สวัสดีครับท่านนักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่อง แบบวัด ๆ มานำเสนออีกแล้วครับท่านรับรองว่าหากได้มาแล้วไม่ผิดหวังแน่นอนครับ วัดนี้เป็นอีกวัดหนึ่งที่ผู้เขียนภูมิใจนำเสนอมาก ๆ เพราะเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 9 พระองค์ได้โปรดเกล้าพระราชทานที่ดินสำหรับสร้างวัด วัดที่ว่านี้เป็นที่มีเสนาสนะ สร้างเป็นแบบศิลปะแบบจีนมาดูกันครับว่าวัดที่ว่านี้อยู่ที่ใด สำหรับวัดที่ว่านี้คือ “วัดจีนบ้านยาง” เป็นวัดที่สังกัดนิกายมหายาน ตั้งอยู่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง เชียงใหม่ ติดกับโครงการหลวงฯ การเดินทางหากเดินทางมาจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ตรงมาจนกระทั่งถึงแยกทางเข้าดอยอ่างขางเลี้ยวซ้าย และขับตรงไปตามป้ายจะพบกับจุดหมายโดยก่อนถึงวัดจะพบกับร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์โครงการหลวงฯ และโครงการหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 1 (ฝาง) หมู่บ้านโดยรอบวัดจะเป็นคนไทย (จีนยูนาน) สภาพของหมู่บ้านจะมีความเป็นเอกลักษณะในสิ่งก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นบ้านที่อยู่อาศัย ศาลา ประตู สิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่มีลักษณะกลมกลืนกับวัฒนธรรมของชนชาติจีนยูนาน รวมถึงวัดที่ผู้เขียนกำลังจะนำเสนอนี้มาดูกันครับว่าแต่ละจุดภายในวัดมีความสวยงามขนาดไหน จุดที่หนึ่ง ทางขึ้นครับวัดนี้จะขึ้นได้สองทางครับคือสามารถเดินขึ้นโดยบันได และขับรถขึ้นไปได้เลยพื้นที่ของวัดจะตั้งอยู่บนเขา สงบ ร่มเย็น สวยงามมาก อีกทางจะมีบันไดขึ้นหากท่านมาถึงแล้วหากมีความประสงค์จะขึ้นทางบันไดท่านสามารถเอารถไปจอดไว้หน้าโครงการหลวงฯ ได้เลยฯ บันไดที่เดินขึ้นสองข้างซ้าย-ขวาจะเป็นรูปปั้นมังกรทองครับ พาดตัวยาวขนานไปกับบันไดจึงถึงด้านบน (ตรงนี้จะมีความต่างครับซึ่งหากเป็นวัดไทยมักจะเป็นพญานาค...อิอิ...) เมื่อขึ้นบันไดมาก่อนจะเข้าไปยังบริเวณวัดจะผ่านซุ้มประตูสีแดงเป็นสัญลักษณ์ให้ทราบหมุดหมายว่าถึงแล้ว และจะเข้าสู่บริเวณเขตพุทธาวาสแล้ว จุดที่สอง เมื่อเข้ามาสู่บริเวณวัดแล้วจะพบกับป้ายบอกความเป็นมาในการจัดสร้างวัดแห่งนี้โดยตรงป้ายได้จารึกไว้ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ที่ดินแปลงนี้สำหรับสร้างวัดนี้ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2524” และบริเวณตรงข้ามกับป้ายนี้จะพบกับพระวิหารหลังใหญ่ประดับตกแต่งเป็นแบบลวดลายจีนภายในพระวิหารแห่งนี้หากท่านเข้าไปจะพบกับสังฆารามปาละโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์กวนอิม พระพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลังใหญ่นี้ซึ่งเป็นจุดแรกที่ทางวัดกำหนดให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปจุดธูปกราบสักการะขอพร (ทางวัดจะกำหนดจุดไหว้ไว้ 5 จุดซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรก) จุดที่สาม ศาลาเทพเจ้าจีนเป็นศาลาทรงจีนเป็นศาลาที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าจีนหลายองค์ เช่น จางทิงย่ง-เฉินเจียจิ๋ง-เฉินเจียชิง เป็นต้น ท่านสามารถเข้าไปกราบขอพร ขอโชคลาภได้รับรองสมปรารถนาทุกราย...อ่อด้านหลังศาลาหลังนี้ยังมีจุดชมวิวที่หากมองลงมาแล้วจะเห็นวิวของบ้านยาง และเห็นตัวอาคารโครงการหลวงฯ ผู้เขียนแนะนำให้มาตอนเช้าเพราะอากาศดีมาก จุดที่สี่ ศาลาองค์เทพเจ้ามังกรผู้ดูแลน้ำ และขุนเขา เนื่องจากตามตำนานที่เคยได้ยินการเล่าสืบต่อกันมาว่าในความเชื่อของชาวจีนกับมังกรจะมีความผูกพันกัน (ผู้เขียนว่าน่าจะเหมือนกับคนไทยกับพญานาค...ประมาณนั้น) โดยชาวจีนเชื่อว่ามังกรเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสัตว์แห่งเทพเจ้าในสรวงสวรรค์ และเป็นตัวแทนของจักรพรรดิผู้เป็นโอรสจุติมาจากสวรรค์ เทพมังกรนี้จะเป็นผู้ดูแลแม่น้ำ สร้างความอุดมสมบูรณ์ ร่มเย็นให้แก่มนุษย์ และชาวจีนจึงมีความเชื่อว่าหากผู้ที่ได้พบเห็นมังกรจะถือว่าเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง-ครอบครัวดังนั้น ภายในวัดแห่งนี้จึงมีรูปปั้นของเทพเจ้ามังกรเมื่อมาแล้วอย่างพลาดต้องกราบสักการะให้ได้ จุดที่ห้า ศาลาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ แปลว่า “ขุมทรัพย์แห่งแผ่นดิน” หรือ “ครรภ์แห่งแผ่นดิน” เป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนามหายานโดยพุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่า พระกษิติครรภมีปณิธานสำคัญในการช่วยสัตว์โลกให้พ้นจากนรกว่า “หากนรกยังไม่ว่างจากสัตว์นรกก็จะยังไม่ขอตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า” ด้วยเหตุนี้พระกษิติครรภโพธิสัตว์จึงเป็นที่นับถือของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมากโดยมีความเชื่อว่าหากได้มาสักการะขอพรจะมีแต่ความสุข ความเจริญ ไปที่ใดก็จะแคล้วคลาด ปลอดภัยไม่มีภยันตรายอันใดมาทำร้ายได้ (หากนักท่องเที่ยวหลายท่านเคยไปวัดจีนหลายแห่งก็มักจะมีรูปปั้นพระกษิติภรรภโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่) เป็นไงหละครับ...บอกได้คำเดียวว่า..แจ๋วจริงนะเธอ...อย่างเธอต้องยกให้...อิอิ เอาหละครับสำหรับท่านที่เดินทางมาท่านจะได้ยกกำลังสองต่อครับ อย่างแรกก่อนขึ้นไปสักการะขอพรพระบนวัดท่านแวะเที่ยวชมร้านค้าผลิตภัณฑ์โครงการหลวงฯ ก่อนซึ่งมีผลิตภัณฑ์ของฝาก ของขบเคี้ยวอร่อย ๆ มากมาย อย่างที่สองเมื่ออิ่มท้องแล้วก็มาอิ่มบุญกันต่อ...ปะไปกันเลย สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับจะรีบไปไหว้พระ...ธรรมสวัสดีครับ เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)