ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างต้องไปเยี่ยมชม ก็คงจะเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง หรือสถานที่เก่าแก่ที่แสดงออกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นรวมไปถึงปราสาทต่างๆมากมายที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงามตามเมืองต่างๆทั่วประเทศ ที่ดึงดูดให้พวกเราไปเที่ยวชมวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยว ปราสาทที่ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้เป็นมรดกโลก และได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นนั่นคือ ปราสาทฮิเมจิ "Himeji Castle" , 姫路城, Himeji-jō = ฮิเมจิโจ หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกอีกชื่อว่า "ปราสาทนกกระสาขาว"ปราสาทฮิเมจิ ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะค่ะ เราพักในตัวเมืองเกียวโต วันที่จะเดินทางออกไปเมืองฮิเมจิ เราจะไปซื้อตั๋วรถไฟกันที่สถานีเกียวโตก่อนค่ะ การไปฮิเมจิ สามารถไปโดยรถไฟของ JR หรือชินคันเซ็นก็ได้ค่ะ แต่เราเลือกไปของ JR ค่ะ ถึงจะช้ากว่าหน่อย แต่เราตั้งใจจะชมวิวเมืองข้างทางไปเรื่อยๆจ้า ตั๋วรถไฟสามารถซื้อเองได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษให้เลือกนะคะ สามารถใช้เงินสดหรือจ่ายด้วยบัตร ICOCA ก็ได้ค่ะถ้าไปรถไฟ JR เหมือนเรา รถไฟจะออกไปตามเส้นทาง JR Kyoto Line (สายสีฟ้าเข้ม) นี้เลยนะคะ สำหรับคนที่เดินทางออกจากเกียวโตไปฮิเมจิเหมือนเรา นั่งรถไฟของ JR คนจะแน่นๆสักหน่อยช่วงออกจากสถานีเกียวโตค่ะ แต่คนก็จะทยอยลงไปเรื่อยๆ และลงมากที่สุดที่สถานี shin osaka กับ osaka ค่ะ เพราะฉะนั้นเรามีที่นั่งแน่นอนจ้า เมื่อซื้อตั๋วแล้วก็เข้าไปรอขึ้นรถไฟตามหมายเลขชานชาลาที่ขึ้นโชว์บนจอได้เลยนะคะราคาตั๋วเที่ยวละ 2,310 เยน / ไปกลับจะตกคนละ 4,620 เยนค่ะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที นั่งจนถึงสถานีฮิเมจิ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายเลยจ้าพอเราลงรถไฟมาก็เดินเข้ามาที่สถานีจะ มีป้ายทางออกมาด้านนอกเพื่อไปปราสาทฮิเมจิชัดเจนค่ะ ออกมาแล้วใครอยากได้ภาพถ่ายเมืองที่เป็นถนน main หลักใจกลางเมืองทอดยาวตรงไปสุดที่ปราสาทฮิเมจิเป็นฉากหลัง ให้ขึ้นบันไดเลื่อนทางซ้ายมือขึ้นไปชั้น 2 มีลานก่อนเข้าห้างทุกคนก็จะพบกับภาพประจำเมืองของเค้าเลย สวยมากๆ แวะถ่ายรูปกันได้ค่ะวิธีไปปราสาทฮิเมจิ มีการขึ้น Local บัสและเดินไปค่ะแต่เราเลือกจะเดินไปค่ะ เพราะอยากถ่ายรูปเมือง สำหรับคนที่จะเดินไปเหมือนเราจะใช้เวลาจนถึงปราสาทประมาณ 20-25 นาทีระหว่างทางที่เดินไป มีอะไรให้ชมได้เรื่อยๆเลยค่ะ และเรามาช่วง เม.ย. เป็นช่วง Spring ดอกไม้เยอะและสวยมากกกกกกกกกและอากาศเย็นสบาย เดินไม่เหนื่อยเลย ^.^ มีทั้งดอกไม้และรูปปั้นงานศิลปะให้ดู บรรยากาศเมืองฮิเมจิ เมื่อเราเดินมาจนใกล้ถึงปราสาทแล้ว เราก็จะข้ามถนนเพื่อเข้าไปภายในบริเวณปราสาทกันบริเวณรอบๆปราสาทจะมีคลองใหญ่อยู่รอบ เพราะในสมัยก่อนใช้ป้องกันไม่ให้ศัตรูภายนอกบุกเข้ามาภายในปราสาทได้ง่ายนั่นเองค่ะเราก็จะพบกับนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วล่องเรือ นั่งเรือชมรอบๆปราสาทแบบนี้เลยค่ะ บรรยากาศดีมากๆ ^.^เมื่อเข้ามาด้านในจะยังไม่ถึงที่ซื้อตั๋วนะคะ เราจะเจอบริเวณสนามหญ้ากว้างๆ ที่มีฉากหลังเป็นปราสาทตั้งตะหง่านอย่างอลังการ ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปค่ะ เพราะรอบๆสนามจะเป็นต้นซากุระทั้งหมดเลย ใครที่มาทันตอนช่วงซากุระบาน จะสวยมากๆ ยังมีซากุระเหลือให้ดูอยู่บ้างเดินชมรอบนอกแล้ว เราเดินขึ้นไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปชมด้านในปราสาทกันสามารถซื้อกับพนักงานก็ได้หรือ ซื้อที่ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติก็ได้ ซื้อง่ายมากเพราะมีเมนูภาษาอังกฤษเราสามารถเลือกเป็นตั๋วชมปราสาทฮิเมจิอย่างเดียว หรือ ตั๋วปราสาท + สวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden)ได้ค่ะแต่ถ้าหากเพื่อนๆ จะไปชมสวนโคโคเอ็นด้วยนั้น ซื้อรวมไปเลยจะได้ราคาถูกกว่า รวมกันในราคา 1,050 เยนเพราะหากไปซื้อตั๋วแยกที่ทางเข้าสวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden)จะต้องจ่าย 300 เยนเมื่อได้ตั๋วแล้วเราก็เดินตามป้ายเพื่อเข้าชมด้านในปราสาทกัน ทางจะคดเคี้ยวสักหน่อยค่ะ ด้วยเหตุผลเรื่องการป้องกันศัตรูจากภายนอกเช่นเดิม และทางเดินจะเหมือนการขึ้นเขาเบาๆ ค่ะ^.^//เมื่อเราเดินวนตามทางไปเรื่อยๆ จะถึงบริเวณขึ้นด้านบนปราสาทบริเวณนี้ทุกคนจะต้องถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ และถือถุงนี้ติดตัวขึ้นไปด้วย ตอนลงมามีจุดให้นั่งใส่รองเท้าและคืนถุงค่ะการจะขึ้นไปถึงชั้นบนสุด บันไดจะชันขึ้นไปเรื่อยๆ ใครที่จะขึ้นไปจนสุด เตรียมหัวเข่าไว้ด้วยนะคะ 5555ระหว่างทางเดินขึ้น เราก็สามารถชมวิวด้านอกจากหน้าต่าง และถ่ายรูปได้ ขึ้นไปจนสุดจะเป็นศาลเจ้าให้เราไหว้ขอพรกันได้ค่ะ และจะมีเจ้าหน้าที่ประจำการคอยแนะนำเราอยู่เสร็จแล้วก็ลงมาด้านล่าง เราจะเดินต่อไปด้านหน้าปราสาท จะเป็นลานกว้างๆ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทได้ แต่จะต้องถ่ายเป็นมุมสูงสักหน่อยนะคะพอเราเดินลงตามทางไปเรื่อยๆ จะเจอบ่อน้ำผีนับจานในตำนานค่ะบ่อลึกมากและมีคนโยนเหรียญลงไปในบ่อเต็มเลยเมื่อเราลงมาจนถึงประตูเดิมที่เราเข้ามา อยากแนะนำให้เพื่อนๆ เดินขึ้นทางเดินฝั่งแนวรั้ว เพื่อไปที่สวนด้านหน้าปราสาทกัน ที่บริเวณสวนนี้ เราสามารถถ่ายภาพโดยมีปราสาทเป็นฉากหลังได้สวยมากๆเลย เป็นจุดที่ชอบมากๆค่ะด้านในกำแพงสามารถเดินเข้าไปชมได้นะคะ ต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นและเดินชมนิทรรศการภายในได้เลยเมื่อลงจากกำแพงปราสาท จะเจอกับร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ สามารถแวะชมได้น๊าาาา หรือเพื่อนๆ จะไปซื้อบริเวณทางออกก็มีร้านเยอะเหมือนกันค่ะ เราได้พวงกุญแจน้องฮิเมจิมา 1 ตัว น่ารักมากๆ ^^พอเราออกจากปราสาทแล้ว เราได้ไปสวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden) ต่อค่ะ สวนจะอยู่ด้านข้างติดกับปราสาทเลย เราต้องเดินออกมาด้านนอก แล้วเดินเรียบคลองรอบปราสาทไปทางขวามือ จะเจอจุดที่ซื้อตั๋วล่องเรือ และเราเดินตรงขึ้นไปอีกก็เจอสวน โคโคเอ็น (Kokoen Garden) แล้วค่ะสวนโคโคเอ็น (Kokoen Garden) เป็นสวนสไตล์ดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ข้างในมีต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ ร่มรื่น เงียบสงบมากๆภายในจะแบ่งเป็นโซนค่ะ โซนป่าไผ่ โซนดอกไม้ โซนสวนสน เป็นต้น สำหรับคนที่ชื่นชอบดอกไม้ ต้นไม้ ต้องมาชมให้ได้เลยสำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋วมา ต้องซื้อตั๋วที่ทางเข้า 300 เยนนะคะบรรยากาศภายในสวนก็จะประมาณนี้เลยค่ะอ่านจบแล้วหากเพื่อนๆคนไหนได้เดินทางมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและชื่นชอบสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแบบนี้ ปราสาทฮิเมจิก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่อยากแนะนำเพื่อนๆ ให้มากันนะคะ สามารถไปเช้า เย็นกลับได้เลย เป็นเมืองที่บรรยากาศน่ารักมากๆ เดินทางจากเมืองใหญ่ได้สะดวกสุดๆค่ะเครดิตภาพถ่ายโดยนักเขียนภาพปกโดยนักเขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !