หลังจากได้สัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจระดับ 5 ดาวจนอิ่มอกอิ่มใจ รีชาร์จแบตตัวเองใหม่จนเต็มเราก็อยากมารีวิวโรงแรม Le Méridien Bangkok แบ่งปันโรงแรมดีๆ ให้กับคนคนที่กำลังมองอะไรใหม่ๆ ในวันธรรมดาช่วงนี้โควิด-19 ทำให้เฉายาวๆ จนพวกเราไม่ได้ออกไปไหนกันเป็นเวลานาน เราเชื่อว่าการต้องทำงานทุกวันในสถานที่เดิมๆ ก็ทำให้เรา Burn Out หมดไฟไปได้ตามๆ กัน ในปัจจุบันนี้ก็มีเทรนด์ใหม่ที่กำลังฮิตคือการ Staycation และ Workation หรือการท่องเที่ยวพักผ่อนภายในประเทศหรือในเมืองของเราเอง (รับบทนักท่องเที่ยว) ที่จะช่วยเติมไฟ เติมไอเดีย ชาร์จพลังให้ตัวเองและร่างกายโรงแรม Le Méridien Bangkok เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ที่เราอยากแนะนำให้คนที่กำลังมองหาโรงแรมใจกลางเมือง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้กับตัวเอง แอบบอกว่าโรงแรมนี้เพิ่ง Renovate ใหม่ไฉไลสุดๆhttps://www.instagram.com/p/CbC0o0lp44-/?utm_medium=copy_linkพรีวิวเรียกน้ำย่อยไปหนึ่งกรุป📍 Le Méridien Bangkok ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านสีลม-บางรัก (ใกล้กับวัดแขก)🚆 สามารถเดินทางได้สะดวกสบายด้วย BTS (สนามกีฬา) และ MRT (สามย่าน)🏨 ห้องพักจำนวน 282 ห้อง 🏨 มีทั้งห้องพักและห้องจัดเลี้ยง🚗 ที่จอดรถฟรีจอดได้กว่า 150 -180 คัน💰 XXX - XXXX⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️https://www.google.com/maps/embed?pb=!1m18!1m12!1m3!1d124045.36246183331!2d100.54855636718186!3d13.693140653945068!2m3!1f0!2f0!3f0!3m2!1i1024!2i768!4f13.1!3m3!1m2!1s0x30e29f2b459c8b31%3A0xf873bf339d8c2878!2sLe%20M%C3%A9ridien%20Bangkok!5e0!3m2!1sth!2sth!4v1647354236272!5m2!1sth!2sthโรงแรมศิลปะสุดประณีต Le Méridien Bangkok สไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานกับความเป็นไทยได้อย่างดี“พื้นที่ที่คนรักศิลปะต้องตกหลุมรัก”สิ่งแรกที่เราชูว่าเป็น Highligh เด็ดของที่นี่คือ “ศิลปะ” โรงแรม Le Méridien Bangkok เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ตกแต่งอย่างประณีตในสไตล์ศิลปะร่วมสมัย (Contemporary Art) มีการผสมผสานศิลปะสไตล์ต่างๆ เข้ากันอย่างลงตัวทั้งการตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสและศิลปะพื้นเมืองของไทยทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ทุกการตกแต่งเขาคิดมาไว้แล้วหน้าโรงแรมเราจะจะเอ๋กับ “ไอ้จุด” ประติมากรรมน้องหมาพันธุ์ไทยมีจุดไซส์ใหญ่ จากศิลปิน วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ โดยน้องตั้งเป็น Mascot อยู่หน้าประตูโรงแรม เป็นศิลปะที่ทำให้ทุกคนเข้าถึงได้เพราะรู้สึกว่าน้องน่ารักชวนให้ทุกคนที่แวะมาได้ถ่ายรูปคู่นั่นเองมาทัวร์โรงแรมแต่ละโซนไปพร้อมกันหน้าโรงแรมจะมีไอ้จุดคอยต้อนรับพร้อมและนอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารของโรงแรมไว้สำหรับให้แขกนั่งทานอีกด้วยLobby Zoneตั้งแต่เปิดประตูก้าวเข้ามาจะพบกับห้องโถงใหญ่ที่เพดานสูงลิ่วดูโปร่งสบายตกแต่งด้วยสีดำ ลายหินอ่อน กระจกและไม้ แสดงให้เห็นสไตล์สุดปังดูพื้นที่สะท้อนลายของเคาน์เตอร์สิ นี่ก็คิดมาแล้วบริเวณที่นั่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือหน้าทางเข้าใกล้ลิฟต์แก้ว และ หน้าคาเฟ่บริเวณเคาน์เตอร์คาเฟ่ส่วนนี้สามารถสั่งขนมน้ำชากาแฟไว้ทานเล่นได้เป็นขนมสไตล์โฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุกวันนอกจากนี้ก็ยังมีโซนของที่ระลึกและพื้นที่ Latitude 13 สำหรับนั่งพูดคุยกันเป็นแก๊งพนักงานตั้งแต่คุณพี่ยามหน้าประตูไปจนถึงพี่ๆ โซนต้อนรับให้การต้อนรับแขกทุกคนเป็นอย่างดีโดยยิ้มทักทายสอบถามและชวนคุยอย่างเป็นมิตร บางคนก็ชวนคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย เราสามารถเข้ามา Check-in ได้เลย โดยจะมี Welcome Drink มาเสิร์ฟให้เราอย่างรวดเร็วหลังจาก Check-in เราก็จะได้รับ Key Card มาแล้วก็ขึ้นห้องพักกันได้เลยพักผ่อนหย่อนใจในห้องพักห้องพักของเราครั้งนี้เป็นห้องพัก Deluxe Urban Room ห้องพักสำหรับ 2 คนขนาด 37 ตารางเมตร พื้นที่แห่งความสุขไซส์ใหญ่ที่เปิดเข้ามาจะพบกับเตียง King Size และ วิวเมืองกรุงเทพฯ ตระการตา โดยห้องพักได้แบ่งสันปันส่วนพื้นที่ได้อย่างลงตัวพร้อมกับสิ่งของอำนวยความสะดวกที่ครบครันOverviewห้องตกแต่งอย่างคุมโทนด้วยสีขาวดำน้ำตาล ให้ฟิลโมเดิร์นและความมินิมอลที่ดูเรียบหรูดูดีมีสไตล์และอบอุ่นด้วยไฟ Warm Light ไปพร้อมๆ กัน Mood & Tone คือดีเวอร์ เพียงแค่เปิดห้องมาก็รู้สึกหรูหราฟู่ฟ่าแล้วSleep Well, Relax ,Work Hardเตียงไซส์ใหญ่นอนกลิ้งยังไงก็ไม่ตก แถมยังนุ่มและอุ่นสุดๆ มาพร้อมกับหมอนที่ให้มาถึง 4 ใบ บอกเลยว่าหมอนนุ่มนิ่มมากกกกก จนอยากขโมยไปฟัดต่อที่บ้านเลยค่ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งจะห้อมล้อมด้วยโคมไฟสลัวฝั่งซ้ายจะมีกลอนจากกวีดังสุนทรภู่ให้อ่านแล้วชวนคิดฝั่งขวาจะขนาบข้างด้วยลำโพง JBL ที่เป็นนาฬิกาไปในตัว (เสียงดีมากอย่าลืมใช้นะคะ) พร้อมโทรศัพท์ที่สามารถกด 0 โทรหา Room Service ได้โดยตรงฝั่งตรงข้ามมี Smart TV จอใหญ่ให้เปิดดูได้ทั้งคืนถัดมาจะเป็นโซนสำหรับนั่งทำงานมีโคมไฟ ปลั๊กไฟ และเก้าอี้ให้พร้อมสำหรับใครที่พกงานมา Workation หรือ Staycation ด้วยต้องถูกใจสิ่งนี้ค่ะข้างๆ เตียงจะมีโซฟาสำหรับนั่งชมวิวเมืองให้หนำใจ บอกเลยว่านั่งสบายดูวิวเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อแต่สำหรับเราคือทำงานได้ทุกโซนเลยเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานที่บ้านมานั่งทำงานชิลๆ กินหรูอยู่สบายที่นี่คือดีต่อใจมากๆ สามารถนั่งทำงาน นั่งพักผ่อนหย่อนใจ นอนทิ้งตัวลงบนเตียงสบายๆ ได้ไม่มีเบื่อและยังสามารถถ่ายรูปเล่นได้ในทุกมุมอีกด้วยTake a bath or shower?โซนสุดปังที่ต้องยกให้ในห้องนี้คือห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่นี่ดีมากก มีการแบ่งเป็นสัดส่วนโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจนห้องสำหรับอาบน้ำแบบฝักบัวห้องน้ำสำหรับทำธุระส่วนตัวแบบอัตโนมัติโซนแต่งหน้าพื้นที่กว้างพร้อมให้วางเครื่องสำอางทั้งกรุกับกระจกติดไฟให้เห็นหน้าแบบชัดๆ 300%อ่างอาบน้ำที่กว้างแบบใส่แม่น้ำทั้งห้าได้เลยค่ะหลังจากทำงานมาทั้งวันก็นอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอย่างสบายใจ ถือเป็นการผ่อนคลายที่ดีมากๆ เลยค่ะ :)Gadgetที่นี่มีอุปกรณ์ในห้องน้ำให้ครบนะคะ ที่สำคัญมีครีมอาบน้ำที่ฟองเยอะแบบสะใจครบครันสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผมเปลี่ยนหัวได้, ตู้เซฟใส่รหัส, เตารีดและที่รองรีด, ไม้แขวนเสื้อ, ถุงพลาสติกใส่เสื้อผ้า, รองเท้าแตะ และ ชุดคลุมอาบน้ำโซนตู้เย็นก็ปังไม่แพ้กัน มีน้ำเปล่า, น้ำอัดลม, ขนมขบเคี้ยว, ชา, กาแฟ, กาต้มน้ำร้อน, เครื่องทำกาแฟ และแก้วจำนวนมากแบบจัดเต็มขอสรุปสั้นๆ ว่ามีครบมากๆ ที่โรงแรมจัดเตรียมมาให้อย่างใส่ใจทุกกระเบียดนิ้วเลยจริงๆ ค่ะแม้กระทั่งจุดเล็กๆ ทางโรงแรมก็ใส่ใจ มีการใส่พิกัดละติจูด เส้นเมริเดียนมาให้ล้อกับชื่อโรงแรมอีกด้วยออกจากห้องมาทำกิจกรรมกันบ้างพื้นที่ส่วนกลางชั้น 6 สปา สระว่ายน้ำ และฟิตเนส โรงแรม Le Méridien Bangkok ออกแบบพื้นที่กิจกรรมเอาไว้ดีมาก ที่ชั้น 6 จะมีสปานวดน้ำมันอโรม่าที่ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล แนะนำให้ไปใช้บริการนะคะ มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามแค่เห็นก็รู้สึกผ่อนคลายแล้วค่ะhttps://travel.trueid.net/detail/7JXDQlO6kj3Jโซนฟิตเนสสำหรับคนที่ขาดการออกกำลังกายไม่ได้ต้องถูกใจสิ่งนี้เลยพื้นที่สระว่ายน้ำและบาร์ที่กว้างขวางมองเห็นวิวเมืองและตึกระฟ้าเต็มตา บอกเลยว่าถ่ายรูปสวยสุดๆ ไปเลยค่ะหิวเมื่อไหร่ก็กดลิฟต์มาที่ชั้น 2บริเวณชั้น 2 จะมีห้องอาหารอยู่ 2 โซน ในช่วงเช้าเราทุกคนจะมารวมตัวกันทานอาหารบุฟเฟต์ และช่วงบ่ายจะมีพื้นที่ให้นั่งทานอาหารขนมอีกฝั่งหนึ่งมาดูที่บริเวณโซนห้องอาหารกันก่อน มีการออกแบบมาอย่างกว้างขวางตกแต่งได้อย่างลงตัวนั่งสบายและเดินไปหยิบอาหารมาทานได้ง่ายโซนสำหรับทานอาหารว่าง🔺โซนสำหรับทานบุฟเฟ่ต์🔺 สำหรับเราเป็นสายรีวิวอาหารจะพลาดอาหารที่โรงแรมได้ไง?ผู้ที่เข้าพักจะได้รับ Package อาหารเช้าบุฟเฟ่ต์เสริมด้วย โดยเปิดให้บริการทานได้ตั้งแต่ 8.00 - 10.00 น. เช้าแล้วก็ถึงเวลาลงมาทานเข้า เมื่อเรานั่งลงที่โต๊ะก็จะมีพนักงานเข้ามาพูดคุย แนะนำขั้นตอนการทานบุฟเฟ่ต์ของที่นี่พร้อมถามว่าอยากทานน้ำอะไรและนำมาเสิร์ฟให้อย่างรวดเร็ว ความใส่ใจในการให้บริการนี้เป็นอีกจุดที่เราประทับใจมากๆ เลยค่ะ“ฉีกกฎอาหารเช้าแบบเดิมๆ ด้วยบุฟเฟต์อาหารเช้าสไตล์นานาชาติที่โรงแรม Le Méridien”อาหารเช้าที่โรงแรมไม่ได้มีเพียงแค่อาหารธรรมดาแต่จัดให้เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติหลากสไตล์ บอกเลยว่าอาหารที่นี่ระรานตระการตาทั้งของคาวหวานจนแทบเลือกทานไม่ถูกเลยทีเดียวD.I.Y. Salad Bar สำหรับสาย Healthyที่ Le Méridien จะมีบาร์สลัดหลากสไตล์ให้เราเลือกตักทานได้ตามชอบ ทั้งผัก ผลไม้ ถั่ว ซีเรียล บิสกิตเนื้อสัตว์ต่างๆ พร้อมน้ำสลัดหลากรสจากหลายสัญชาติ ที่เราสามารถเลือกตักทานได้ไม่อั้น ที่สำคัญผักสดเย็นกรอบมากค่ะClassic French Breakfast อาหารเช้าสไตล์ฝรั่งเศสสำหรับใครที่ชอบอาหารสไตล์ฝรั่งเศสอิตาลี เราขอแนะนำให้ขยับมาทางโซนขนมปัง ซึ่งเขามีขนมปังให้เลือกหลากหลายมากทั้งครัวซองต์ เฟรนซ์โทสต์ บาแก็ต แป็งโอชอกอลา และ ขนมปังสูตรต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแยมโฮมเมดสไตล์ให้เลือกทานหลายรสอีกด้วยค่ะJapanese Station อาหารสไตล์นิฮนโตะอาหารฝั่งเอเชียก็มีมาสู้ค่ะ จะมีโซนอาหารญี่ปุ่นให้เราเลือกตักทาน มีน้ำซุปมิโซะ โอเด้ง ข้าวญี่ปุ่นและปลาไข่นึ่งร้อนๆ ขอบอกว่าน้ำซุปมิโซะอร่อยกลมกล่อมอูมามิมากๆ เลยWelcome To Thailandอาหารไทยสำหรับคนไทยและต่างชาติก็มีไม่ให้พลาด จะมีหม้ออุ่นแกง กับข้าว และข้าวสวยให้ร้อนอยู่ตลอดเวลา เมนูในหม้อก็จะสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน รสมือของที่นี่ก็อร่อยดีใช้ได้ค่ะ อาจจะไม่เผ็ดสะใจสไตล์เราเท่าไหร่แต่อร่อยมากค่ะA la carte ครัวอาหารตามสั่งนอกจากบุฟเฟ่ต์ตักทานแล้วก็ยังมีโซนครัวทำอาหารให้แบบสดๆ ร้อนด้วยเช่นกันนะคะ โดยเราสามารถ Order ก๋วยเตี๋ยวกับเชฟได้ นอกจากนี้ก็ยังมี Breakfast บางเมนูที่สามารถสั่งได้อีกด้วยค่ะ ส่วนตัวแล้วเราสั่งก๋วยเตี๋ยวและ Omelet Egg Benedict มาทาน ค่ะ เชฟที่นี่ทำอาหารอร่อยถูกใจสายกินอย่างเรามากๆ เลยค่ะของหวานทานของคาวเสร็จก็มาต่อกันที่ของหวาน ที่นี่จะมีโซนให้กดน้ำหลากหลายรสชาติ พร้อมของหวานมากมายโซนขนมสามารถเลือกหยิบทานได้ตามชอบ มีน้ำเสาวรสซิกเนเจอร์ที่ดื่มยามเช้าแล้วทำให้ตาตื่นด้วยนะ แนะนำให้ไปลองค่ะไอศกรีมโฮมเมดพร้อม Topping หลากหลาย สานฝันวัยเด็กสุดๆ เพราะสามารถใส่ Topping ได้ไม่อั้นเลยหลังจากทานเสร็จเราก็กลับไปพักผ่อนต่อที่ห้องพักเพลินๆ และต้องโบกมือลาเก็บกระเป๋ากลับบ้านซะแล้วเวลาแห่งความสุขหมดไปไวจริงๆ ค่ะรีวิวความรู้สึกส่วนตัวกับโรงแรม Le Méridien Bangkokเมื่อได้มาพักที่นี่แล้วเรารู้สึกว่าเหมือนได้เปลี่ยนบรรยากาศไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยค่ะ ด้วยทุกองค์ประกอบในโรงแรมทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจด้วยการออกแบบ การตกแต่ง และการให้บริการที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ทำให้เวลาผ่านไปไวมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดเลยที่ได้มา Staycation ที่โรงแรม Le Méridien Bangkok แห่งนี้ถ้าจะให้คะแนนขอบอกเลยว่าให้เต็ม 10 ไม่หักในการรีวิวครั้งนี้ค่ะสำหรับใครที่อยากลองมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ที่โรงแรม Le Méridien Bangkok สามารถจองติดต่อจองที่พักได้ที่💻 Website: https://www.marriott.com/en-us/hotels/bkkdm-le-meridien-bangkok/overview/💻 Facebook: https://www.facebook.com/LeMeridienBangkok/☎️ Tel: 02 232 8888ซึ่งตอนนี้ทางโรงแรมกำลังมีโปรโมชันดีๆ สำหรับ Staycation ด้วยนะคะ ห้ามพลาดเลยค่ะ หมายเหตุ : บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 16/03/2565 อาจมีการเปลี่ยนแปลงส่วนต่างๆ ในอนาคตสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ 𝐹𝑎𝑐𝑒𝑏𝑜𝑜𝑘Writer : Thitha , ติดต่องานได้ทาง IG : Natthi.tha Ⓕ : I Adore Eat (นิตยสารสำหรับคนชอบกิน)Ⓕ : The space of nonsense Hashtag#รีวิวโรงแรมกรุงเทพ #LeMeridienBangkokรีวิว #LeMeridienBangkok #GoodVibes #travel #travelling #Staycation #workation #toptags #vacation ##traveler #trip #holiday #photooftheday #tourism #tourist #tripdiaryมองหาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !