สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทยของเรานั้นยังมีอีกมากมายหลายแห่ง ที่งดงามน่าค้นหา และยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ถ้าเป็นสมัยก่อนอาจจะเพราะการสื่อสารยังไม่ทั่วถึง ใครเป็นนักเที่ยวต้องหาอ่านตามนิตยสารท่องเที่ยวฉบับต่าง ๆ หรือดูตามเว็บบอร์ดเกี่ยวกับท่องเที่ยวไทย แต่สมัยนี้ในยุคโซเชียลมีเดีย 4.0 นั้นเราจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถค้นหาได้หมด เจอรีวิวมากมาย บนถนนสาย 1095 จาก “เมืองสามหมอก” แม่ฮ่องสอนไปอำเภอปายนั้น ยังมีที่เที่ยวระหว่างทางรอต้อนรับผู้มาเยือน "บ้านรักไทย" ก็เป็นหนึ่งในนั้น การจะไปบ้านรักไทยนั้นเดินทางไปทางเดียวกับไปปางอุ๋ง หรือโครงการพระราชดำริอ่างเก็บน้ำปางตอง หากย้อนกลับไปในอดีต ที่บ้านรักไทยแห่งนี้เป็นดินแดนประวัติศาสตร์การสู้รบของทหารจีน สังกัดกองพล 93 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ก๊กมินตั๋ง แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นหมู่บ้านของชาวไทยและชาวจีนยูนนาน ภายใต้ชื่อ "บ้านรักไทย" ตั้งอยู่ที่ ต.หมอกจำแป่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลาย ๆ พื้นที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นดินแดนที่ผสมผสานวิถีชีวิต เป็นพหุวัฒนธรรมของคนท้องถิ่น เป็นแผ่นดินของการอยู่ร่วมกันของเหล่าชาติพันธุ์ต่าง ๆ ที่บ้านรักไทยนี้ก็เช่นเดียวกัน นอกจากอากาศจะเย็นสบายตลอดปี คนที่นี่มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชเมืองหนาว ทำไร่ชา และใช้ชีวิตแบบวิถีเรียบง่าย หากใครได้มาเยือนบ้านรักไทยก็จะได้กลิ่นอายวัฒนธรรมที่ผสมกลมกลืนกัน ผ่านความเป็นอยู่ ประเพณีการดื่มชา และอาหารการกิน หากขับรถมาบ้านรักไทย ใช้เส้นทางได้สองทาง คือ เส้นทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน จากอำเภอฮอด-แม่สะเรียง-ขุนยวม หรือจากอำเภอแม่แตง-แม่มาลัย-ปาย-ปางมะผ้า การขับขี่ทั้งสองเส้นทางนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีโค้งสลับทางลาดชันเป็นจำนวนมาก จากเมืองแม่ฮ่องสอนถึงบ้านรักไทยระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใครที่ชอบท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์วิทยา หรือเชิงวัฒนธรรม มาที่บ้านรักไทยรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ที่นี่มีบ้านพักหลายแห่ง มีร้านอาหารสไตล์จีนยูนนานหลายร้าน ใครชอบขาหมูหมั่นโถว ผัดผักแบบยูนนาน ก็น่าจะมีความสุขเป็นสองเท่าไปเลยทีเดียว เราเดินชมวิวไปรอบ ๆ หมู่บ้าน เดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็หยุดพักแวะจิบชา เพราะร้านขายชามีเรียงรายตลอดสองข้างทาง มีบริการเทสฟรีทุกร้าน คนที่มาแบบเราไม่ค่อยรู้จักพันธุ์ชาหรอกว่าพันธุ์ไหนเป็นอะไรอย่างไรบ้าง แค่จิบแล้วหอมสดชื่นก็พอแล้ว ที่เหลือก็ฟังคำแนะนำจากเจ้าของร้านเอา แต่เท่าที่เดินเข้าเดินออกอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่ก็แนะนำอยู่ไม่กี่ชนิด เช่น ชาหอมหมื่นลี้ ชาอู่หลงยอดน้ำค้าง ชาดอกมะลิ ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามสรรพคุณและความหอมสดชื่น คนท้องถิ่นที่นี่ปรับตัวเข้ากับการท่องเที่ยวมากพอสมควรเลย ยิ้มแย้มพูดคุยทักทายเชิญชวนให้เข้าพัก หรือไปขี่ม้าชมไร่ชมสวนอยู่ตลอดเวลา แต่เพราะเราไม่ได้มีโปรแกรมจะพักที่ บ้านรักไทย แห่งนี้ ก็เลยเดินเล่นเพลิน ๆ อยู่จนเวลาประมาณบ่ายโมงกว่า ๆ ก็ต้องออกเดินทาง แต่จากที่ทำการสำรวจโดยรอบแล้ว สรุปได้ว่าหากมีโอกาสก็น่ามานอนเล่น ๆ กินบรรยากาศสักคืนสองคืนถึงจะเที่ยวได้ทั่ว ความประทับใจบางครั้งก็มาโดยที่เราไม่ได้คาดหวังไว้ก่อนหรอกนะ บรรยากาศบ้านรักไทยนั้นมองไปทางไหนก็สดชื่น ทะเลสาบกว้างสุดตา ภูเขาสีเขียว ๆ ลมพัดเย็นสบาย เสียงของความสุขได้ยินอยู่รอบ ๆ ตัวตลอดเวลา ผ่านบ้านลุงคนนึงเลยขอเข้าไปสำรวจที่พักดูสักหน่อยเผื่อมาใช้บริการคราวหน้า ที่พักของแกอยู่ริมน้ำเลย มีชานบ้านยื่นออกไปจากตลิ่งนิดหน่อย เช้า ๆ คงมีหมอกขาวแตะเรี่ยผิวน้ำไม่ต่างจากที่ปางอุ๋งเท่าไหร่หรอก มีหนังสือดี ๆ สักเล่มสองเล่ม คงนั่งอ่านนอนอ่านอย่างสบายใจไปทั้งวัน แค่คิดก็จินตนาการไปไกลแล้วว่าจะมีอะไรน่าอยู่ไปกว่านี้อีกเล่า เพราะบางทีชีวิตของคนเราจริง ๆ นั้น ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมาประดับตกแต่งให้มันยุ่งยากวุ่นวาย ภาพปก ภาพประกอบโดยผู้เขียน