เคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Da Vinci Code จะมีฉากในหนังเกี่ยวกับความลับของการไขปริศนาในพิพิธภัณฑ์ Musee Du Louvre ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสที่โด่งดังไปทั่วโลก เมื่อมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสจึงต้องไปดูภาพวาดที่โด่งที่ตั้งโชว์ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เมื่อมีโอกาสได้มาฝรั่งเศสจึงต้องเดินทางมาที่พิพิธภัณฑ์The Da Vinci Code ให้ได้ จึงตัดสินนั่งรถไฟมาลงที่สถานี Palauis - Royal Musee du Louvre มาเราออกจากสถานีมาจะเห็นแก้วรูปพีระมิดตั้งอยู่โดดเด่น แค่เห็นด้านนอกก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว เพราะภาพในภาพยนตร์ก็ผุดขึ้นมาที่ทอมแฮงค์มาดูหลุมศพของมารดาของพระคริสต์ เมื่อเดินเข้ามาพิพิธภัณฑ์ลูฟร์จะด้านในจะเห็นกล่องกระจกพีระมิดที่อยู่ด้านล่างของห้องโถง ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก หลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปสู่ทางเข้าชมงานศิลป์ด้านใน ซึ่งมีห้องโชว์งานศิลปะมากมายจนคิดว่าเดินดูกี่วันจะทั่วทุกห้องได้ ทางพิพิธภัณฑ์จัดทางเดินให้ทุกคนเดินไปทางเดียวกัน เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากมายในแต่ละวัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เป็นคนจีน ที่มักจะมีไกด์เดินนำพร้อมพูดเสียงดัง และลูกทัวร์ก็ไม่เกรงใจใครในการถ่ายรูป เพราะคนพวกนี้จะเป็นที่น่ารำคาญใจมาก จึงต้องหาทางพยายามเดินไกล ๆ ภาพที่ทุกคนจับตามมากที่สุด คือ ภาพโมนาลิซ่า ซึ่งเป็นจุดที่โชว์ผลงานด้านในลึกสุดของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ โดยตลอดทางจะมีห้องต่าง ๆ ที่โชว์ผลงานที่มูลค่าสูง กว่าจะถึงห้องโมนาลิซ่าเราจะเจอห้องแรกที่โชว์งานศิลป์แนวอิยิปต์โบราณและงานแกะสลักลอยตัวในยุคเก่า Grand Galerie เป็นโถงทางเดินที่มีงานศิลปะสวยงามตลอดเส้นทางเดินที่ยาว โดยเป็นฝีมือจิตรกรชาวอิตาเลียนในช่วงศตวรรษ 13 ตลอดเวลาที่เดินดูตามข้างผนังจะมีรูปภาพจากจิตกรรมโดยฝีมือชื่อดัง ระหว่างทางทางยาวจะมีที่นั่งให้ได้พักเหนื่อยและนั่งชมความงามของฝีมือช่างชั้นเลิศ ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์จะมีที่กั้นแถวสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ผู้เขียนได้จองตั๋วล่วงหน้าจากเว็บไซต์ ทำให้ไม่ต้องต่อแถวนานก็ได้เข้าไปด้านในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์แล้ว ในที่สุดก็ได้เข้ามาสู่บ้านของหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มปริศนาอย่างโมนาลิซ่า ของเลโอนาร์โด ดา วินชี ( Leonardo Da Vinci ) ที่ดังก้องโลก เมื่อเราไปถึงห้องโชว์ภาพโมนาลิซ่า ซึ่งจะมีกระจกนิรภัยป้องกันการโจรกรรมไว้อย่างดี เราจะได้เห็นภาพโมนาลิซ่าในระยะห่างหลายเมตร เพราะจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากบดบังเอาไว้ ถ้าใครอยากดูระยะใกล้ ๆ จะต้องรอให้กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่จากไปก่อน ก็จะมีโอกาสได้ถ่ายรูปที่ดีได้ เมื่อพักเหนื่อยจากการเดินดูศิลปะเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก็จะพบกับรูปปั้นเทพีไนกี้แห่งซาโมเทรซ และ Venus de Milo ที่อยู่ด้านบนบันได ( Daru ) และปีกด้าน Richelier เป็นรูปปั้นที่มีคนมาเยี่ยมชมน้อยที่สุด เพราะเป็นที่ประทับของกษัตริย์องค์สุดท้ายของฝรั่งเศส จะเป็นการจัดโชว์และเครื่องใช้ของกษัตริย์ แต่ทุกมุมบนฝาเพดานจะมีงานเพ้นท์ และตลอดทางจะมีรูปปั้นกรีกและโรมันโบราณอายุสองพันปี การเดินดูพิพิธภัณฑ์ Musee Du Louvre ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง จึงยังไม่ครบทุกห้องที่จัดแสดง เพราะความยิ่งใหญ่อลังการและเป็นแหล่งรวบรวมงานศิลป์จำนวนมากมายและหามูลค่าไม่ได้เลย จึงเรียกว่าเดินจนลืมเมื่อยล้ากันเลย และในพิพิธภัณฑ์นี้จะมีร้านอาหารไว้ให้แวะหาอะไรได้รับประทาน เวลาเปิดพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ตั้งแต่ 9.00น. - 18.00 น. เปิดให้บริการทุกวัน ภาพประกอบโดย : ย.รติญา