มีบทความนึง เขียนไว้ว่า " หนังสือเล่มใหญ่ที่สุดในชีวิตคนเรา คือ การได้ออกเดินทาง "และเมื่อคุณเริ่มออกเดินทาง ในวันนั้นคือการที่คุณได้เริ่มเปิดหนังสืออ่านแล้ว และเมื่อคุณได้เริ่มอ่านมันแล้ว เชื่อเถอะว่าคุณจะไม่สามารถหยุดอ่านหนังสือเล่มนั้นได้แน่นอน และผมคงไม่สามารถบรรยายทุกสิ่ง ทุกอย่างจากหนังสือเล่มนี้ของผมได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก " คุณจะต้องเปิดอ่านมัน ด้วยตัวคุณเอง "เคลื่อนสู่เมืองแห่งความสุข "น่าน"“แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง” จุดหมายครั้งนี้มีเวลาอยู่เพียงสามวันเท่านั้นผมเลือกจุดที่เป็นไฮไลท์แรก ๆ ของจังหวัดก่อน ที่แรกที่ต้องแวะก่อนคือ พระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองน่าน องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ต้องแวะมาสักระก่อนเข้าตัวเมืองเพื่อเป็นสิริมงคล สถานที่แห่งนี้มองลงมาจากตัวพระธาตุจะมองเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองน่าน สวยไปอีกแบบ พิกัด : พระธาตุเขาน้อย จุดที่สอง เดินทางต่อไปอีกประมาณ 20 นาที พูดได้ว่า ถ้าพูดถึง น่านแล้วทุกคนคงต้องนึกถึงภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังแห่งวัดภูมินทร์ ภาพ "กระซิบรักบันลือโลก" พระอุโบสถของวัดประกอบด้วยมุขสี่ด้าน เป็นพระอุโบสถจตุรมุข วิจิตรบรรจงมองดูงามแปลกตา ต่อจากวัดภูมินทร์ ที่อยู่ใกล้กันไม่ต้องเดินไปไหนไกลมี วัดช้างค้ำ ซึ่งก็อยู่ตรงข้ามกันพิกัด : วัดภูมินทร์ , วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ใกล้กันคือจุดที่สาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน สำหรับสายถ่ายภาพไม่ควรจะพลาดนั้นก็คืออุโมงค์ลีลาวดี แนะนำเพิ่มเติมอีกนิดควรจะมาถ่ายช่วงเช้าก่อน 9 โมงเช้า แสงจะสวยมาก พิกัด : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน เดินมาต่อไม่ไกลจุดหมายที่สี่ของวัน อยู่ใกล้กันมาก ศาลหลักเมือง น่าน เป็นศาลหลักเมืองที่สวยที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของศาลหลักเมือง มีความสวยงามวิจิตรบรรจงมาก.เป็นศิลปะปูนปั้นและพิมพ์ลาย หลังจากเดินถ่ายภาพสักพักในวันนี้ผมจบทริปวันแรกแบบไม่ทั่วถึงเฉพาะในตัวเมืองแล้ว ผมว่าวันเดียวไม่สามารถจะไปได้ครบทุกที่ได้ อย่างแน่นอนคงต้องรอโอกาสหน้าจริง ๆ ในบริเวณนี้ยังมีโบราณสถานและจุดท่องเที่ยวอีกเยอะมากและที่สำคัญอยู่ใกล้กันมากจนเรียกได้ว่าอยู่จุดเดียวกันเลยจะดีกว่า ขนาดอยู่จุดเดียวกันยังไม่สามารถเดินดูได้ครบในวันเดียว และปิดทริปวันแรกแบบงง บนถนนคนเดินหน้าวัดภูมินทร์ กันเลยแล้วกัน พิกัด : ศาลหลักเมือง น่าน เช้าในวันที่สอง ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ออกเดินทางไปจุดที่ห้าขึ้น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตามหาชมพูภูคา ถนนหมายเลข 3 และไปสูดโอโซนที่สะปันกัน โดยใช้เส้นทางอำเภอปัวและบ่อเกลือ ออกจากตัวเมืองเดินทางไปปัวใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้วเดินแวะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนขึ้น ดอยภูคา ขอบอกถนนเส้นนี้สวยมาก ตัวผมเองขับรถไม่สามารถถ่ายมาให้ชมได้วิธีที่ดีที่สุดคุณต้องไปให้เห็นกับตาคุณเอง แวะกลางทางก็จะได้ภาพมาบ้างประมาณนี้ เดินทางต่อไปอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงสิ่งที่ผมมาตามหา แต่เดือนที่ผมไปมันไม่ออกดอกให้เห็นแล้วเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะผมหลงรักที่นี้ตั้งแต่วันแรกที่มาเลยด้วยวิถีชีวิตของผู้คน ด้วยน้ำใจของคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลยที่มอบให้ ด้วยธรรมชาติความเป็นอยู่ คงไม่มีคำบรรยายอะไรที่จะทำให้คุณหรือใครเห็นภาพนั้นได้ พิกัด : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เมื่อมาถึงที่นี้แล้วแม้ไม่ได้เห็นสิ่งที่ต้องการ ด้วยป่าไม้ที่ยังคงสมบูรณ์ ผมสามารถเดินดูพันธ์ไม้ในเขตหนาวที่เคยแต่ได้ยินเพียงชื่อแต่ไม่เคยเห็นของจริงครั้งนี้คุ้มมากสำหรับผม ที่นี้อากาศดีมากสัมผัสจากการสูดลมหายใจเข้ารู้สึกได้เลยว่า โล่งโปร่งสบาย ความร่มรื่นประกอบกับอากาศที่เย็นสบายทำให้ ผมหายเหนื่อยสำหรับการเดินทางในครั้งนี้จริงๆ แต่ด้วยเวลาที่มีน้อยผมต้องเดินทางต่อไปอำเภอบ่อเกลือ ใช้เวลาเดินทางไปบ่อเกลือราวๆ สี่สิบห้านาทีผมก็ถึงอำเภอบ่อเกลือ หาที่จอดรถอยู่สักพักก็ได้ที่จอดที่บ่อเกลือโบราณเลย เดินมาดูวิธีการทำเกลือสินเธาว์ ของชาวบ้านอยู่ที่นี้ก็คงเป็นธรรมดาก็ต้องอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนกันหน่อยแล้วค่อยออกเดินทางต่อไปสะปันอีกที่ ที่จะต้องไปให้ถึงให้ได้ในวันนี้และไกลที่สุดของวันนี้ พิกัด : บ่อเกลือโบราณ ขับรถต่อไปอีก 30 นาทีก็ถึงสะปัน สะปันมีเสน่ห์ในตัวเองถึงแม้วิถีชีวิตผู้คนที่นี้เปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็ที่นี้ก็ยังแฝงไปด้วยกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติอยู่มาก นาข้าวกลางหุบเขา สายลมเย็นพัดเอื่อย ๆ ตลอดเวลาจนรู้สึกหนาวขึ้นมา ผมขึ้นมานั่งยังจุดชมวิวบนวัดสะปัน อยู่พักใหญ่ก็ถึงเวลาต้องกลับเข้าตัวเมือง ผมกลับลงมาเส้นบ่อเกลือ-สันติสุข ถนนลอยฟ้าหรือถนนหมายเลข 3 ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเต็มบรรยากาศสองข้างทางที่ผ่านมองไกล ๆ คิดว่าตัวเองขับรถลงมาจากบนฟ้าจริง ๆ เพราะสองข้างทางไม่มีต้นไม้เลยเกือบตลอดทั้งเส้นทางที่มาแต่แปลกมากถนนที่นี้โค้งเยอะมากขึ้นลงผ่านภูเขานับสิบลูกแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อยผ่านไปพักเดียวจุดสุดท้ายของวันนี้ก็อยู่เบื้องหน้า จุดนี้ใช้เวลาอยู่นิดนึง(รอจังหวะที่จะถ่ายภาพแบบไม่มีคน สุดท้ายต้องใช้วิธีตัดภาพคนทิ้งไปถึงได้ภาพแบบไม่เต็มเฟรม)แต่ได้ภาพที่ใกล้เคียงกับภาพที่เคยเห็นเลยอะ พิกัด : สะปัน พิกัด : ถนนลอยฟ้าหรือถนนหมายเลข 3 ราวทุ่มเศษผมก็ถึงที่พัก น่าน เป็นจังหวัดนึงที่ผมยังคงต้องกลับไปอีกครั้ง ครั้งนี้เวลาที่ผมมี ไม่สอดคล้องกับสถานที่ ที่ผมตั้งใจจะไปอีกหลายที่ ทำให้การเดินทางครั้งนี้ของผมไม่ทั่วน่านผมให้สัญญากับตัวเองไว้ว่า " ผมให้สัญญาว่ามีเวลาครั้งหน้าผมจะต้องกลับมาอีกครั้ง " เช้าก่อนกลับขับรถออกมานอกเมืองเส้นทางไปอำเภอภูเพียงขับรถไม่ถึงสิบนาทีเพื่อไปกราบสักการะวัดพระธาตุแช่แห้ง ก่อนกลับ พระธาตุแช่แห้ง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่าน ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่นี้ก็เป็นอีกที่นึงที่แสดงให้เห็นฝีมือของช่างสกุลช่างน่าน ในบริเวณวัดยังมีจุดให้ได้เดินชมอีกหลายจุด โดยเฉพาะวิหารต่างๆ เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแปลกตาจริง ๆ ลักษณะคล้าย ๆ ศิลปะพม่าประมาณนั้นแต่ก็ไม่ใช่ ดูเรียบง่ายแต่สง่างาม เผลอแป๊บเดียว เกือบเที่ยงซะแล้ว ถึงเวลากลับแล้วละคราวนี้ อย่างน้อยที่นี้ผมคงต้องมีเวลาสักสี่ถึงห้าวันคงจะไปได้ทั่วหรืออนาคตคงต้องมาอยู่ที่นี้เลยก็ได้ 5555พิกัด : วัดพระธาตุแช่แห้งคุณสามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวคุณเองได้ ด้วยตัวคุณเองPhoto Credit : Overcoming*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565