อันนี้ต้องบอกว่า "ไม่ได้โม้นะครับ" อะไรคือ อันซีน เพราะมันคือ ป่าดึกดำบรรพ์ ยังกะเราอยู่ฉากในป่าของหนังเรื่อง Jurassic Park น่ะสิ เคยดูกันหรือเปล่า ที่มีไดโนเสาร์มาแล้ววิ่งหนีกันป่าราบไง แต่งานนี้ไม่ต้องวิ่ง เพราะไม่มีไดโนเสาร์ หุบป่าตาด อยู่ในจังหวัดอุทัยธานี ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯศูนย์กลางของทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย อะไรเราก็ต้องเริ่มต้นจากกรุงเทพฯทุกที ไม่รู้คนจังหวัดอื่นจะน้อยใจหรือเปล่า555 พูดถึงจังหวัด อุทัยธานี เราก็จะนึกถึง ห้วยขาแห้ง หรือประเพณีตักบาตรเทโว หรือ วัดท่าซุงที่สวยงามอลังการ หุบป่าตาด ไม่ค่อย"ป๊อปปูล่าร์"เท่า ทั้งที่มีความน่าสนใจในแง่ธรรมชาติ ธรณีวิทยา หรือ การเดินทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ตามสไตล์ของ Boo Planet ที่จะเป็นตัวแทนของนักเที่ยวแนวตะลุยเดี่ยว หรือแนว อีโคโนมี่คลาส เดินทางชั้นประหยัดทั่วไทย เอาเป็นตัดตอนว่า เรามาเจอกันที่ขนส่งของตัวเมืองอุทัยธานีแล้วกันครับ ก็จะมีรถไปยังอำเภอต่างๆ เราต้องหารถไปเอาเภอลานสัก เป็นบัสส้มสุดคลาสสิค ไม่มีแอร์ไม่กลัว ภวนาให้มันไม่เสียก็พอแล้ว จะลงตรงไหน บอกคนขับและกระเป๋าที่เก็บตังค์ ที่จะ"เป็นทุกอย่างให้คุณแล้ว" เพราะรถออกแนวหวานเย็น นังชมวิวชิล ๆ เพลิน ๆ สักเกือบชั่วโมงเห็นจะได้ พอลงรถแล้วจะเป็นแยกปากทางต้องหารถเข้าไปอีก เริ่มไม่ง่ายแล้วสิ มีวินมอไซด์ เข้าไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร ก็ถึงอุทยาน ระหว่างทางเข้ามาไม่กี่กิโลก็เห็นวิวเป็นเขาเป็นป่าสวยทีเดียวครับ อย่าลืมเอาเบอร์พี่วินล่ะ ขากลับจะได้เรียกให้มารับ หุบป่าตาด เป็นพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้าประทุน ตำบลทุ่งน่างาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ง่ายๆก็คือเป็นเขตอุทยานแห่งชาตินั่นแหละ ต้องเสียค่าเข้า ยี่ซิบบาทเหมือนเดิม (ทำเสียงในฟิล์มเหน่อ ๆ หน่อย555) ด้านหน้าเป็นลานจอดรถกว้างใหญ่ทีเดียวเสียดายเราจอดไว้ที่บ้าน555 โอเค เริ่มลุยกันเลย ทางเดินขึ้นสบายมาก เราต้องเดินขึ้นไปทางเข้าเป็นถ้ำที่เป็นการระเบิดภูเขาเพื่อเป็นทางเข้าไปในป่าด้านใน ช่วงที่เป็นถ้าก็ "ก็จะมึด ๆ หน่อย" แต่เป็นแค่ช่วงสั้นๆสัก 30-40 เมตร พกไฟฉายไปด้วยก็ดี หรือไฟฉายมือถือถ้าไปกันหลายคนก็พอไหวอยู่่นะ บทความของ Boo Planet ขออธิบายง่าย ๆ ไม่วิชาการนะครับ หุบป่าตาด คือป่าที่ถูกล้อมด้วยเขาหินปูนทุกด้าน พอจะมีช่องให้แสงให้ฝนหรือสัตว์บางอย่างเข้าได้บ้าง ทำให้สภาพภายในยังมีลักษณะนิเวศแบบเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนแทบไม่เปลี่ยน พืชพันธ์ ต้นไม้ ดอกไม้ สภาพอากาศ เรียกว่าป่าดึกดำบรรพ์อย่างที่เกริ่นไว้ คำว่า อันซีน ผมก็ไม่ได้พูดเอง เป็นแคมเปญของ ททท. เมื่อสักสิบกว่าปีก่อน