ชื่อของถ้ำพระยานคร มีที่มาจากการที่ “เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช” ได้เดินทางผ่านบริเวณนี้ และได้เข้ามาหลบพายุในถ้ำ จึงถูกเรียกขานว่า “ถ้ำพระยานคร” ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” ขึ้นภายในถ้ำ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการเสด็จพระราชดำเนิน ทำให้ถ้ำแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงความงดงามทางธรรมชาติ แต่ยังเป็น ร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า เพราะมีรอยจารึกพระหัตถ์ในถ้ำที่ของพระมหากษัตริย์ของไทยเสด็จประพาสถึง 3 พระองค์ แต่การเดินทางสู่ถ้าพระยานครนั้นไม่ง่าย ต้องใช้ความพยายามนิดนึงค่ะ มีการเดินทาง 2 รูปแบบ ทางเดินเท้า หากคุณเป็นสายลุย สามารถเลือกเดินเท้าใช้เวลาเดินราว 50-60 นาที เส้นทางค่อนข้างชัน เหงื่อซึมแน่นอน แต่ระหว่างทางก็จะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างเต็มที่ ใครเตรียมตัวมาไม่พร้อมพูดตรงๆ ไม่ควรเดินค่ะ ควรใส่รองเท้าที่เดินป่าได้สะดวก พกน้ำดื่มติดตัว ไม่พกข้าวของอะไรไปเยอะ เพราะจะเหนื่อยมากจริงๆ พูดเลย ทางเรือ สามารถนั่งเรือจาก ท่าเรือบ้านบางปู ใช้เวลาเพียง 10–15 นาทีไปยัง หาดแหลมศาลา จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 430 เมตร จึงจะถึงถ้ำ ข้อดีคือประหยัดเวลา เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากเดินไกล แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับค่าเรือ แต่อย่างไรก็ตามความเหนื่อยก็ยังคงเดิม เพราะขึ้นเขาระยะ 430 เมตรนั้น เป็นเขาที่มีความชันมาก สำหรับการถ่ายรูป แสงธรรมชาติส่องลงบนศาลาในตอนเช้า ถือเป็นช่วงเวลาที่ถ่ายรูปสวยที่สุด ภายในถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ มีพืชพรรณขึ้นแซมตามซอกหิน เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นปากถ้ำเปิดกว้างรับแสงสว่างลงมา เหมือนสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขา “ถ้ำพระยานคร” ไม่ใช่แค่ถ้ำธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่สะท้อนทั้ง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ใครมาเที่ยวหัวหินหรือปราณบุรี อย่าพลาดแวะมาเยือนสักครั้งในชีวิต หลายคนที่เคยมาเยือนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้ำพระยานครเป็น “ความมหัศจรรย์ที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง” เพราะภาพของศาลาไม้ที่ตั้งอยู่กลางถ้ำพร้อมแสงส่องลงมา เป็นความภาคภูมิใจหลังความเหนื่อยจากการเดินทางที่คุ้มค่า ------- ภาพถ่ายประกอบบทความทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียนบทความ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !