ก่อนหน้านี้ช่วงเดือนมิถุนายน ฉันได้มีโอกาสไปเที่ยวภูทับเบิกมาค่ะ ตามสไตล์ของคนที่ชอบท่องเที่ยวบนดอยเพื่อชมทะเลหมอกนับเป็นครั้งแรกด้วยที่ได้ขึ้นมาถึงยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะปกติจะไปเขาค้อตลอด แต่คราวนี้อยากลองขึ้นไปบนเขาสูง ๆ ดูบ้าง เพราะเคยเห็นภาพที่คนอื่นลงในโซเชียลมาแล้วว่า ทะเลหมอกที่ภูทับเบิกนั้นงดงามราวกับเรามาอยู่บนสวรรค์ซึ่งฉันก็อยากมีโอกาสได้เห็นมันกับตาตัวเองบ้างจึงตัดสินใจมาที่นี่ในช่วงฤดูฝนกะทันหัน แน่นอนว่าการที่ฉันออกเดินทางมาอย่างกะทันหันเช่นนี้นั่นหมายความว่า “ต้องหาที่พักกันเอง” ซึ่งเราก็ได้ขึ้นมาถึงภูทับเบิกช่วงบ่ายโมง อากาศรอบข้างเย็นลงมากและหมอกก็เริ่มเยอะจนแทบหมอกทางบนไหล่เขาไม่เห็นแล้ว ดังนั้นฉันกับคุณพ่อจึงตัดสินใจว่าหากเจอที่พักข้างทางตรงไหนเป็นที่แรกก็เข้าพักที่นั่นเลยนี่แหละ หากรอให้ขับไปถึงแยกที่จะเข้าสู่จุดชมวิวหลักของภูทับเบิกอาจเกิดอันตรายได้ แม้จะเป็นระยะทางอีกแค่ไม่กี่กิโลเมตร แต่ก็ต้องขึ้นทางชันไปอีกหนึ่งจึงจะเป็นทางลาดบนเขาปกติ ฉันที่เห็นด้วยจึงตอบตกลงทันที เพราะคิดว่ามันก็อันตรายจริง ๆ แถมเราก็ไม่รู้ด้วยว่าหากไปถึงจุดชมวิวหลักได้แล้วจะมีห้องพักว่างหรือเปล่า เพราะช่วงฤดูฝนเป็นเวลาทองที่นักท่องเที่ยวต่างต้องการมาชมทะเลหมอกที่สวยกว่าทุกฤดูที่นี่ ท่ามกลางหมอกที่เริ่มหนามากขึ้นฉันก็เห็นป้ายใหญ่ๆที่เขียนว่า “The Mist รีสอร์ต”บนถนนที่ขึ้นจากทางหล่มเก่า จึงตัดสินใจว่าจะเข้าพักค้างคืนกันที่นี่ เมื่อคุณลุงเจ้าของรีสอร์ทเห็นรถของแขกเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับและนำเรามายังบ้านพักซึ่งอยู่บนเขาสูงสุดของรีสอร์ท มีอยู่เพียงหลังเดียวโดด ๆ ตัวบ้านพักจะมีระเบียงยื่นออกไปรับสายลมเย็น ๆ ที่เริ่มหนาวและข้าง ๆ ก็ดูจะเป็นไร่อะไรสักอย่างลดหลั่นลงตามแนวเขาที่หมอกหนามากทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด เราเอาสัมภาระมาเก็บที่ห้องและจัดการจ่ายค่าที่พักซึ่งเจ้าของก็คิดราคาหลังละ 1,800 บาทซึ่งถือว่าถูกมาก รีสอร์ตแห่งนี้อยู่ก่อนถึงทางขึ้นชันสุดท้ายก่อนที่จะเป็นทางลาดบนเขา คงเพราะเป็นรีสอร์ตที่สร้างมาได้ไม่นานและกำลังต่อเติมขยายบ้านพักอื่น ๆ อยู่และทำเลที่ตั้งข้างทาง ไม่ได้อยู่ในบริเวณจุดชิมวิวหลักที่เป็นยอดภูทับเบิกหรือจุดวัดอุณหภูมิทำให้ไม่ค่อยได้มีนักท่องเที่ยวมาพักเท่าไหร่ ซึ่งเราก็เข้าใจในคุณลุงเจ้าของนะ คงต้องให้เวลาและความสมบูรณ์ของรีสอร์ตเป็นตัวช่วย เพราะต้องบอกเลยว่าคุณลุงเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีกับแขกที่มาพักมาก ทั้งรอยยิ้มและยังแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในภูทับเบิกอย่างแข็งขัน ท่านมีความทุ่มเทจริง หลังจากนอนพักผ่อนช่วงบ่ายด้วยความเหนื่อยล้า ช่วงใกล้บ่าย 3 โมงเย็นฉันก็เปิดประตูเพื่อหมายจะออกมาชมทิวทัศน์ของถนนที่จากระเบียงสามารถมองเห็นศาลาชมทะเลหมอกริมทางที่อยู่บนไหล่เขาห่างจากเราเพียงเล็กน้อย บนถนนมีรถขับขึ้นมาเพื่อหมายขึ้นไปสู่ยอดภูทับเบิกอยู่หลายคันเรื่อย ๆ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องร้อง “โอ้โห!” ออกมาด้วยความตกใจก็คือ ภาพของไร่ผักกาดอันกว้างใหญ่ที่ลดหลั่นตามระดับความสูงของเขาหน้าห้องพักของตัวเอง ซึ่งเป็นแปลงเดียวกันกับที่ตัวเองเคยบอกว่าไม่รู้มันคือแปลงอะไร ตอนนี้หมอกหนา ๆ ก่อนหน้าได้จางลงไปทำให้ฉันได้เห็นสิ่งสวยงามอันเป็นสัญลักษณ์ของภูทับเบิกอย่างแท้จริงโดยไม่ต้องไปถึงจุดชมวิวหลักเลย นอกจากไร่กะหล่ำแล้ว ไร่ผักกาดยังถือเป็นอีกผลผลิตสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ภูทับเบิกด้วย เมื่อได้มาเห็นมันกับตาในเวลาที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นใกล้ ๆ ขนาดนี้ก็ต้องกลับไปเข้าหยิบกล้องมาถ่ายรูปอย่างไม่รีรอ มุมนี้ไม่ได้ทำให้ฉันตื่นเต้นเพียงเพราะมันเป็นแค่ไร่ผักกาดเหมือนในภาพที่เคยเห็นบนโซเชียล แต่เพราะมุมมองจากจุดที่เรายืนต่างหาก สิ่งที่ฉันอยากจะบอกทุกคนก็คือ ข้างบ้านพักของเราเป็นไร่ผักกาดอันกว้างใหญ่ที่ลดหลั่นลงมาอย่างเป็นระเบียบตามไหล่เขาและเมื่อมองตามลงไปก็จะเห็นถนนที่เป็นโค้งสวยงามตามไหล่เขาของนักเดินทางเคล้าคลอกับภาพของทะเลหมอกหนา ๆ ด้านล่าง ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าจดจำเสียยิ่งกว่าการได้ไปอยู่ในจุดชมวิวหลักแบบในภาพถ่ายเสียอีก มาถึงตรงนี้ต้องบอกเลยว่า The Mist รีสอร์ต เป็นที่พักซึ่งหากคุณได้มาเยือนภูทับเบิก ฉันก็ขอแนะนำที่นี่เลย มองดูจากด้านหน้าอาจจะเหมือนรีสอร์ตธรรมดา แต่เมื่อได้เข้าไปพักแล้ว...วิวสวยหลักล้าน!!! คุ้มยิ่งกว่าราคาที่เราจ่ายไปเสียอีก เจ้าของก็ต้อนรับแขกเป็นอย่างดี มีอาหารเช้าและอาหารเย็นให้ตามที่เราสั่งเลย วันที่เราเช็กเอาท์ออกจากรีสอร์ต คุณลุงเจ้าของยังเตือนด้วยความห่วงใยและมีมิตรไมตรีว่า “หมอกมันหนา ขับรถดูเส้นไว้เสมอนะครับ” พวกเราเองก็กล่าวขอบคุณพร้อมบอกว่าหากมีโอกาสจะพาครอบครัวมาพักที่นี่ ติดใจกับวิวมากจนแทบไม่อยากแวะไปชมบนยอดภูแล้ว เพราะวิวที่ The Mist รีสอร์ตคือที่สุดสำหรับเรา ทำให้ได้ภาพถ่ายความงดงามของภูทับเบิกในมุมที่แปลกใหม่ ก่อนที่ไม่นานเราทั้งคู่จะกล่าวลาแล้วขับรถออกไป The Mist รีสอร์ต ภูทับเบิก ที่ตั้ง : บนภูทับเบิก ริมถนนเส้นที่ขึ้นทางหล่มเก่า หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อหรือจองที่พัก : 086-505-5554 เรื่องราวและรูปภาพโดย : รักสายหมอก