เมืองไทยคือเมืองน่าเที่ยวใครหลายคนก็ยอมรับไม่ว่าไทยหรือเทศ วันนี้เลยขอพูดเรื่องเที่ยวหน่อย โดยที่เที่ยวตอนนี้จะเป็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรีและของดีคือชมวิวรถไฟลอยน้ำ เดินทางโดยรถไฟ และตอนนี้จะขอเน้นชีวิตบนรถไฟก่อนนะ รถไฟสายกรุงเทพ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี นั้นไม่ได้มีตลอดต้องคอยเช็คข่าวสารว่าจะเปิดเมื่อไหร่ วิธีการจอง จองได้ที่ thairailwayticket หรือ ที่หน้าสถานี สายด่วน 1690 ตั๋วแบบรถไฟธรรมดา ขึ้นที่กรุงเทพ ราคา 270 บาท ขึ้นที่สถานีแก่งคอย สระบุรี ราคา 110 บาท ถ้าระยะสั้นขึ้นที่แก่งเสือเต้น – เขื่อนป่าสัก เพื่อชมวิวรถไฟลอยน้ำ ราคา 60 บาท 2. ตั๋วแบบรถไฟปรับอากาศ ขึ้นกรุงเทพ ราคา 470 บาท ขึ้นที่สถานีแก่งคอย สระบุรี ราคา 210 บาท ถ้าระยะสั้นที่แก่งเสือเต้น – เขื่อนป่าสัก เพื่อชมวิวรถไฟลอยน้ำ ราคา 160 บาท ตั๋วในตอนนี้จะเป็นพัดลมธรรมดาเพื่อชื่นชมธรรมชาติ และขึ้นสถานีหลักสี่ โดยรถไฟออกจากหัวลำโพง 07.10 น. ถึงหลักสี่ก็ประมาณ 08.00 น. ออกบ้านได้สายหน่อย โดยที่สถานีหลักสี่จะไม่ใหญ่มาก แต่มีผู้คนมาใช้บริการมากมาย พอรถไฟมาถึงก่อจะมีเสียงแตรอย่างที่ทุกคนเคยได้ยิน และก่อนขึ้นรถไฟดูเลขที่ตั๋วให้ดีนะ ดูเลขได้ที่ตั๋วจะได้ไม่ไปผิดขบวน แต่ถ้าให้ดีถามนายสถานีก็ได้ และเวลารถไฟมาก็อยู่หลังห่างเส้นขาวกันนะ โดยช่วงเวลาที่เดินทางครั้งนี้มีคนเดินทางไปมากเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเส้นทางนี้ไม่ได้เปิดตลอด และแล้วรถไฟก็มาถึง เตรียมของสัมภาระที่จะเดินทางไปเที่ยวให้เรียบร้อย และขึ้นรถไฟได้เลยไปที่โบกี้ตัวเอง และจับจองที่นั้ง โดยข้างหน้าต่างวิวดีแน่นอน เดินทางไปยัง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรีนั้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เตรียมที่ชาร์จแบตให้ดี เพราะต้องได้ถ่ายรูปเก๋ๆบนรถไฟ และวิวของนอกก็ดีมากๆ และถ้าพกขนมหรืออาหารว่างมาทานพร้อมกับดูวิวข้างนอกไปด้วยนั้น รับรอบคุณจะฟิน(รู้สึกดี)จนขีดสุด พอออกจากกรุงเทพมาสักพัก วิวสองข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นธรรมชาติ ทุ่งหญ้าต่างๆ และยังสวน ไร่นา การเพราะปลูกเกษตรกรรมของชาวบ้าน ทำให้มองออกไปก็รู้สึกสบายใจและผ่อนคลาดความเครียดได้มากเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นเดินทางในช่วงเช้านั้นแดดไม่ร้อนเลย หลังจากเดินทางมาได้ประมาณ 3 ชม. และชมวิวธรรมชาติกันจนหน่ำใจเนื่องจากทางส่วนใหญ่เป็นป่าเป็นเขา ก็จะถึงจุดหมายที่ทุกคนเฝ้ารอ นั้นคือจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” ที่โคกสลุง ที่นี้คือไฮไลท์เลย เพราะรถไฟจะจอดที่กลางน้ำและให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป (แนะนำรอถ่ายรูปจังหวะทางโค้งรถไฟ รับรองได้รูปสวยๆแน่นอน) ถึงแม้ว่าการเดินทางโดยรถไฟส่วนใหญ่นั้นจะไม่ค่อยนิยมเท่าการขนส่งอย่างอื่น แต่ถ้าใครอยากสัมผัสธรรมชาติ และชีวิตสโลว์ไลฟ์ โดยไม่เร่งรีบอะไรมากมาย ก็ขอแนะนำให้ลอง เพราะเราจะมีเวลาดื่มด่ำสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตผู้คนบนขบวนหรือธรรมชาติข้างนอกรถไฟ อะไรเหล่านี้อาจทำให้เราเห็นมุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป