3 เหตุผล ทำไมคนไทยโดน ตม. และตำรวจญี่ปุ่นเรียกตรวจบ่อยขึ้น? ข้อควรระวังที่สายเที่ยวต้องรู้!
ช่วงนี้ข่าวที่นักท่องเที่ยวไทยถูกตำรวจเรียกตรวจพาสปอร์ตระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น เริ่มมีให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในความกังวลหลักของสายเที่ยวญี่ปุ่นหลายๆ คน การที่เจ้าหน้าที่เข้มงวดกับชาวไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลต่อเนื่องมาจากปัญหาที่ฝังลึก และมาตรการที่เข้มงวดขึ้นของรัฐบาลญี่ปุ่น เราจะพาไปดูสาเหตุที่ทำให้คนไทยตกเป็นเป้าหมายในการตรวจ รวมถึงข้อกฎหมายที่ควรรู้ เพื่อให้ทริปญี่ปุ่นราบรื่น ไม่สะดุด และไม่ถูกเรียกขอตรวจเอกสารโดยไม่จำเป็นครับ
ทำไมคนไทยโดน ตม. และตำรวจญี่ปุ่นเรียกตรวจบ่อย?
1. ปัญหาอยู่เกินกำหนด (Overstay) ที่พุ่งสูง
หนึ่งในปัญหาที่เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทยถูกจับตามองเป็นพิเศษ จากข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศไทยชี้ชัดว่า จำนวนคนไทยที่อยู่เกินกำหนด (Overstay) ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก และต่อเนื่อง จาก 8,688 คนในปี 2564 พุ่งสูงไปถึง 11,472 คนในปี 2566
นับตั้งแต่ญี่ปุ่นกลับมาให้นโยบายยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption) 15 วันแก่คนไทยอีกครั้งหลังโควิด-19 รัฐบาลญี่ปุ่นก็กังวลว่ามีคนไทยบางกลุ่มที่ ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าประเทศมาทำงานอย่างผิดกฎหมาย หรือใช้สิทธิเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด การเพิ่มขึ้นของตัวเลข Overstay จึงทำให้ญี่ปุ่นต้องใช้มาตรการเข้มงวดในการคัดกรองตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
2. ความกังวลเรื่องแรงงานผิดกฎหมาย
ตำรวจญี่ปุ่นไม่ได้กังวลแค่เรื่องการอยู่เกินกำหนด แต่กังวลถึงความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนที่เข้ามาทำงานโดยไม่ถูกกฎหมายด้วย หากนักท่องเที่ยวที่ถูกตรวจเป็นกลุ่มคนที่อาจมีความเชื่อมโยงกับแรงงานผิดกฎหมาย (เช่น เพื่อนหรือญาติ) อาจเป็นการแจ้งเตือนให้ผู้ที่ทำงานอย่างผิดกฎหมายหลบหนีหรือหลีกเลี่ยงการจับกุม ยิ่งเมื่อไม่นานมานี้มีกรณีที่มีชาวไทยพาลูกสาวอายุเพียง 12 ปี ไปทำงานค้าประเวณีด้วย ยิ่งทำให้ทางตำรวจเพ่งเล็งมากขึ้น
3. อำนาจการสุ่มตรวจ ตามกฎหมายญี่ปุ่น
ที่ญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจทางกฎหมายในการหยุด และตรวจสอบชาวต่างชาติได้ทุกเมื่อ ยิ่งปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่เองก็ยิ่งตรวจเข้มขึ้นกว่าเดิมเหมือนกัน โดยจะพิจารณาการขอตรวจพาสปอร์ตของเราหากมีข้อสงสัยดังต่อไปนี้
- พฤติกรรมผิดปกติ (Suspicious Behavior) : หากพบว่าเรามีพฤติกรรมที่ดูแปลกในสายตาเจ้าหน้าที่ เช่น วิ่งเร็วเกินไป เดินวกวน หรือแสดงอาการหวาดระแวงอย่างชัดเจน อาจเป็นเหตุให้ตำรวจเรียกตรวจสอบได้
- ไม่ใช่คนในท้องที่ : ในพื้นที่ที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ หากคุณเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย ตำรวจอาจเรียกตรวจสอบเพื่อสอบถามว่าเรามาทำอะไรในพื้นที่นั้นๆ
- การพักในที่พักทางเลือก (Airbnb/ที่อยู่อาศัยทั่วไป) : มีรายงานว่าในบางพื้นที่ หากเราเข้าพักในที่พักแบบ Airbnb หรือบ้านพักที่ไม่ใช่โรงแรมขนาดใหญ่ อาจมีเพื่อนบ้านหรือผู้คนในท้องถิ่นแจ้งเจ้าหน้าที่ ซึ่งนำไปสู่การตรวจสอบความปลอดภัย และความถูกต้องของที่พัก
ข้อกำหนด กฎหมายที่ห้ามลืมเมื่อไปญี่ปุ่น
กฎหมายญี่ปุ่นกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคน ต้องพกพาพาสปอร์ตติดตัวตลอดเวลา การไม่นำพาสปอร์ต ถือเป็นการละเมิดกฎหมายของญี่ปุ่น ดังนั้นตำรวจจึงมีสิทธิโดยชอบธรรมในการหยุดเราเพื่อขอตรวจสอบ
มีข้อกังวลและมีการศึกษาที่พบว่า ตำรวจญี่ปุ่นอาจมีการตรวจสอบนักท่องเที่ยวต่างชาติบนพื้นฐานของลักษณะทางกายภาพ (Racial Profiling) ซึ่งอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม ในปี 2565 มีการเปิดเผยกรณีที่ข้าราชการตำรวจถูกสั่งให้ "ตั้งเป้าหมายคนต่างชาติเพื่อตรวจสอบ" อย่างเป็นระบบ แม้ว่าตำรวจญี่ปุ่นจะยอมรับกรณีที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายไปแล้วหลายกรณี แต่นักท่องเที่ยวก็ควรรู้ว่าปัญหานี้อาจเกิดขึ้นได้กับเราเช่นกัน
สรุปว่า ถ้าไม่อยากมีปัญหา อย่าลืมพกพาสปอร์ตติดตัวเสมอ ห้ามทิ้งไว้ที่โรงแรมเด็ดขาด รวมถึงเอกสารสำคัญอย่างอื่น เช่น ตั๋วเครื่องบิน กุญแจห้องที่พัก ถ้ามีอยู่ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานเสริมให้เราได้ อย่าลืมว่าถ้าถูกเรียกตรวจ และไม่มีพาสปอร์ต เราอาจถูกควบคุมตัวได้ทันที
หากถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจจริงๆ ให้หยุด และให้ความร่วมมืออย่างสุภาพทันที ให้คิดเสมอว่าเจ้าหน้าที่เข้าก็ทำตามหน้าที่เฉยๆ ไม่ทำพฤติกรรมน่าสงสัย ไม่แสดงอาการลุกลี้ลุกลน หรือวิ่งหนีในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุผลครับ
====================