มาอัปเดตข้อควรรู้ก่อนบินไปต่างประเทศสำหรับมือใหม่เพิ่งจะเริ่มเที่ยวเองครั้งแรกกันค่ะ สืบเนื่องมากจากที่ผ่านๆ มาเราก็ได้เห็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลทั้ง ของหาย ตกเครื่อง เครื่องดีเลย์ ซึ่งทั้งหมดนี้อาจทำให้ทั้งมือใหม่และนักเดินทางขาประจำมีกังวลไปบาง บางเรื่องก็เกิดจากการไม่รู้จริงๆ แต่บางเรื่องก็เกิดจากการมองข้ามละเลยบางอย่าง ดังนั้นเรามาทวนกันดีกว่าว่ามีเรื่องน่ารู้อะไรที่ไม่ควรมองข้ามไปบ้าง1. พาสปอร์ตเรื่องแรกที่นักท่องเที่ยวขาประจำบางคนลืมเช็กก็คือวันหมดอายุพาสปอร์ต หมายถึงเดือนที่ยังเหลือพร้อใช้งาน มันอาจจะยังไม่หมดในวันเดินทางแต่มันเหลือน้อยไม่อยู่ในเกณฑ์ การเดินทางแต่ล่ะครั้งพาสปอร์ตจะต้องมีอายุเดือนเหลืออย่างน้อย 6 เดือน คนที่เพิ่งไปทำไม่น่าห่วงแต่คนที่ทำมานานแล้วอาจหลงลืมได้ ดังนั้นเช็กก่อนเดินทางอย่าคิดว่าขาดไปนิดหน่อยไม่เป็นไร ต่อให้ไทยอนุโลมต่างประเทศเขาก็ไม่อนุโลม แต่บอกตามตรงว่าน่าจะติดตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอินฝั่งไทยแล้วล่ะค่ะ 2. เช็กลิสต์สิ่งของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องอย่าลืมเช็กลิสต์สิ่งที่นำขึ้นได้และไม่ได้ รวมไปถึงอะไรโหลดได้บ้าง นอกจากนี้มันยังมีของที่สามารถนำขึ้นเครื่องหรือโหลดได้แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้อีกเช่น ของเหลวสามารถนำขึ้นเครื่องได้แต่ต้องในปริมาณที่กำหนด ( 1000 มล. ) แบตสำรองสามารถนำไปได้แต่ห้ามโหลดลงใต้ท้องเครื่องและถือขึ้นเครื่องได้โดยต้องมีความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh เป็นต้น ห้ากเรานำสิ่งของที่ห้ามนำขึ้นไปและตรวจพบ จะต้องทำการทิ้งเท่านั้น หรือใครจะส่งกลับบ้านก็ได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าในสนามบินนั้นมีไปรษณีย์หรือขนส่งเอกชนใดๆ หรือเปล่าด้วย อ่านต่อ 14 สิ่งของต้องห้ามนำขึ้นเครื่อง รู้ไว้ก่อนเดินทาง3. จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าเพื่อให้ได้ตั๋วถูกข้อนี้จะปีไหนๆ ทางเราก็ยังได้รับข้อความทางเพจเฟซบุ๊กว่าจองยังไงให้ได้ราคาดีและต้องจองล่วงหน้านานแค่ไหน โดยปกติส่วนตัวเราจะจองล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน การจองตั๋วเครื่องบินบางทีไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่โปรโมชั่นและมันอิงตามตารางบินของสายการบินด้วย ถ้าเราเลือกล่วงหน้าเยอะเกินไป ตารางบินต่างๆ อาจจะไม่แล้วเสร็จมันก็จะมีตัวเลือกเที่ยวบินน้อย มีแต่เที่ยวบินที่ราคาแพง และถ้าจองกระชั้นชิดเกินไปโดยปกติราคาตั๋วจะดีดขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าอยากได้ราคาดีๆ แนะนำให้จองล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน และไม่เอานะไปวีนคนแชร์ทริคที่เขาได้ราคาดีจริงว่า "ก็จองล่วงหน้า 1-2 อาทิตย์แล้วทำไมยังแพง" แบบนี้เรียกกระชั้นชิดค่ะ ล่วงหน้าที่ควรจะเป็นคือ 2-3 ค่ะ แต่ปัจจุบันถึงจะลดแล้วเราว่ามันก็ยังสูงนะ ยกตัวอย่าง บินตรงกรุงเทพ นิวเดลี เที่ยวบินต่ำสุดที่เคยได้คือ 4,XXX บาท แต่ปัจจุบันนี้ 4,XXX นี้มีแต่ต่อเครื่องนะ คงเป็นเพราะเศรษฐกิจหรือผลกระทบจากโควิดที่ทำการเดินทางหยุดชะงักไปนานล่ะมั้ง ( เดานะคะ ) ดังนั้นนอกจากล่วงหน้าแล้วอาจต้องจองผ่านแอปพลิเคชั่นที่มีโค้ดลดราคาให้ด้วย เราแนะนำเป็น Traveloka รอจังหวะดีๆ แล้วจอง ไปลองดูกันค่ะ รีวิว จองตั๋วเครื่องบินผ่าน Traveloka โค้ดลดเยอะมาก!4. แต่งตัวอย่างไรดี ?การแต่งตัวก็แต่งให้เหมาะกับกาลเทศะและฤดูกาล ไม่ใช่ไปเที่ยวเมืองหนาวแต่แต่งเซ็กซี่ประหนึ่งไปรับลมร้อน ส่วนสไตล์ก็ตามใจชอบเลย แต่ถ้าอยากสบายๆ ก็เลือกชิลๆ แต่ไม่ใช่ชุดนอนนะอันนั้นชิลไป ตรวจคนเข้าเมืองอาจไม่ไว้ใจได้ ที่อยากแนะนำคือ "อย่าแต่งเยอะ" เพราะวันนั้นเราจะต้องผ่านกระบวนการเยอะมากๆ เมื่อก่อนเราจะใส่แบบเสื้อข้างใน เสื้อคลุมยีนส์ กางเกงยีนส์ กระเป๋าเยอะ สร้อยคอ ข้อมือ แล้วสุดท้ายคือรำคาญมาก พอเริ่มผ่านกระบวนการเยอะๆ เริ่มร้อนทั้งๆ ที่แอร์ก็เย็นฉ่ำ เพราะกิจกรรมในวันนั้นมันเยอะ ถ้าใส่เสื้อคลุมเราก็ต้องถอดเสื้อคลุมเอาไปสแกนด้วยนะ ถ้าอยากรวดเร็ว ชิล พยายามแต่งแบบง่ายๆ และลดเครื่องประดับ เพราะเวลาสแกนตัวต่างๆ เครื่องมันจะส่งสัญญาณ แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะต้องทำการเช็กและหาว่าเสียงมันมาจากเครื่องประดับชัวร์นะ มันเสียเวลา... แทนที่จะได้รีบผ่านรีบไปนั่งพักที่เกท หรือช็อปดิวตี้ฟรี5. เลือกที่นั่งบนเครื่องบินอย่างไรให้นั่งสบายใครไม่ซีเรียสข้ามไปได้เลย แต่ถ้าซีเรียสก็จะแชร์ทริคการเลือกในแบบของเราให้ สำหรับเราเราจะชอบเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง การนั่งตรงกลางมันจะอึดอัดคิดว่าทุกคนทราบ และเราจะเลือกนั่งที่นั่งโซนตรงปีก เพราะปีกของเครื่องบินคือส่วนที่ถูกออกแบบมาให้แข็งแรงที่สุด นอกจากนี้ที่นั่งที่ควรเลี่ยงก็คือท้ายลำ เพราะเครื่องยนต์เครื่องบินจะอยู่บริเวณนั้นเราจะได้ยินเสียงดัง และรับแรงสั้นมากกว่าที่อื่นๆ แต่มันจะใกล้ห้องน้ำ สำหรับคนที่รู้ตัวว่าจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำบ่อยอาจเลือกท้ายลำได้ อ่านต่อ 5 ทริคการเลือกที่นั่งบนเครื่องบิน นั่งตรงไหนดี ? ให้สบายตลอดทริป6. คำต้องห้ามในสนามบินและเครื่องบิน ไม่เล่นเลยนะคะข้อนี้พราะจุดนี้มันคือเรื่องซีเรียส และคำพวกนั้นคือ "บอม ระเบิด ผมมีระเบิด มีปืน มีอาวุธหรือสสาร" ร้ายแรงสุดคือถูกคุมตัวออกไปตรวจสอบ หรืออาจจะทำให้เที่ยวบินนั้นดีเลย์เพราะเจ้าหน้าจะตรวจสอบทั้งหมดใหม่ เพราะเขาไม่รู้ว่ามีจริงหรือล้อเล่นๆ หรือทำเป็นล้อเล่นแต่มีจริงๆ ในต่างประเทศมันจะมีคนเล่นคอนเทนต์อะไรแบบนี้จริงๆ นะ แต่ในไทยก็ยังไม่เคยเห็นและก็ไม่ต้องสรรหาไปเล่นนะ การบอกว่าเป็นโรคร้ายแรงที่มีการติดต่อ หรือการแสดงออกในเชิงจี้ปล้นก็ไม่ได้ ต่อให้รู้สึกว่าเราพูดกันขำในวงกลุ่มเล็กๆ หรือทำอันคลิปขำๆ เดี๋ยวไปปล่อยคอนเทนต์ตอนหลังก็ไม่ควรนะคะ มันทำให้คนเล่นดูเหมือนคนไม่ทำการศึกษาข้อมูลมาไม่มีใครตลกด้วยทั้งนั้นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ใครมีเพื่อนชื่อบอมอาจเรียกอย่างอื่นไปก่อน ชื่อจริง หรือสรรพนามเฉพาะอะไรก็ว่าไป 7. ไปถึงสนามบินล่วงหน้าสัก 4-5 ชม.เมื่อก่อนไปสัก 2-3 ชั่วโมงก็เหลือเฟือ แต่ปัจจุบันนี้ไปก่อนล่วงหน้าให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ โดยปกติเราเป็นฟรีแลนซ์เราชอบเดินทางวันธรรมดาคนน้อยดี โดยเฉพาะวันพุธ คนไม่ค่อยลางานกลางสัปดาห์คนน้อย ชิลมาก ที่นั่งมีเหลือ ร้านอาหารไม่แน่น แต่ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะวันไหนๆ คนก็เยอะ ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดหรือวันหยุดพิเศษนี่เยอะแบบทวีคูณ และปัญหาการลดพนักงานตั้งแต่สมัยโควิดมันก็ส่งผลมายังในตอนนี้ พนักงาน้อยลงแต่ผู้โดยสารเยอะขึ้น คนล้น แถวยาว เหนื่อยตั้งแต่เช็กอินเลย ดังนั้นการที่เราไปถึงล่วงหน้าเราจะทันการเข้าไปยืนต่อแถวในลำดับแรกๆ เมื่อเคาน์เตอร์เปิด แล้วเราจะไปขั้นตอนต่อไปได้อย่างเร็ว มีเวลาเหลือไปนั่งพัก แต่ถ้ามาช้า ยืนขาแข็งไม่พอถ้าเช็กอินช้าอีกขั้นตอนหลังจากนั้นคือต้องรีบหมดเลย อย่าลืมว่าบางเกทโดยเฉพาะสุวรรณภูมิไกลมาก8. ถ้าไม่อยากเหนื่อยปัจจุบันนี้มีบริการช่วยเช็กอิน เป็นทางเหลือของคนรักสบายและยินยอมจ่าย จากที่เราไปดูมาก็ราคาสูงพอสมควร แต่วันนั้นจะมีเจ้าหน้าที่มารับ เราจะไม่ต้องเดินเลยนะนั่งรถไปดำเนินการเช็กอิน ไปเกท และยังมีคนช่วยโหลดกระเป๋าด้วย อันนี้ตามสะดวกนะคะ หรือเช็กอินออนไลน์ก็สะดวก เราอาจจะไม่ต้องไปต่อแถวยาวๆ แต่เราก็ยังต้องเดินไปดำเนินการเรื่องต่างๆ เอง รวมถึงเดินไปเกทเอง9. พิกัดร้านอาหารราคาถูกในสนามบินสุวรรณภูมิถ้าอยากประหยัดงบให้ไปฝากท้องที่ศูนย์อาหาร Magic food point อยู่บริเวณประตู 8 จะเป็นศูนย์อาหารแบบแลกคูปองและภายในก็จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้านทั้งส้มตำ อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ยำ ข้าวราดแกง ร้านเครื่องดื่ม และร้านขนมปังเป็นต้น10. พิกัดที่นั่ง-ที่นอนที่สนามบินสุวรรณภูมิถ้าคนเยอะมากแล้วไม่รู้จะไปนั่งตรงไหนสามารถไปนั่งที่อาคารสำหรับชมเครื่องบิน ทางขึ้นจะอยู่ที่เคาน์เตอร์เช็กอิน R สามารถขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟต์ก็ได้ ที่ตรงนี้ถึงจะเป็นบริเวณชมเครื่องบินแต่มันก็ไม่ได้โล่งพอให้ชมเครื่องบินแต่มันเงียบ คนไม่พลุกพล่าน แอบงีบได้ แต่ข้อเสียคือแอร์ไม่เย็นฉ่ำแบบด้านล่าง แต่ใครที่รอนานแล้วไม่มีที่นั่งจริงๆ ยืนมานานแล้วก็แวะมานั่งตรงนี้ก่อน หรือจะลงไปนั่งตรงจุดบริการรับแจ้งของหายก็ได้ เพียงแค่ว่ามันไม่ใช่ที่นั่งสำหรับนั่งรอจริงจังนะ แวะไปแช่แอร์สักพักแล้วออกก็จะดี 11. อย่าละเลยประกาศแจ้งเตือน รวมถึงจอมอนิเตอร์แจ้งเกทที่ยวบินเมื่อก่อนเราชอบฟังเพลง และใช้หูฟังแบบตัดเสียงรบกวน ที่นี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันมีการประกาศเปลี่ยนเกทค่ะ แล้วเราไม่ได้ยิน แถมไม่มองคนรอบข้างด้วย แต่โชคดีที่มีพนักงานแถวนั้นมาสะกิดและบอกว่าเที่ยวบินเดิมของเกทนี้เปลี่ยนไปเป็นเกทอื่นนะ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่แถวนั้นก็คงได้วิ่งไปเกท หรือไม่ก็นั่งงงตกเครื่องอยู่ตรงนั้นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าได้ละเลยเรื่องนี้12. เช็คน้ำหนักสัมภาระขึ้นเครื่อง อย่าให้น้ำหนักเกินถ้าซื้อน้ำหนักสัมภาระโหลดก็ดูให้ไม่เกินจำนวนกิโลกรัมที่ตัวเองซื้อ ถ้าไม่ซื้อก็ดูน้ำหนักและขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่ให้เกินกำหนด ไม่งั้นมันจะเสียทั้งเวลาและเงินจำนวนมากแทน สำหรับคนที่คิดว่าเกินนิดหน่อยไม่เป็นไรแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ขอชั่งแล้วเกิน ถึงจะเกินมานิดเดียวก็ต้องเอาออกนะ และปัจจุบันนี้ทุกสายการบินชั่งน้ำหนักกระเป๋าหมดค่ะ ทั้งกระเป๋าโหลดและถือขึ้นเครื่องดูทริคจัดกระเป๋าที่ แจก 6 ทริคจัดกระเป๋าไม่ต้องโหลดใต้เครื่อง13. หากต้องต่อเครื่องควรเช็กเวลาเปลี่ยนเที่ยวบินก่อนในกรณีต่อเครื่องแนะนำให้ดูเวลาระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องด้วย มันจะมีที่ราคาถูกจริงๆแต่รอนานมากกับเวลารอสั้นมาก รอนานไม่เท่าไร แต่ถ้ารอระยะสั้นเช่น 1 ชั่วโมงอันนี้สุ่มเสี่ยงเกินไปค่ะ เพราะถ้าเที่ยวบินแรกดีเลย์เวลาช่วงของการต่อเครื่องมันก็จะน้อยลงไปอีกและเราก็ต้องไปดูด้วยว่ามันต้องทำการเช็กอินใหม่ไหม หรือเปลี่ยนเกทอีกไหมและถ้าเกทไกลเวลาน้อยก็คงต้องวิ่งกันสุดชีวิต ถ้าไม่อยากเสี่ยงหรือเหนื่อยแนะนำให้คำนวนเวลาต่อเครื่องดีๆ ค่ะ 14. ไม่โหลดของมีค่า หรือของสำคัญใต้ท้องเครื่องมีกรณีศึกษามากมายนะคะที่โหลดแล้วของหาย มันเป็นเรื่องพื้นๆ ที่ใครๆ ก็พูดก็เตือนมาเนินนาน อย่าไว้ใจอย่าละเลยคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจค่ะ ของมีค่าของสำคัญถ้ามันสำคัญควรเก็บกับตัว ของโหลดไปแล้วแล้วหายส่วนมากปัจจัยนั้นมันเกิดจากตัวบุคคลอื่นและคนคือสิ่งเราควบคุมกะเกณฑ์อะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นดีที่สุดคือเก็บไว้กับตัวเองค่ะ15. สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่สนามบินได้ แต่ต้องเผื่อเวลาด้วย จะไปต่างประเทศก็ต้องมีสกุลเงินของต่างประเทศก่อน และสำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปแลกเงินล่วงหน้าก็สามารถมาแลกเงินที่สนามบินสุวรรณภูมิได้เพียงแต่ต้องเผื่อเวลาด้วยเพราะจะต้องไปรอทั้งกับคนที่ไปขายและซื้อสกุลเงิน ทั้งคนไทยทั้งต่างชาติ บางครั้งรอนานเพราะนักท่องเที่ยวบางสัญชาติใช้วิธีต่อแถวแค่คนเดียวแต่พอถึงเวลาเรียกเพื่อนที่รอนอกแถวมาเป็นกลุ่มเลย 16. ไม่รับฝากกระเป๋าคนไม่รู้จัก คิดว่าทุกคนทราบโดยพื้นฐานอยู่แล้วเราไม่ควรรับฝากกระเป๋าคนไม่รู้จัก ไม่สนิท ทั้งแบบฝากไว้ให้เราดูแป๊ปหนึ่งหรือฝากโหลดไปด้วย แต่ก็ยังไม่วายมีคนรับฝาก ถ้าไม่ใช่ครอบครัวหรือเพื่อนที่รู้จักแบบสนิทชิดเชื้อไม่รับฝากทุกกรณีนะคะ ต่อให้ฝั่งตรงข้ามจะดราม่าตำหนิว่าไร้น้ำใจ เรื่องมากใดๆ ก็ตาม เกิดอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มเลยค่ะ 17. สนามบินสุวรรณภูมิมีจุดรับฝากกระเป๋า (รายชั่วโมง/รายวัน)ถ้ามีใครมาฝากดูของสักครู่เราสามารถบอกเขาไปได้ค่ะว่ามีจุดรับฝากอยู่ชั้นล่างสุดของสนามบินสุวรรณภูมินะ หรือแนะนำให้เขาไปฝากประชาสัมพันธ์ หรือถ้าใครอยากไปฝากเองอาจจะบินกลางคืนแต่ตัวเองมีธุระไปทำช่วงกลางวันออกจากบ้านทีเดียวเลยเอากระเป๋ามาด้วยก็สามารถนำไปฝากได้ แต่จะเสียค่าบริการมีทั้งแบบรายชั่วโมง รายวัน และสัปดาห์ จุดรับฝากจะอยู่ใกล้ๆ กับจุดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงิน18. ตรวจสอบเอกสารเดินทางทั้งพาสปอร์ตและวีซ่าเอกสารประจำตัวคือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้และผิดหรือไม่ตรงกันไม่ได้ด้วย ดังนั้นตรวจทานทั้งชื่อนามสกุล ทั้งสองอย่างต้องตรงกัน ทั้งนี้รวมถึงตั๋วเครื่องบินและบอร์ดดิ้งพาสด้วยนะคะ นอกจากนี้วีซ่านั้นยังมีทั้งวีซ่าแบบเล่มและ E-visa แบบที่ต้องปริ้นโดยส่วนมากทุกประเทศจะใช้แบบกระดาษดังนั้นอย่าลืมปริ้น เพราะส่วนมากตรวจคนเข้าเมืองเขาจะอยากดูวีซ่าและ E-visa ฉบับจริงมากกว่าดูผ่านโทรศัพท์ แต่ถ้าไปทำหายในต่างแดนก็ต้องติดต่อสถานฑูตนะคะ 19. อย่าลืมเช็คลิสต์ของห้างห้ามนำเข้าประเทศนั้นๆ มีของห้ามนำขึ้นเครื่องแล้วมันยังมีห้ามนำเข้าประเทศด้วยค่ะ เช่นอินเดีย ห้ามนำทองเข้า ไต้หวันห้ามเนื้อหมู สิงคโปร์ห้ามกัญชาหรือแม้แต่หมากฝรั่งก็ไม่ได้ หากเราพกไปอาจจะมีความผิดและได้รับการปรับจ่าย เช่นนั้นแล้วจะไปประเทศไหนก็ลองสำรวจเรื่องนี้ด้วย20. ให้การเดินทางง่ายขึ้นด้วยทราเวลการ์ดข้อสุดท้ายแนะนำเป็นไอเทมที่ควรมีพกติดตัวไปต่างประเทศนั่นก็คือบัตรกดเงินระหว่างประเทศ มันควรทำแยกออกมาจากบัตรกดเงินทั่วไปเพราะบัตรกดเงินทั่วไปนั่นถ้าเรานำไปกดในต่างประเทศมันจะเสียค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง และแน่นอนว่าใช้ได้แค่กดเงิน แต่บัตรทราเวลการ์ดนั้นมันสามารถใช้กดเงินสดในตู้ที่มีสัญลักษณ์วีซ่าได้ รวมไปถึงรูดจ่ายชำระผ่านบัตรได้ ในหลายๆ ประเทศเขาไม่ค่อยรับเงินสดกันนะคะ แม้แต่อินเดียผู้คนส่วนมากก็เลือกสแกนจ่ายทั้งนั้นค่ะ นอกจากนี้ถ้าเราไปในประเทศที่รูทจ่ายหรือสแกนจ่ายอย่างแพร่หลายแล้วและเรามีบัตรเราก็ไม่ต้องพกเงินสดไปเยอะๆ ก็จะไม่ต้องเป็นเป้าล่อให้มิจฉาชีพฉกไปนะคะ รีวิวทำบัตร Krungthai Travel Card สำหรับเที่ยวต่างประเทศ ทำง่าย ใช้ดีและนี่ก็คือ 20 ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ใครกำลังจะไปครั้งแรกแล้วไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มศึกษาข้อมูลจากตรงไหนก่อนลองเริ่มตาม 20 ลำดับนี้ได้เลยค่ะ และอย่าลืมก่อนซื้อประกันการเดินทางก่อนเดินทางด้วยนะ เพื่อความอุ่นใจนั่นเอง อย่างไรก็ตามหากใครรู้สึกชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลยค่ะ หรือติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะhttps://x.com/supamas_kpr/status/1743563478215147531- เรียบเรียงและถ่ายภาพโดย หญิงเถื่อน