ถ้าพูดถึงจังหวัดภูเก็ต หลายคนคงนึกถึงหาดทราย และทะเลสีเขียวมรกต อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งกิจกรรมดำน้ำและที่พักวิวทะเลตามชายหาด ตามคำนิยามที่ได้รับคำกล่าวขานมาเนิ่นนานว่า “ไข่มุกอันดามัน” ผู้คนหลั่งไหลมาที่เกาะแห่งนี้ ทั้งมาเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และอีกส่วนหนึ่งเข้ามาเพื่อทำงาน เป็นฟันเฟื่องเล็กๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบนเกาะแห่งนี้ บริเวณสนามบินภูเก็ต เปรียบเสมือนประตูเมืองเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ที่มีชายหาดไม้ขาวอันโด่งดัง ในการถ่ายภาพกับเครื่องบินที่กำลังขึ้น-ลง นอกจากนี้ยังมีหาดในยางที่ร่มรื่น สำหรับพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ นอกจากกิจกรรมการท่องเที่ยวแล้ว บริเวณหาดในยาง ยังคงมีกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ยังคงดำรงวิถีดั้งเดิมของบรรพบุรุษ นั่นคือ การออกเรือหาปลา โดยจะออกเรือช่วงกลางคืน ในช่วงที่คลื่นลมสงบซึ่งก็ตรงกับช่วงไฮซีซั่นพอดิบพอดี (ประมาณเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม) ปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้ ก็มีตั้งแต่ ปลาทู ปลาข้างเหลือง ปลาหางแข็ง ปลาสีเสียด ปลามง ปลาเก๋า ปลากะพงแดง ปลากระเบน ปลาโอ ปลาทูน่า ปลากระโทงแทง และอีกสารพัดชนิด รวมไปจนถึงกุ้งมังกรในบางวัน ซึ่งปลาที่ขึ้นมานั้น เจ้าของเรือจะนำมาเทลงบนกระบะไม้ที่ทำเป็นซุ้มร้าน ชาวบ้านและลูกค้าที่มาก็จะยืนมุงรอ เมื่อปลาถูกเทลงในกระบะ ลูกค้าจะแย่งกันจับใส่ถุงกันอย่างสนุกสนาน ปลาเหล่านั้นมีเจ้าของ และหมดไปในพริบตาเดียว เห็นบรรยากาศความชุลมุนวุ่นวายตอนที่ชาวบ้านแย่งปลาสดๆกัน ทำให้นึกถึงตลาดปลาซึกิจิ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น และว่ากันว่าเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ต่างกันเพียงขนาด และที่นี่ไม่ต้องประมูล ใครหยิบได้ก่อน ได้เป็นเจ้าของปลา ใครมาช้าหรือเข้าไม่ถึง คนที่ได้เยอะก็จะมีการแบ่งปันให้กันทั้งปลา ทั้งรอยยิ้ม เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นญาติพี่น้องที่คุ้นเคย คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ใครมาเที่ยวภูเก็ตแล้ว อยากเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านกลางเมืองท่องเที่ยว สามารถไปซึมซับ เยี่ยมชมและซื้อปลาสดๆ ที่เพิ่งขึ้นจากเรือได้ที่บริเวณหาดในยาง เยื้องๆ กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติสิรินาถได้ เรือของชาวบ้านจะทยอยเข้าฝั่งมาในช่วงเช้า โดยบริเวณที่ปลาขึ้นจะมีร้านชา กาแฟ โบราณ บริการตั้งแต่เช้า สามารถจิบชา กาแฟ ชมทะเลในช่วงเช้า พร้อมซึมซับบรรยากาศ และวิถีชีวิตของชาวบ้านและชาวประมงพื้นบ้านที่ยังคงรักษาเอาไว้บนฐานทรัพยากรในทะเลหน้าบ้านของพวกเขาเอง Photos: © Chenwit Sukka