#เดินบนภูกระดึงคนเดียวเหงาไหม #เราจะมีเพื่อนคุยไหม ??#ใช้ชีวิตอยู่บนนั้นกี่วัน เอาล่ะ สวัสดีทุกคนอีกครั้ง ผม ZT เช่นเคยนะฮ่ะ และสำหรับบทความนี้ ผมก็จะเล่าเรื่องราวที่อยู่บนภูกระดึงต่อเลยละกันนะ หลังจากที่ผมได้ทำการลงทะเบียนและตรวจเช็คเอกสารอะไรต่าง ๆ เรียบร้อย ผมก็กำลังมองหาทางขึ้น ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่า งงมาก 555 เพราะไม่เคยมาไง ก็ทำเนียน ๆ เดินไปห้องน้ำบ้างอะไรบ้าง เผื่อมันจะเจอทางขึ้น แต่ไม่นานนักผมก็เจอทางขึ้น แต่... ก็จะขึ้นภู ผมก็ไปฝากกระเป๋าที่ลูกหาบก่อน ขาขึ้นผมฝากลูกหาบขนขึ้น ส่วนขาลงผมขนลงเอง พอจัดการฝากกระเป๋าอะไรต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาบรรเลงเพลงรัก เห้ยไม่ใช่ !! ได้เวลาขึ้นภูไปยังซำแรก ...ผมเริ่มเดินไปตามเส้นทาง เขาว่ากันว่าซำแรกที่เราจะไปคือซำแฮก ซึ่งไอก่อนที่มันจะถึงตรงนั้นแหละมันจะชันมาก ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ก็สบาย และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ผมรับรู้ได้ถึงความชัน แต่ก็ไม่ยากเท่าไหร่นัก ผมก็เดินต่อไปตามที่กำลังยังไหว (ต้องไหวแหละ เพิ่งเริ่มเองนะ 555) ก็เดินไปเรื่อย ๆ สวนทางกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นบ้างเป็นบางครั้ง .. ซักพักผมก็ไปถึงจุดหมายแรกของเรา นั่นก็คือ ซำแฮก อ๋อ .. ลืมบอกระยะทางจากตีนภูมายังซำแฮกมีทั้งหมดประมาณ 800 เมตร (ทางชัน)มาถึงซำแฮกซึ่งที่ต้องทำก่อนเลยคือกินแตงโมมม 555 ไอแตงโมก็รสชาติธรรมดานี่แหละ แต่จังหวะนั้นแม่งงงโครตอร่อยเลย เพราะเรากระหายน้ำไง บวกกับแสงแดดเริ่มร้อนขึ้นด้วย ผมก็เลยไปจัดมาเลย แตงโมแดง ๆ ฉ่ำ ๆ กับน้ำเปล่าอีกขวดนึง แล้วไปหามุมใต้ต้นไม้สงบ ๆ นั่งกินกัน ระหว่างนั้น ผมพยายามกวาดตาดูรอบว่าคนเยอะไหม จะบอกว่าเยอะมันก็ไม่เชิงนะ เอาเป็นว่ากลาง ๆ ล่ะกัน ก็.. คำแรกที่ได้กินแตงโม โอโหหหห้ สดชื่นมาก แบบสดชื่นจริง ๆ ไม่เคยคิดว่าแตงโมธรรมดา ๆ จะอร่อยได้ขนาดนี้มาก่อน 555 กินแตงโม จิบน้ำเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินตรงไปยังหน้าผาที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อชมวิวด้านล่างเมืองเลย บอกเลยว่าสวยมาก แต่ ... เพิ่งแค่ซำแรก เส้นทางอีกยาวไกลลลลหลังจากออกมาจากซำแฮก ผมก็เดินต่อไปเรื่อย ๆ คนเดียว อาจจะดูเหงา แต่ไม่เลยนะ จริง ๆ ผมชอบมากในตอนที่ตัวเองอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เงยหน้าขึ้นก็ต้นไม้ มองซ้ายขวาก็ป่าไม้ ลำธารน้อย คือชอบอะ ชอบจริง ๆ ดังนั้นผมจึงเพลินมาก ๆ เดินราวกับว่าอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ !!! 555 เป้าหมายต่อไป ซำบอนเดินมาเรื่อย ๆ บนระยะทาง 700 เมตร ผมก็มาถึงซำบอนเป็นที่เรียบร้อย จริง ๆ ระหว่างเดินมายังซำบอนนี่แทบไม่เหนื่อยเลย เพราะทางค่อนข้างสบาย ที่ซำบอนผมไม่ได้ใช้เวลามากนัก ทำให้ผมพักจิบน้ำเพียงแค่ 3-4 นาทีและเดินต่อไปเลย เป้าหมายต่อไปของผมคือซำกกกอกที่อยู่ห่างออกไปเพียง 360 เมตรและเช่นกัน ที่ซำกกกอกผมก็ไม่ได้แวะ และตัดสินใจเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านซำแล้วซำเล่า จนกระทั่งมาถึงซำกกโดนผมเลยแวะที่นี่เนื่องจากเริ่มกระหายและแขนขาเริ่มจะตึงแล้ว 555 ทันทีที่ถึงซำกกโดน ผมมองหาร้านอาหารก่อนเลย เพื่อจะเข้าไปนั่งพักและจิบน้ำไปพร้อม ๆ กัน คือผมจำได้ว่าตอนนั้นปวดขามากแม่ คือแบบสุด ๆ แล้วผมก็ไปเจอร้าน ๆ นึง ก็เข้าไปนั่งและสั่งแตงโมสีเหลือง ไข่ปิ้ง กล้วยปิ้ง และน้ำแดงโซดามาดับกระหาย อ๋อ ลืมเล่า คือผมจะบอกว่านอกจากแตงโมแล้ว ไอเทมอีกตัวที่คุณจะต้องสัมผัสกับการขึ้นภูกระดึงคือ คือ คือ ... มันคือน้ำแดงมะนาวโซดา ใช่ครับ น้ำนี่เลย จะบอกสดชื่นมาก เดินมาเหนื่อย ๆ โดนตัวนี้เข้าไปบอกเลย ดีด 555หลังจากแวะทานอะไรรองท้องที่ซำกกโดนเสร็จเรียบร้อย ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องนั่งนาน ๆ เพราะยังไงก็มาคนเดียว ไม่รู้จะเดินไปคุยกับใคร ป้าเจ้าของร้านก็อยู่ด้านใน ส่วนนักท่องเที่ยวท่านอื่นก็ไม่ค่อยมีนัก ผมก็ตัดสินใจเดินต่อเลย และแล้วก็มาถึงซำแครรรรรรรรรรรร่ !!!ผมบอกเลยนะ นอกจากซำแฮกแรกสุดที่ผมเจอเนี้ย ก็ซำแครนี่แหละที่โคตรชันไม่แพ้กัน คือมันเป็นซำที่เต็มไปด้วยโขดหิน และเป็นซำที่เต็มไปด้วยบันได ใช่ครับ บันได !!! โอโห่ยย เดินขึ้นเขาธรรมดาข้าก็เหนื่อยแล้ว นี่ต้องมาขึ้นบันไดอีกหรอเนี้ยยย ตึงไปทั้งตัวจริง ๆ ฮาาาาผมว่าจากซำแคร่ถึงหลังแปเนี้ย คือช่วงที่เหนื่อยที่สุดของการเดินขึ้น เพราะช่วงนี้จะมีเเต่หินชันที่ต้องปีนป่าย แล้วไหนผมจะถือกล้องถ่าย Vlog อีก โอโห่ววว สุดจัดปลัดบอกเลยครับท่านแล้วเวลานี้ก็มาถึง หลังจากความยากลำบาก ย่อมมีความง่ายดายเสมอ หลังจากที่ผมเดินขึ้นมา พร้อม ๆ ไปกับขาที่สั่นยิ๊ก ๆๆ ในที่สุดผมก็ผ่านบันไดทั้งหมดและมาถึงหลังแปสักทีครับ แต่ !!! มันไม่ได้จบแค่นั้นครับ เพราะหลังแปไม่ใช่จุดหมายที่แท้จริงของเรา หลังแปมันแค่จุดจบของการเดินขึ้นเขา แต่เรายังต้องต่อด้วยการเดินทางราบต่อ จุดหมายที่แท้จริงของเราคือจุดกางเต็นท์หรือศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง ซึ่งมีระยะทางห่างออกไปอีก 3 กิโลลลลล โอโห่ยย แต่เอาเหอะ ถึงจะ 3 กิโล แต่ทางต่อจากนี้จะเป็นการเดินบนทรายนุ่ม ๆ ทางราบ ๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่ไอการที่เดินทางราบ ๆ 3 กิโลคนเดียว ท่ามกล่างบรรยากาศที่ว้าเหว่นี่มันก็เสียว ๆ อยู่เหมือนกันนะ 555 คือไม่ใช่อะไรหรอก ด้วยความที่เรามาที่นี่ครั้งแรก และเห็นข่าวสัตว์ป่าออกมาทักทายนักท่องเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง ไอความคิดตัวเองนี่แหละน่ารำคาญที่สุด จินตนาการไปเรื่อย ช้างป่าจะออกมาจ้ะเอ๋บ้างไรบ้าง 555 คือแบบเดินไป ก็เหลียวหลังไปด้วย แต่ผมไม่มีเวลาที่จะเดินอย่างรีแลกซ์มากนัก เพราะตอนนั้นมันใกล้ค่ำแล้ว และผมอยากไปให้ถึงจุดกางเตนท์ให้เร็วที่สุด เพื่อที่เราจะได้จัดการที่นอนและอะไรต่าง ๆ ให้ทันก่อนที่อาทิตย์จะอัสดงขณะที่เดินมาถึงจุดกางเตนท์หรือที่ทำการ ผมดีใจมาก คือผมดีใจที่ผมได้มา และได้เอาชนะตัวเอง ผมรู้ว่าร่างกายของผมไม่ฟิตพอที่จะมา แต่ผมไม่สน จะถึงช้าหรือถึงเร็ว ผมขอแค่ได้มาถึง และพอได้มาถึงจริง ๆ มันก็ดีใจมาก ดีใจจนพูดไม่ถูก หลังจากนั้นผมก็เดินตรงไปยังจุดบริการนักท่องเที่ยวเพื่อติดต่อที่นอนที่เราได้จองไว้ ส่วนเตนท์ผมพามาเอง เวลานี่ก็รอแค่ลูกหาบขึ้นมาส่งสัมภาระของเรา ระหว่างนั้นผมก็เดินไปนั่งที่ศาลาหลังหนึ่งนั่งมองตะวันลับของฟ้าอย่างช้า ๆ ท่ามกลางลมหนาวที่กำลังโอบกอดผมด้วยอุณภูมิเพียง 14 องศา จำได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมาก เนี้ยตอนที่ผมกำลังพิมพ์โพสต์นี้อยู่ ผมก็ยังคงยิ้มให้กับเรื่องราววันนั้น ...จบไปแล้วครับ สำหรับโพสต์ต่อจากโพสต์ที่แล้ว จริง ๆ มันก็ดีนะที่ได้มานึกถึงวันเวลาเหล่านั้นและเอามาบรรยายผ่านตัวหนังสือให้ทุกคนได้อ่านกัน จากโพสต์แรกที่ผมเขียนตอนนั้น ผมไม่คิดว่าจะมีคนอ่านนะ แต่สุดท้ายก็มีคนอ่านและเป็นประโยชน์สำหรับเขา ซึ่งผมดีใจมาก ผมดีใจนะที่มีคนอ่านเยอะ แต่ผมดีใจมากกว่าที่ประสบการณ์เหล่านั้นของผมมันเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน แม้เพียง 1 คนถ้าใครอ่านถึงตรงนี้อยากบอกว่า ขอบคุณมาก ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันใหม่ครับ ขอให้ทุกคนเจอวันที่ดีในทุกวัน ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางไปกับผม ด้วยรัก ZT ภาพถ่ายจากนักเขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !