สวัสดีค่าาา~ และแล้วเดือนเมษายนก็ผ่านพ้นไป แต่ความร้อนแรงของฤดูกาลยังคงอยู่ อุณหภูมิของประเทศไทยที่ตอนเช้าแผดเผาราวกับกำลังขี่อูฐอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่า ส่วนตอนกลางคืนนั้น สายฝนก็กระหน่ำเทลงมาอย่างไม่บันยะยันยัง ถึงจะเย็นแค่ตอนกลางคืน แต่พอถึงตอนเช้าก็กลับมาร้อนอีกล่ะ วันนี้ผู้เขียนก็จะมาแนะนำสถานที่ดับร้อน ที่เย็นฉ่ำ พร้อมกับใกล้ชิดธรรมชาติฝุด ๆ มาฝากค่ะ ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ ‘อ่างน้ำผุด’หน้าร้อนทั้งที ผู้เขียนได้มีโอกาสล่องใต้ ไปเที่ยวสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคนรู้จักของผู้เขียนเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน จึงได้พาไปเล่นน้ำดับร้อนที่สถานที่ท่องเที่ยวใกล้บ้านค่ะ สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า ‘อ่างน้ำผุด’ ตั้งอยู่ในตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งของคนในพื้นที่ ตามสไตล์ภาษาถิ่นใต้ สั้นห้วน กระชับ เป็นตำบลบางหวันพอมาถึงอ่างน้ำผุดแล้ว บริเวณโดยรอบจะมีร้านค้ามากมาย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว รับรองว่านอกจากจะเล่นน้ำให้ชื่นใจแล้ว ยังต้องอิ่มจนพุงกางกลับไปแน่ค่ะ โดยปากทางเข้าอ่างน้ำผุด จะมีซุ้มเก็บค่าบริการ คนละ 20 บาทเท่านั้นค่ะ ไม่จำกัดเวลา พอเข้ามาถึงข้างใน ก็ต้องร้องว้าว บรรยากาศธรรมชาติสุด ๆ น้ำใสมรกตสวยมาก ใสจนเห็นตัวปลาเลยค่ะ สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์สาเหตุที่ได้ชื่อว่าอ่างน้ำผุดคงเป็นเพราะว่ามีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติป่าต้นน้ำ นั่นคือตาน้ำจำนวนมากที่ผุดจากใต้ดินมากกว่า 10,000 จุด จนดูเหมือนกับน้ำกำลังเดือด เป็นสิ่งที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ผู้เขียนยังตื่นตาตื่นใจจนต้องร้องว้าวนอกจากความว้าวของน้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นทรายแล้ว ที่นี่มีบ่อเล่นน้ำแบ่งแยกไว้สองโซน นั่นคือโซนเด็กและโซนผู้ใหญ่ นักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่กันเยอะมากค่ะ โดยส่วนใหญ่จะมาแบบครอบครัว เพื่อนฝูง เล่นน้ำสนุกสนานเฮฮา นอกจากจะได้มีความสุขกับการเล่นน้ำแล้ว ชาวบ้านที่อ่างน้ำผุดยังมีบริการเช่าเรือคายัก ให้นักท่องเที่ยวพายเรือชมเส้นทางธรมชาติป่าพรุ ในช่วงหน้าร้อน ค่าบริการประมาณร้อยกว่าบาทผู้เขียนได้มีโอกาสได้ลองพายเรือชมธรรมชาติกับบรรดาเด็ก ๆ ซึ่งฝีมือการพายของผู้เขียนนั้นเรียกได้ว่ายังอ่อนหัด เรือจึงหมุนกลับหัว กลับหาง ทุลักทุเล ถึงจะลำบาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ และเรียกรอยยิ้มจากผู้เขียนได้ไม่น้อย สองข้างทางอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีทั้งผักชีน้ำ ต้นเตยยักษ์ และไม้ยืนต้นหลายชนิด สาวนในน้ำนั้นเต็มไปด้วยสาหร่ายหางกระรอกที่พลิ้วไหวไปตามกระแสน้ำ บรรยากาศสองฝั่งน้ำสงบร่มรื่นมาก ๆ ได้ยินเสียงนกร้อง ราวกับได้หลุดมาอยู่ในป่าที่แท้ทรูเมื่อพายเรือจนสุดเส้นทางการชมธรรมชาติแล้ว จะมีจุดเช็คอินที่ปลายแม่น้ำ เป็นจุดกลับเรือด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ชวนให้ประทับใจจริง ๆ ระหว่างทางเราเจองูปล้องทองกำลังนอนอยู่บนคาคบไม้ด้วย ชวนขนลุกเหนียวเลย แต่ก็คิดว่านี่คือธรรมชาติ บ้านของงู ถ้าเราไม่รุกรานเขา เขาก็ไม่มารุกรานเราค่ะ สุดท้ายก็ถึงเวลาพายเรือไปคืนระหว่างทาง เราเจอนักท่องเที่ยวแวะเก็บต้นผักชีน้ำ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อผักชีล้อมที่ขึ้นอยู่ข้างทางด้วย ได้ไปเป็นกำใหญ่เลย ซึ่งชาวบ้านที่เป็นเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เก็บกลับไปได้ โดยผักชีน้ำสามารถนำไปทำได้หลายเมนู เรียกได้ว่าเป็นการพายเรือที่คุ้มจริง ๆและแล้วก็ได้เวลาที่ต้องกลับบ้าน หลังจากที่ผจญภัยมาทั้งวัน ฮ่าฮ่าฮ่า พอได้เล่นน้ำแล้วหายร้อนเลย รู้สึกหนาวขึ้นมาทันที เป็นอีกวันที่คุ้มค่า คุ้มเวลาจริง ๆ พอได้ปลีกกายจากเมืองหลวงมาสัมผัสธรรมชาติที่ต่างจังหวัด รู้สึกหายเหน็ดเหนื่อยเลยล่ะค่ะ หากใครกำลังมีแพลนที่จะมาเที่ยวภาคใต้ อ่างน้ำผุดบางสวรรค์คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ผู้เขียนแนะนำเลยค่ะ สวยตรงปก ไม่จกตา แล้วคุณผู้อ่านจะหลงรักปักษ์ใต้เหมือนผู้เขียนเรื่องและภาพโดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !