เมื่อปลายปี 2019 วันที่ 9 - 12 เดือนสิงหาคม 2562 ช่วงปลายฝนต้นหนาว ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทย..... นั่นก็คือจังหวัดน่าน ซึ่งนักเขียนเองใฝ่ฝันมานานมากว่าอยากจะหาโอกาสไปซักหนึ่งครั้งในชีวิต นั่นก็เพราะว่าอยากไปสักกะระพระธาตุแช่แห้ง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้เขียนเอง ถือว่าโชคดีมาก ๆ ที่มีพี่ที่รู้จักคุ้นเคยกันดีโทรมาชวนไปร่วมทริป ผู้เขียนไม่คิดนานค่ะ ตอบตกลงทันทีที่พี่เค้าชวนปุ๊บตัดสินใจไปปั๊บไม่ต้องคิดเลยเพราะอยากไปมาก ๆ ซึ่งทริปนี้ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน มันเป็นทริปที่คุ้มค่าและมีความสุขสุดๆ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์จากการได้ไปท่องเที่ยวมาฝากให้ผู้อ่านเผื่อท่านผู้อ่านคนใดมีโอกาส หรือหาโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนกับคนรักหรือครอบครัว ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่าผู้เขียนเองบ้านอยู่จังหวัดตากค่ะ วันแรกของการเดินทางคือวันที่ 9 สิงหาคม 2562 เวลา 12.00 น. โดยประมาณ ออกเดินทางจากอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เข้าที่พักจำได้ว่าพักโรงแรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แต่จำชื่อไม่ได้ค่ะ 555+ ห้องพักสะอาดราคาหลักร้อย วันแรกที่มาถึงน่านผิดแผนที่วางไว้ซักเล็กน้อยเพราะมันเป็นวันที่ฝนตก OMG ไม่ได้เดินเที่ยวถนนคนเดินหรือที่คนน่านเรียกว่า กาดข่วงเมืองน่าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณวัดภูมินท์ พอรับประทานอาหารเย็นเสร็จก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย วันที่ 2 ของทริป คือวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ตื่นเช้าไปเที่ยวชมตลาดสดเมืองน่านก็เป็นตลาดสดปกติไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากตลาดแถวบ้านเราทั่วไป หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จ จุดแรกที่ไปเช็คอินกันก็คือซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ข้าง ๆ ซุ้มลีลาวดี จะมีวัดน้อยเสียดายไม่ได้เก็บภาพมาฝากคุณผู้อ่าน วัดน้อยก็คือวัดที่ย่อขนาดจากวัดปกติให้เหลือขนาดประมาณเท่าศาลบ้านของเราค่ะ แต่เป็นวัดที่มีศิลปะสวยงามตามสไตล์วัฒนธรรมทางภาคเหนือ ซุ้มลีลาวดีแห่งนี้ถ้าใครได้มีโอกาสมาเที่ยวน่านจะต้องแวะถ่ายรูปรายการทีวีหลายช่องที่เคยมาถ่ายทำที่นี่แต่ที่เก็บภาพมาฝากมันเป็นช่วงฤดูฝนเลยไม่ได้เห็นภาพสวยๆของดอกลีลาวดี แต่แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบค่ะ หลังจากที่เราถ่ายรูปกับแบบจุดใจบริเวณซุ้มลีลาวดี แล้วเพียงแค่เราดินข้ามถนนไปอีกฝากนึง เดินทางประมาณ 50 เมตร เราก็จะเจอกับวัดภูมินทร์ ซึ่งเป็นวัดที่โด่งดังและมีชื่อเสียงด้านจิตรกรรมฝาผนัง "ปู่ม่าน ย่าม่าน" และเราก็โชคดีเด้งที่ 2 (เมื่อวานไม่ได้เดินถนนคนเดินเพราะฝนตก) เนื่องจากด้านหน้าวัดกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงก็จะมีผ้าสแลนสีเขียว ๆ ปิดกั้นไม่สามารถถ่ายรูปได้ แต่ภายในวัดสามารถเข้าชมจิตรกรรมฝาผนังได้ โชคยังดีอิอิ ภาพปู่ม่านย่าม่าน คือคำเรียกผู้ชาย เรียว่า ปู่ม่าน ผู้หญิง เรียกว่าย่าม่าน กำลังกระซิบรักกัน เป็นภาพวาดที่มีความประณีตและสวยงามมาก พลาดไม่ได้เลยนะคะสำหรับคู่รักหรือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจะต้องมาถ่ายจุดนี้เลยค่ะ เห็นภาพปู่ม่านย่าม่านแล้วดีต่อใจยังไงไม่รู้... หลักจากเสพความสุขจากรูปปู่ม่านย่าม่านกันแบบจุใจแล้วนั้น...ก็ขับรถเดินทางต่อมายังวัดพระธาตุเขาน้อย ซึ่งทางจะสูงชันพอสมควร ในจุดนี้เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านค่ะ แวะไว้พระสักการะขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคลกันนิดนึงค่ะ ขับรถต่อไปอีกซักพักและแล้วเราก็มาถึงที่นี่ วัดพระธาตุแช่แห้ง ว้าว ว้าว ว้าว ฉันได้มาแล้วนะจ๊ะเธอจ๋า ไม่รอช้าค่ะ รีบเข้าไปไหว้พระธาตุขอพรให้ชีวิตเรามีแต่สิ่งดีๆ กันค่ะ หลังจากที่เราได้ไหว้พระกันเรียบร้อย เราไม่รอช้าค่ะออกเดินทางกันต่อค่ะ มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ระหว่างทางฝนตกอีกแล้วจ้าท่านผู้อ่านขาาาาาาา ถนนเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคามีโค้งมองเป็นตัวเลข 3 สวยงามมากๆ เลยค่ะ ใครมีโอกาสไปแวะถ่ายรูปให้ได้นะคะ 1715 ไม่ได้ใบ้หวยนะคะ แต่มันคือระดับความสูงจากน้ำทะเล ณ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นลง ซึ่งตอนที่ไปนั้นฝนหยุดตกพอดี มีทะเลหมอกให้เราได้สัมผัสกันด้วยค่ะ บอกเลยค่ะว่าฟินสุด ๆ และเราก็นอนกันพักคืนที่ 2 ของทริปนี้ที่อุทยานค่ะ ใครจะไปนอนขอบอกก่อนนะคะว่าต้องโทรจองล่วงหน้าและเตรียมอาหารมาให้เพียงพอเพราะมีจุดขายอาหารเพียงจุดเดียวนะคะ มาเที่ยวแบบธรรมชาติเราก็ต้องกินอยู่กันแบบธรรมชาติค่ะ ไม่มีอาหารหรูไม่มีร้านอาหารให้นั่งนะคะ วันที่ 3 ของทริป คือวันที่ 11 สิงหาคม 2562 ตื่นเช้า ๆ มาจิบกาแฟสัมผัสบรรยากาศลมเย็น ๆ สบาย ๆ เรียกว่ามาพักผ่อนจริง ๆ ค่ะ ในวันนี้เราจะเดินทางจากอุทยานแห่งชาติมุ่งหน้าสู่ บ่อเกลือ เราจะไปพักกระท่อมน้อยปลายนากันที่บ่อเกลือค่ะ แวะบ่อเกลือไม่ได้เก็บภาพมาฝากนะคะเพราะอะไรหรอคะ เหมือนเดิมค่ะฝนตกอีกแล้วค่ะคุณณณณณ ในวันนี้จะนำภาพบรรยาศกระท่อมน้อยปลายนามาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ เที่ยวตอนหน้าฝนมันก็ได้ฟิวส์อีกแบบนะคะพอฝนหยุดตกซักพักหมอกก็จะลอยมาให้เราเห็นเป็นระยะ ยามค่ำคืนได้ยินเสียงกบเขียดเรียกได้ว่าเหมือนเราหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งที่ต่างจากโลกที่เราอยู่ปัจจุบันได้ยินแต่เสียงรถยนต์ เสียงคนจอแจ วุ่ยวายไปหมด เค้าถึงเรียกว่าธรรมชาติบำบัดจริง ๆ ค่ะ เหมือนมาชาร์ตแบตให้ตัวเรา ตื่นเช้ามาเจอทุ่งนาเขียว ๆ หมอกลอยล่อง โอ้ยนี่ฉันฝันไปรึเปล่าเนี่ย วันที่ 4 ของทริป คือวันที่ 12 สิงหาคม 2562 ฮัลโหลแม่.....โทรไปหาแม่ตอนเช้า ๆ บอกแม่ว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะกลับไปหาแล้วนะแม่ วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปไหว้พระที่วัดภูเก็ต อำเภอปัว รับประทานอาหารและขนมหวานที่มีชื่อเสียงของเมืองน่านก่อนเดินทางกลับบ้านกันค่ะ ออกเดินทางกันต่อเลยค่ะ วัดภูเก็ต ตั้งอยู่อำเภอปัว บรรยากาศข้างหลังวัดเป็นจุดชมวิวมีทุ่งนาสีเขียวขจี แนะนำถ้าใครอย่ากได้ภาพแบบนี้ให้มาช่วงปลายฝนต้นหนาวนะคะ ไม่แนะนำให้มาหน้าร้อนนะคะ ด้านล่างเป็นสถานที่ซื้อของฝากและถ่ายรูป วัดภูเก็ตมีชื่อเสียงโด่งดังอีกที่นั่นก็คือจิตรกรรมฝาผนังรูปโดเรม่อนผู้เขียนมัวแต่ไปถ่ายรูปวิวทิวทุ่ง ฝนตกซะก่อนรีบขึ้นรถไม่ทันได้เข้าไปเก็บภาพฝาผนังมาฝากไม่ว่ากันนะคะ อ่านมาถึงตรงนี้หิวกันรึยังคะถ้าหิวจะพาไปรับประทานอาหารกันค่ะ นั่นก็คือ ข้าวซอยน้ำกระทิเข้มข้น ขนมจีนน้ำเงี้ยวใส่ดอกงิ้ว หอม ๆ แถมด้วยข้าวมันไก่อีกหนึ่งอย่างค่ะ รับประทานของคาวไปแล้วเรามาตบท้ายด้วยของหวานอันเลื่องลือของเมืองน่าน นั่นก็คือ ขนมหวานป้านิ่ม พลาดไม่ได้เลยขอย้ำว่าไม่ควรพลาดร้านขนมหวานป้านิ่ม ไม่บรรยายเยอะให้ภาพช่วยบรรยายแทนแล้วกันนะคะ เป็นยังไงกันบ้างคะหวังว่าคงจุใจท่านผู้อ่านกันทั้งภาพบรรยากาศและภาพอาหารของเมืองน่านนะคะ ทุกวันนี้ผู้เขียนเองเวลาเปิดไปเจอภาพเหล่านี้ยังแอบอมยิ้มกับตัวเองอยู่เลยค่ะ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้ไปเที่ยวเมืองน่าน มันมีความสุขความสงบมันสดชื่นแบบบอกไม่ถูก เอาเป็นว่าอย่างพึ่งเชื่อในสิ่งที่คุณผู้อ่านเห็นจนกว่าคุณจะได้ไปสัมผัสมันด้วยตัวคุณเองค่ะ จบทริปเที่ยวน่าน 4 วัน 3 คืน Cr.ภาพจากผู้เขียนเอง