแต่ตกลง เต็มวันก็อยู่ประมาณ 3,500-5,000 บาท ท่านสามารถเลือกเส้นทางได้ 2 เส้นทาง คือ 1 ไปเที่ยวมาหยาซึ่งจะเรียกว่าเป็นหัวใจของที่นี่เลยก็ว่าได้เส้นทางที่ 2 คือ เกาะยุง และเกาะไผ่ ฝั่งนี้ก็สวยไม่แพ้กัน หรือท่านจะตกลงกับคนขับเรือว่าขอให้พาไปทั้งสองฝั่ง ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ เสบียงข้าวขนม น้ำ น้ำหวานต่างๆแนะนำให้ตุนให้เยอะๆ เพราะเวลาเล่นน้ำดำน้ำเหนื่อยๆ รับรองว่าจะต้องหิวอย่างแน่นอน อ่อ! อย่าลืมซื้อขนมปังปอนไปสัก 2-3 แถว เพราะเราจะใช้ขนมปังนี้ล่อปลาให้มาใกล้เรามากที่สุด แถมถ้าเกิดหิวขึ้นมาขนมปังนี่แหละจะประทังความหิวได้ ดำน้ำดูปลา สำหรับท่านที่เดินทางมาคนเดียวไม่มีเพื่อนหารค่าเช่าเรือก็ไม่ต้องตกใจ เพราะที่นี่จะมีบริษัทจัดทัวร์รอบเกาะสำหรับนักท่องเที่ยวเป็นแบบเหมาทัวร์ มีครึ่งวันกับเต็มวันเหมือนกัน สำหรับเรือทัวร์นี้ราคาจะตกอยู่ประมาณ 650 บาทต่อคน มีข้าวและน้ำแจกให้คนละ 1 ชุด เรือทัวร์จะจอดตามโปรแกรมของบริษัททัวร์เป็นจุดๆ แล้วกำหนดเวลาในการลงเล่นน้ำของแต่ละจุดอย่างชัดเจน ไฟโชว์ เมื่อเที่ยวภาคกลางวันเสร็จอาบน้ำอาบท่าหาข้าวกินเรียบร้อย เวลา20.30 น.เป็นต้นไป แนะนำให้ออกมาบริเวณหน้าหาด ตรงนี้จะมีกิจกรรมโชว์ไฟ กิจกรรมนี้รับรองเลยว่าแต่ละบาร์ได้จัดไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างอลังการ ปูเฉฉวน การมาเที่ยวที่นี่ขอแนะนำว่า อย่าอยู่เกิน 4 คืน เพราะที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ แคบๆ ถ้าเทียบกับเกาะสมุย เกาะลันตาแล้ว ที่นี่จะดูเล็กจิ๋วไปเลย เพราะฉนั้นแล้ว การใช้เวลาอยู่ที่นี่ ไม่เกิน 4 คืนถือว่าเต็มที่แล้ว หรือท่านไหนที่อยากจะอยู่นานกว่านี้ก็ไม่ว่ากัน ::::ภาพประกอบโดยผู้เขียน::