หุบป่าตาด ก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวแบบอันซีนด้วย หุบป่าตาดถูกค้นพบโดย พระครูสันติธรรมโกศล หรือ หลวงพ่อทองหยด เจ้าอาวาสวัดถ้ำทอง เมื่อปี 2522 ท่านได้ปีนเขาแล้วเข้าไปเห็นความแปลกและสวยงามของสถานที่นี้ ที่ด้านในเต็มไปด้วยต้นดาด และพันธ์ไม้มากมาย ต่อมาจึงได้มีการเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์หรือถ้ำเข้าไปด้านใน พอเดินพ้นถ้ำเข้าไปด้านใน เหมือนยังกับหลุดเข้าไปในอีกโลกนึงเลยทีเดียว อากาศเย็นสบาย มองกลับไปที่ภูเขาด้านบนของอุโมงค์ที่เข้ามา เป็นผนังภูเขาหินปูน แต่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชะอุ่ม ภาพตรงหน้า ว้าว กันทุกคน ตาด หรือ ต๋าว เป็นพืชกระกูลปาล์ม ไม่สามารถปลูกได้ มันจะขึ้นเองตามธรรมชาติเท่านั้น ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีถึงจะออกผลได้ จะออกเป็นทลายแบบในภาพ ลูกตาดหรือต๋าว ก็คือ ลูกชิด ที่เราเอามากินกับไอติมกะทิกันไงล่ะ แหล่งใหญ่ของต้นตาด อยู่ที่จังหวัดน่าน คือต้องเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นและระบบนิเวศเหมาะสม จะว่าไป ต้นดาด เอามาทำประโยชน์ได้เยอะมาก ใบ แข็งๆ เอามามุงหลังคาหรือทำฝาบ้าน เอามาทำไม้กวาด ยอดอ่อนเอามากินได้ ผลก็เอามาทำลูกชิดอย่างที่บอก สาระพัดประโยชน์จริงๆ ยังมีอีกนะแต่จำที่เขาบอกไม่ได้แล้ว ซีนนี้ขออภัยอาจจะถ่ายไม่สวยนัก ลืมบอกว่าเวลาที่เหมาะสมน่าจะสัก 11.00-13.00 แสงแดดส่องลงมากำลังสวย น่าจะเป็นภาพที่ได้เห็นบ่อยๆ เป็นไฮไลท์ หรือ THE MUST ของการมาที่นี่เลย เคยเป็นแสตมป์ที่ระลึก หรือ ภาพในแผ่นพับแนะนำการท่องเทียวของจังหวัดอุทัยธานี ลักษณ์เป็นเหมือนถ้ำที่มีหินงอกหินย้อน แล้วมองออกไปยังเห็นป่าดึกดำบรรพ์เขียวชะอุ่ม จริงๆ การเดินชมหุบป่าตามด้านใน เป็นทางเดินสะดวกมาก ไม่ต้องปีนป่ายอะไรมาก พื้นที่ไม่ใหญ่ มีป้ายบรรยายติดไว้ให้อ่านด้วย สัตว์หลากหลายที่อาจจะเห็นได้ที่นี่ อย่างเลียงผา ก็มีคนเห็นบ่อย ไก่ฟ้า ก็ได้ยินเสียงร้อง แต่ไม่เห็นตัว555 มีอีกไฮไลท์ ที่ต้องมาดูกันช่วงหน้าฝน คือ มังกรสีชมพู มันคือกิ้งกือพันธ์ใหม่ในโลกนี้มีแค่ที่นี่เท่านั้น เป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่และน่าภูมิใจมาก เสียดายผมไปช่วงนี้ไม่เห็นเลยไม่ได้มีรูปมาให้ดูครับ ก็ถือว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ไกลนักไม่ต้องขึ้นเขาลงห้วยไปไกลนัก แต่มีสภาพป่าเขียวชะอุ่ม และความ UNSEEN ของหุบป่าตาด ถ้าวางแผนเที่ยวดีๆ ก็รวมอยู่ในทริปกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในจังหวัดอุทัยธานีได้เลย เพราะใช้เวลาชมไม่นานนัก 1-2 ชั่วโมงก็เดินเต็มที่ครบทุกจุดแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจและเข้ามาอ่านบทความนี้นะครับ บทความและภาพ โดย Boo Planet