รีเซต

เกาะฮาร์ท เกาะแห่งความตาย สุสานฝังรวมนับล้านศพที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา

เกาะฮาร์ท เกาะแห่งความตาย สุสานฝังรวมนับล้านศพที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
แมวหง่าว
18 เมษายน 2563 ( 10:00 )
3.1K
4

     ชื่อของเกาะฮาร์ท Hart Island แห่งนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นั้นเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากถูกใช้เป็นสุสานฝังรวม สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตด้วยเหตุเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ขณะนี้กำลังเพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ

 

     แต่ความเป็นจริงแล้ว จำนวนร่างที่หลับไหลอยู่บนเกาะแห่งนี้นั้นอาจมีอยู่สูงถึงล้านศพด้วยกัน เพราะว่ามันเคยถูกใช้เป็นสุสานมาอย่างยาวนาน ผ่านยุคสมัยของอเมริกามาอย่างโชกโชนจนทุกตารางนิ้วบนเกาะนั้นไม่มีส่วนไหนที่ไม่เคยสัมผัสความตาย จนชาวอเมริกันขนานนามนามให้เป็น "The Island of the Dead" เกาะแห่งความตาย ที่หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทันทีที่ย่างเท้าขึ้นไป ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยียบที่อยู่รอบตัว

 

เกาะฮาร์ท เกาะแห่งความตาย สุสานฝังรวมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา

 

ประวัติ ที่มาของเกาะ Hart Island

 

เกาะ Hart (ขวาล่าง) และเกาะ City Island ด้านบนคือเมืองบร็องซ์
By Doc Searls from Santa Barbara, USA - 2010_02_22_sba-lax-iad-bos_172, CC BY 2.0

 

     เกาะฮาร์ท ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบร็องซ์ (Bronx) ในนิวยอร์ก ขนาดของเกาะไม่ใหญ่มาก ยาวประมาณ 1.6 กิโลเมตร กว้าง 0.53 กิโลเมตร แต่เดิมนั้นง เกาะนี้เป็นของชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มานานแล้ว จนกระทั่งในปี 1654 นายแพทย์ชาวอังกฤษก็มาขอซื้อต่อ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่นี่ก็ถูกถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ เปลี่ยนมือเจ้าของไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณปี 1864 มันก็ถูกเปิดสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ในฐานะของ "ค่ายทหาร"

 

จากเกาะธรรมดาสู่ค่ายฝึกทหาร และที่ฝังศพ

 

     ช่วงนั้นอเมริกากำลังอยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง หรือ American Civil War นั่นเอง ถึงตรงนี้ ทั่วทั้งเกาะก็เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างมากมาย ตั้งแต่ที่พักของนายทหารระดับนายพล ค่ายฝึก ห้องสมุด ไปจนถึงห้องจัดคอนเสิร์ต ว่ากันว่าบนเกาะนี้สามารถใช้ฝึกทหารได้ถึง 50,000 นายเลยทีเดียว และแน่นอนว่าหลังจากมีค่ายแล้ว มีการรบเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมีค่ายกักกันเชลยศึกตามมาด้วย และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการฝังศพเป็นครั้งแรกบนเกาะนี้...

 

     จำนวนของเชลยศึกที่เสียชีวิตบนเกาะนั้นมีอยู่ประมาณ 235 คน แต่หลังจากนั้นก็มีการนำร่างของทหารที่เสียชีวิตมาฝังที่นี่ด้วย หลังจากนั้นทางเทศบาลนิวยอร์กก็ติดต่อขอซื้อเกาะฮาร์ทจากเจ้าของเดิมด้วยราคา 75,000 ดอลลาห์ เพื่อใช้สำหรับเป็นสุสานสำหรับฝังศพไร้ญาติเป็นการเฉพาะ โดยศพแรกมาจากโรงพยาบาลเพื่อผู้ป่วยยากไร้ในนิวยอร์กนั่นเอง จากนั้นมา ที่นี่ก็ถูกเรียกว่า City Cemetery หรือสุสานประจำเมืองไปเป็นที่เรียบร้อย ภายในปี 1958 มีศพถูกฝังรวมกว่า 500,000 ร่าง

 

 

เกาะฮาร์ท ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

 

By Bjoertvedt - Own work, CC BY-SA 3.0

 

     ด้วยความที่เป็นเกาะห่างไกลนี่เอง เลยทำให้เกาะฮาร์ทมักถูกปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เข้ากับเหตุการณ์ในช่วงนั้นด้วย เช่น

