ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างทำให้ผมอดเที่ยวปีใหม่กับชาวบ้านเขา หลังปีใหม่จึงวางแผนออกไหว้พระทำบุญต่างจังหวัดซักหน่อย โดยทริปนี้ตั้งเป้าไปที่จังหวัดอ่างทอง จังหวัดเล็ก ๆ ใกล้กรุงที่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยือน เมื่อกำหนดจังหวัดและจุดประสงค์ในการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ท จากข้อมูลที่เจอผมก็สะดุดตาเข้ากับวัดแห่งหนึ่งด้วยความที่เป็นคนเกิดวันเสาร์ และเกิดปีเถาะ ทำให้ผมสะดุดตากับพระพุทธรูปปางนาคปรก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประจำคนเกิดวันเสาร์ แถมชื่อวัดก็มีกระต่าย เหมือนสัตว์ประจำปีเกิดอีกด้วย ผมเลยไม่ลังเลที่จะเดินทางไปที่วัดแห่งนี้ สำหรับกุศโลบายที่แฝงอยู่ในพระปางนาคปรกอย่างย่อนั้นที่เล่าต่อกันมา มีอยู่ว่า พญานาคราช ชื่อมุจลินทร์ได้ขดตัวเป็นแท่นประทับและแผ่พังพานเพื่อปกป้องมิให้ลมฝนและหยดน้ำกระเซ็นมาโดนพระองค์ เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า การกระทำความดีนั้นสามารถกระทำได้ ไม่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นยังไง เมื่อได้สัมผัสกับวัดแห่งนี้ นอกจากจะได้กราบขอพรหลวงพ่อแก่นซึ่งเป็นพระปางนาคปรกแล้ว ยังจะได้เห็นว่า ที่มุมของโบสถ์เก่าสมัยอยุธยานั้น มีต้นโพธิ์ขึ้นทั้ง 4 มุม โดยต้นโพธิ์ทั้ง 4 นั้น ได้แผ่รากไปยึดผนังเก่าของโบสถ์ไว้ราวกับว่าจะป้องกันไม่ให้กำแพงโบสถ์ที่เก่าแก่ ผุพังลงมา และใบของต้นโพธิ์ทั้งสี่ ก็ได้ยื่นเข้าหากัน ปกคลุมให้ร่มเงาให้แก่พื้นที่ภายในโบสถ์ แทนหลังคาเก่าที่ผุพังจนไม่เหลือ ช่างมีความคล้ายคลึงกับพญานาคที่ปรกพระพุทธเป็นอย่างมากและภายในโบสถ์ยังมีพระประธานองค์ใหญ่คือ หลวงพ่อวันดี และองค์รองสององค์ คือหลวงพ่อศรี และหลวงพ่อสุข ให้เราได้กราบไหว้ขอพรอีกด้วย และบริเวณรอบ ๆ มีชาวบ้านเข้ามาขายสินค้าท้องถิ่นและสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาไหว้พระที่วัดแห่งนี้ แต่นักท่องเที่ยวยังมีแวะเวียนมาไม่มากนัก จึงอยากจะเชิญชวนทุก ๆ คนแวะมาไหว้ขอพรหลวงพ่อกันเยอะ ๆ นะครับ โดยเฉพาะชาววันเสาร์ วัดนี้ช่างเป็นวัดที่เหมาะแก่การมาสักการะขอพรพระประจำวันเกิดอย่างที่สุด