ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองอิสตันบูลในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวของที่นั่น อุณหภูมิอยู่ที่ -3 ถึง 10 องศาเซลเซียส นับว่าหนาวมากๆสำหรับคนไทยอย่างเราเลยหล่ะค่ะ ผู้เขียนจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของอิสตันบูล เมืองที่เป็นศูนย์รวมทางเศรษฐกิจวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เพื่อจะได้เป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่นี่กันค่ะ มาเริ่มที่การเดินทางกันนะคะ จากสนามบินจะมีรถเมล์เข้าเมืองให้บริการตลอดทั้งวันค่ะ ส่วนในตัวเมืองจะมีรถไฟฟ้าและรถแท็กซี่ซึ่งราคาก็ไม่แพง แต่อย่าลืมให้กดมิเตอร์ด้วยนะคะ ผู้เขียนเลือกใช้บริการรถแท็กซี่และเดินเท้าเพราะสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่อยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ ส่วนที่พักแนะนำให้จองโรงแรมแถว Sultanahmet เพราะใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่สุดค่ะ เนื่องจากคนตุรกีนับถือศาสนาอิสลามพวกเขาจึงทานเนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อไก่และปลาเป็นหลักค่ะ ส่วนอาหารที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือเคบับ แต่สิ่งที่ผู้เขียนชอบมากๆก็คือข้าวแกงตุรกี มีหลากหลายเมนูให้เลือกเหมือนข้าวแกงบ้านเราซึ่งอร่อยมากต้องลองเลยหล่ะค่ะ อย่าลืมตบท้ายด้วยน้ำชาตุรกีหลังมื้ออาหารด้วยนะคะ อีกรายการที่อยากแนะนำก็คือน้ำทับทิมคั้นสดมีขายตามร้านข้างถนน ดื่มแล้วสดชื่นมากๆเลยค่ะ ไฮไลต์ของสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้เขียนได้ไปเยี่ยมชมก็คือ Ayasofya หรือมหาวิหารเซนต์โซเฟีย 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง เป็นทั้งโบสถ์ของคริสตศาสนาและมัสยิดของอิสลามในเวลาเดียวกัน ส่วนฝั่งตรงข้ามคือ Blue mosque หรือสุเหร่าสีน้ำเงิน ที่สร้างขึ้นเพื่อประชันความยิ่งใหญ่กับมหาวิหารเซนต์โซเฟียนั่นเอง สวยงามอลังการจริงๆค่ะ อีกไฮไลต์หนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะทำก็คือนั่งเรือข้ามช่องแคบบอสฟอรัสซึ่งเป็นช่องแคบที่แบ่งเส้นระหว่างยุโรปและเอเชีย แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัดบวกกับฝนตกตลอดทั้งวันทำให้เรืองดออกจากฝั่งในวันนั้น น่าเสียดายมากเลยหล่ะค่ะ สำหรับสาวๆที่ไปเที่ยวคนเดียวอาจจะต้องระวังตัวมากหน่อยนะคะเนื่องจากส่วนใหญ่แล้วในตอนกลางคืนตามท้องถนนที่เป็นตรอกซอกซอยจะมีแต่ผู้ชายที่ออกมาพบปะสังสรรค์ น้อยครั้งมากที่จะได้เจอผู้หญิง ทำให้ผู้เขียนประหลาดใจมาก แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวเนื่องจากมีทหารพกปืนรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำค่ะ