 

  • ศูนย์กักกันเชื้อโรคแห่งนิวยอร์ก เมื่อก่อนอเมริกาเองก็เคยประสบกับภัยร้ายจากโรคระบาดเช่นกัน ในปี 1870 เป็นช่วงที่โรคไข้เหลือง (Yellow Fever) กำลังระบาดหนักไปทั่วโลก เกาะนี้จึงมีการตั้งศูนย์ขึ้น โดยรองรับผู้ป่วยได้ 1,100 ถึง 1,500 เตียง ซึ่งก็ถือว่าเยอะมากแล้วในสมัยนั้น

  • ปี 1924 เศรษฐีที่ดินจากบาร์เบโดส ได้เข้ามาขอซื้อพื้นที่บางส่วนของเกาะ เพื่อจะสร้างสวนสนุกสำหรับคนผิวดำโดยเฉพาะ เนื่องจากในสมัยนั้นคนผิวดำจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเล่นสวนสนุกทั้ง 2 แห่งที่มีในนิวยอร์กได้ แต่สุดท้ายการก่อสร้างก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะถูกคัดค้านโดยหน่วยงานกลางของรัฐเอง

  • ช่วงปี 1950 เกาะก็ถูกปรับพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเป็นศูนย์พักพิงสำหรับคนไร้บ้าน รองรับได้ประมาณ 2,000 คน แต่ดำเนินการได้ถึงปี 1954 ก็ต้องล้มเลิกไป เพราะถูกชาวเมืองจากเกาะใกล้เคียงร้องเรียน ในปี 1955 จึงถูกเปลี่ยนให้เป็นศูนย์บำบัดผู้ติดสุราเรื้อรัง

 

 

จากเกาะเอนกประสงค์ สู่สุสานเต็มตัว

 

     แต่เดิมที่พื้นที่ที่ใช้สำหรับฝังศพนั้นมีประมาณ 1 ใน 3 ของเกาะ แต่จากจำนวนศพที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้ทางรัฐขยายพื้นที่สุสานไปเรื่อยๆ เช่นกัน จนปัจจุบันมันมีพื้นที่ถึง 0.53 ตารางกิโลเมตร ถูกจัดให้เป็นเป็นสุสานที่จัดตั้งโดยภาษีประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา (Largest tax-funded cemetery in the United States) ถึงปี 2000 ก็มีร่างไร้วิญญาณอยู่ในผืนดินของเกาะแห่งนี้กว่าล้านศพแล้ว โดย 1 ใน 3 เป็นศพของเด็กทารก และเด็กกำพร้า

 

     ศพที่ถูกนำมาฝังนั้นจะมีการแยกโลงบรรจุให้อย่างดี มีโลงทั้งหมด 7 ขนาด ก่อนฝังก็จะมีติดหมายเลข อายุ เชื้อชาติ และสถานที่ที่พบศพ เพื่อสะดวกต่อการสืบค้น โดยมีการว่าจ้างนักโทษจากเรือนจำมาเป็นผู้ฝังศพให้

 

     ก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกาะฮาร์ทก็ถูกเลือกให้เป็นที่ฝังศพติดเชื้อเช่นกัน เช่นในช่วงปี 1980 ที่โรคเอดส์ระบาดหนักในอเมริกา และปี 2008 ที่โรคไข้หวัดใหญ่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20,000 ราย

 

 

เรื่องลี้ลับ ชวนหลอนบนเกาะฮาร์ท

 

     ด้วยความที่เกาะนี้ไม่ใช้พื้นที่สาธารณะ มีการจำกัดสิทธิ์การขึ้นเกาะ ทำให้เรื่องราวชวนขนลุกบนเกาะนี้ส่นวใหญ่จะมาจากปากของนักโทษจากเรือนจำ ที่ได้ไปทำหน้าที่ฝังศพนั่นเอง ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบรรยากาศที่นั่นเย็นยะเยียบชวนผวามาก มีความรู้สึกเหมือนถูกคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมักจะได้ยินเสียงกระซิบแว่วๆ อยู่บ่อยๆ โดยมักเป็นเสียงเด็กมากกว่าเสียงผู้ใหญ่ ซึ่งก็สอดคล้องกับรายงานที่ว่าศพส่วนใหญ่บนเกาะนี้เป็นศพเด็กนั่นเอง

===============

 

อ้างอิง :