ประเทศลาว ประเทศที่มีเสน่ห์ทั้งภาษา ผู้คน สถานที่ท่องเที่ยว และวัฒนธรรม เวียงจันทน์และวังเวียง ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัส ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่มีนักท่องเที่ยวคึกคักเดินทางท่องเที่ยว ฉันเองก็ไม่พลาดที่จะไปปักหมุด ณ ประเทศลาวให้ได้ กระนั้นการเดินทางของฉันคงหนีไม่พ้น การท่องเที่ยวแบบตะตอนยอน รถไฟไทยนั่นเอง^^ ก่อนออกเดินทางฉันหาข้อมูลเล็กน้อยเพื่อไม่ให้หลงทาง และส่งข้อความไปหาเพื่อนที่ลาว ว่าจะไปเที่ยวเวียงจันทน์ เพื่อนตอบรับ และยินดีจะพาฉันเที่ยวตลอดทั้งทริป :) วันที่ 1 พ.ย. 2561 ฉันไม่ได้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า จากการเช็คโทรถาม เจ้าหน้าที่รถไฟบอกมาว่า “ตั๋วรถไฟยังไม่เต็ม” พอเลิกงานปุ๊บ ฉันไปเอากระเป๋าเป้ที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวาน มุ่งหน้าไปสถานีรถไฟหัวลำโพง และเดินไปต่อแถวซื้อตั๋วรถไฟ ในราคา 213 บาท ชั้นประหยัดเบาะนั่ง 90 องศา ขบวนที่ 133 ชั้นประหยัด (หรือชั้น 3) เดินทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง — หนองคาย เวลาออก 20:45 น. ถึง 08:35 น. รายละเอียดบนตั๋วรถไฟ จะระบุรายละเอียดที่นั่ง สถานีต้นทาง-ปลายทาง และเวลาไว้เรียบร้อย ซึ่งเราต้องไปถึงก่อนเวลา และนั่งตามเลขที่นั่งที่ระบุ สำหรับใครที่ไม่เคยขึ้นรถไฟมาก่อน หรือนั่งไม่เป็นก็สามารถถามพี่ๆที่สถานีรถไฟได้ค่ะ ขบวนรถไฟ 133 ที่จะมุ่งหน้าไปสถานีปลายทางหนองคาย เริ่มมีผู้คนมาจับจองที่นั่งแล้วจนเต็ม ฉันแอบคิดเหมือนกันว่า ไม่ใช่ช่วงเทศกาลแต่ทำไมคนนั่งรถไฟเยอะเหมือนกัน ฉันและเพื่อนได้นั่งในแถวเดียวกันริมหน้าต่างรถไฟ กำหนดเวลาออก คือ 20.45 น. แต่ตอนนี้รถไฟยังอยู่ที่เดิม555 ก็เป็นสีสันการเดินทางของรถไฟค่ะ ทว่าอีก 10 กว่านาที รถไฟก็เริ่มเคลื่อนขบวนอย่างช้าๆ ออกจากชานชาลา ท้องฟ้ามืดค่ำจนมองเห็นดวงจันทร์ อีก 12 กว่าชั่วโมงบนรถไฟขบวนนี้จะพาฉันและเพื่อนไปถึงสถานีรถไฟหนองคาย และไว้เจอกันเช้าวันถัดไปค่ะ วันที่ 2 พ.ย. 2561 แสงเช้ารำไรเริ่มส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ฉันมองออกไปเห็นทุ่งหญ้า แปลงนา วัว ควาย เต็มไปหมด พวกเรามาถึงถิ่นอีสานแล้ว^^ ฉันเปิด Google Map ดูว่าอยู่ส่วนไหนของอีสาน เห็นเส้นทาง GPS บอกว่าเรากำลังอยู่ในจังหวัดอุดรธานี และมุ่งหน้าไปหนองคาย รถไปพักจอดเป็นระยะๆ มีพ่อค้า-แม่ค้ามาขายของบนรถไฟ หมูปิ้ง ไข่ปิ้ง ข้าวเหนียว และน้ำดื่ม สถานีรถไฟหนองคาย พวกเรามาถึงแล้ว เลท 1ชั่วโมง จากกำหนดเวลาเดิมจะถึง 08:35 น. กลับถึง 09:30 น. ….พอถึงปุ๊บ พวกเราแวะเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว และนัดเจอกันด้านหน้าสถานี เพื่อที่จะนั่งรถโดยสารไปลงที่ ด่านพรมแดนหนองคาย พวกเรานั่ง รถสกายแลป ซึ่งเป็นรถโดยสารที่นี่ ไปลงด่านพรมแดนหนองคาย ลุงคนขับคิดคนละ 30 บาท **บางเพจแนะนำให้เดินไปที่ด่านพรมแดนหนองคายก็ได้ แต่ฉันแนะนำว่านั่งสกายแลปดีกว่า เพราะถนนหนทางรถเยอะ แดดร้อนมากกกก เก็บแรงไว้เที่ยวดีกว่า… ปล. ตอนนั่งรถไฟจากหัวลำโพงมาหนองคาย ฉันตั้งใจไม่พกเงินติดตัวมามาก เพราะเกรงถึงความปลอดภัย เลยตั้งใจมากดตังที่ ด่านพรมแดนดีกว่า ตู้กดตังเยอะแยะเลยค่ะ พอมาถึงด่านพรมแดนแล้ว พวกเราทำเรื่องผ่านด่านเพื่อที่จะข้ามไปประเทศลาว ซึงก็ไม่ได้ซับซ้อนมาก หากไม่เข้าใจก็ถามเจ้าหน้าที่ได้ค่ะ…ที่ด่านจะมีป้ายลูกศร และข้อมูลแนะนำอยู่แล้วว่าขั้นตอนแรก หนึ่ง สอง สามต้องทำอย่างไร สิ่งสำคัญ คืออย่าลืมพก Passport มานะคะ จากนั้น พอผ่านมาอีกฝั่ง จะมีเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถบัสเพื่อข้ามฝั่งไปลาว ซึ่งฉันก็ซื้อ จำราคาไม่ได้ แต่ไม่แพงนะ ตั๋วที่ฉันซื้อยังใช้เงินบาทอยู่ค่ะ …ฉันไปแลกเงินกีบ ตอนไปถึงด่านที่ลาว พอมาถึงด่านลาว ฉันและเพื่อนทำเรื่องผ่านด่านเสร็จแล้ว พอออกมาด่านจะเจอร้านค้าขายซิมเน็ต และแลกเหรียญหลายร้านให้เลือกค่ะ ฉันไปซื้อซิมเน็ต และแลกเงินกีบไว้ใช้เช่นกัน พอพวกเราซื้อซิมเน็ตและแลกเงินกีบแล้ว ก็มุ่งตรงไปขึ้นรถบัส เพื่อที่จะเข้าไปในตัวเมืองลาว ตั๋วราคา 8,000 กีบ รถบัสจะมีสีเขียว เขียนว่าไปตลาดเซ้า หาไม่ยาก พอออกด่านมาปุ๊บ จะอยู่ตรงมุมขวา ใกล้สถานที่แลกเงินเลย จะเห็นรถบัสจอดอยู่ อ้อ ก่อนขึ้นก็ถามพนักงานอีกที ว่ารถคันนี้ไปตลาดเซ้าไหม เพื่อความชัวร์ค่ะ หรือจะนั่งแท็กซี่ก็ได้และแต่สะดวกนะคะ พอมาถึงก็ปาเข้าไปเที่ยงพอดี ฉันเริ่มหิว เลยเดินหาร้านอาหารทานแถวตลาดเช้า **ห้างอยู่ใกล้ๆตลาดเช้าเลย สามารถหาอาหารแถวนั้นได้ และมีสถานีขายตั๋ว ไปที่ต่างๆของประเทศลาว เผื่อสนใจลองถามเจ้าหน้าที่นะคะ …จากนั้นพอทานข้าวเสร็จ ฉันหาที่พักที่ถูกและประหยัด เลยมาจบที่ Hostel พอเปิด Google Map พบว่า Hostel นี้สามารถเดินไปได้ไม่ไกลจากตลาดเช้ามาก ฉันพักที่นี่ Green Box Hostel ราคาประมาณ 400 บาท รวมอาหารเช้าและWifi พนักงานใจดีมีแนะนำที่เที่ยว และให้ข้อมูลต่างๆของประเทศลาวด้วยค่ะ ที่พักที่นี้ใกล้ร้านขายของด้วยทำให้สะดวกที่จะซื้อของ คล้ายๆ เซเว่นบ้านเราเลย ฉันโชคดีที่มีเพื่อนที่ลาว ทำให้การเดินทางที่นี่ไม่ลำบากเลย มีเพื่อนพาเที่ยวทุกที่ในเวียงจันทน์ ไม่ว่าจะเป็นพระธาตุหลวง ประตูชัยหรือเรียกแบบภาษาลาวว่า ประตูไซ วัดสีสะเกด และจบด้วยตลาดนัดกลางคืน ริมแม่น้ำโขง ที่ที่เต็มไปด้วยของกินและสินค้ามากมายให้ได้ซื้อ การมาลาวครั้งนี้ เพื่อนๆที่นี่ดูแลดีมาก พาฉันเที่ยวอย่างดีเลย ขอบใจเด้อเพื่อน^^ วันที่ 3 พ.ย. 2561 ช่วง 7 โมงเช้า ถนนโล่งมาก อากาศกำลังหนาวพอดี พวกเราวางแผนไปเที่ยววังเวียงกัน โดยซื้อตั๋วเดินทางผ่านทาง Hostel ซึ่งฉันและเพื่อนๆ ต้องไปรวมกับลูกค้า Hostel ที่จองผ่านบริษัทนี้เช่นกัน พวกเราเดินทางด้วยรถบัสค่ะ วังเวียง ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเยอะมากก มีแม่น้ำซองไหลผ่าน อากาศที่นั่นทำให้ฉันมีชีวิตชีวาในการใช้ชีวิตมากขึ้น ว่าแล้วก็ทำให้คิดถึงเชียงใหม่ไม่น้อย…จะหยิบจับซื้อของ หรือกับข้าว ราคาก็ไม่ต่างจากที่ไทยมากนัก สื่อสารก็เข้าใจ วันแรกที่ไปถึงพวกเราไม่ได้จองที่พักไว้ล่วงหน้าทำให้ต้องเดินหาอยู่ค่ะ แต่ที่นี่มี Hostel และโรงแรมดีๆให้ได้จับจอง ยิ่งมาในช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลเลยมีห้องพักเยอะเลยค่ะ ฉันเดินเที่ยวรอบวังเวียงกับเพื่อนๆ สนุกมาก^^ ตกเย็น พวกเราไปนั่งชมแม่น้ำซองกับผู้คนที่นั่งริมแม่น้ำ บรรยากาศตอนค่ำนี้ดีจริงๆ มีการเปิดเพลง เพื่อเพิ่มสีสันมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็เพลงไทยทั้งนั้น555…ก่อนที่พวกเราจะไปปิดท้ายช้ปปิ้งที่ตลาดนัดตอนกลางคืนกัน ได้เสื้อสกรีนลายประเทศลาวสวยๆ ไว้ใส่… วันที่ 4 พ.ย. 2561 ฉันกลับไทยด้วยรถบัสจากวังเวียงไปลงสถานีรถบัสอุดรธานี ซึ่งจองผ่าน Hostel เช่นกัน เราสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นรถบัสไปลงที่ไหนไม่ว่าจะเป็นอุดรหรือหนองคาย การเดินทางด้วยรถบัสจากวังเวียงมาอุดรใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสถานีรถบัสแล้ว และพอไปถึงสถานีรถบัสอุดรธานี ฉันหาข้อมูลว่าสถานีรถไฟอุดรอยู่ไกลไหม ก็ไม่ไกลจากที่นี่มากนักเลยเดินไปสถานีรถไฟ ตอนกลับพวกเราขอกลับแบบสบายๆบ้าง เลยจัดการซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพด้วยรถไฟวีไอพี ซึ่งเป็นการให้รางวัลตัวเองที่นั่งรถไฟเบาะ 90 องศา555 คราวนี้ขากลับก็ได้นอนสมใจละ^^ สำหรับฉันแล้ว…ทริปนี้เป็นทริปที่เปิดโลกมาก ทั้งสนุก ได้พักกายและใจจากการทำงาน เดินเล่นเรื่อยเปื่อย เป็นทริปที่ประหยัดสุดๆ ฉันหมดเงินไป 2,500 กว่าบาทเอง เป็น 4 วันที่บรรจุความทรงจำไว้เต็มหัวใจเลย ฉัน, พร้อมออกเดินทางด้วยรถไฟอีกครั้ง แล้วไว้เจอกันใหม่นะ ประเทศลาว วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !