ถ้าใครอยากจะหาที่เที่ยวสักที่ ที่อยู่ไม่ห่างจากไทย ปล่อยตัวปล่อยใจกลางทะเล และที่สำคัญวันหยุดน้อยแบบเราๆก็ไปได้สบายมาก ขอแนะนำที่นี่เลย “บาหลี อินโดนีเซีย” สถานที่ที่ห่างจากไทยไม่ถึง 6 ชั่วโมง เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่โดดเด่น ทะเลที่เป็นเอกลักษณ์ และผู้คนที่เป็นมิตร และที่สำคัญราคาจับต้องได้ ถ้าพร้อมแล้ว วันนี้เราจะพาไปที่ บาหลี เกาะเล็กๆในประเทศอินโดนีเชีย เริ่มต้นจากตั๋วเครื่องบิน เราจองผ่านเว็บไซต์โดยตรงของสายการบิน Batik Air โดยจะต่อเครื่องที่มาเลเซีย ใช้เวลารวมทั้งหมด 5 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงบาหลี เราจองมาได้ในราคาไป-กลับ 6000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มมาก ต่อเครื่องที่มาเลเซียไม่นาน นอนแปปเดียวถึงบาหลีเลย website ไปจองตั๋ว : https://www.batikair.com.my พอมาถึงสนามบินที่บาหลี เราก็รีบอยากจะไปที่พักไวๆ ก็เลยจ่ายค่าแท็กซี่ที่สนามบินไป 440 บาท แล้วที่พักอยู่ห่างจากสนามบินแค่ 10 นาที ถือว่าเป็นราคาที่แรงมาก เพราะมาเปิดใน Grab ดูราคาไม่ถึงร้อย แค่ 70-90 บาท เพราะฉะนั้นโหลดแอพไว้เลย ได้ราคาถูกกว่าจริง ในส่วนของที่พักเราจองผ่าน Agoda มา 4 คืน ราคารวม 2254.80 บาท ชื่อโรงแรม Bakung Sari อยู่ใกล้หาดกูตา แหล่งของกิน ทำเลดีมาก และที่พักก็ถือว่าดี มีสระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบ มีอ่างอาบน้ำด้วย แต่อาจจะไม่เหมือนอ่างทั่วไปที่เราเคยเห็น แต่ถ้าเทียบกับราคา ถือว่าคุ้มมากกกกก Day 1 ถึงบาหลี เนื่องจากมาถึงก็มืดแล้ว เลยแค่ไปหาของกินและรีบนอน เพื่อไปหาที่เที่ยวกันเช้าวันถัดไป ร้านอาหารเรากินง่ายๆ ใกล้โรงแรม แต่อาหารบาหลีรู้สึกว่าต้องสุ่มนิดนึง เพราะถ้าเจอไม่อร่อยก็คือกินแทบไม่ได้ ของเราสั่ง Ayam kremes มา ฟีลแบบข้าวไก่ทอดบ้านเรา กินกับน้ำพริก อร่อย ส่วนแฟนเราสั่ง Gado Gado กินไม่ได้เลย ฟีลแบบขนมจีนที่จืดแล้วมากินกับน้ำพริกอีกที แต่ราคาถือว่าน่ารัก จานละ 40-60 บาท พอๆกับที่ไทย และที่นั่นเขาจะมี M mart คล้ายๆ 7-11 บ้านเรา มีทุกอย่าง ราคาพอๆกับไทย และเรามาซื้อ Adapter ด้วย เพราะที่นี่ปลั๊กจะใช้แบบขากลม ราคาก็มีตั้งแต่ 20-180 บาท แล้วแต่จะเลือกใช้เลย สำหรับวันนี้ก็แค่เดินหาของกิน และกลับไปนอนดูการ์ตูนที่ห้อง Day 2 Uluwatu วันนี้เราจะไปโซน Uluwatu ก็เลยเช่ารถมอเตอร์ไซค์จากโรงแรม ในราคาวันละ 200 บาท แล้วก็เติมน้ำมันอีก 60 บาทขี่ได้ทั้งวัน คือถูกมากกกก จากโรงแรมไปวัด Uluwatu ประมาณเกือบชั่วโมงเพราะรถติดหนักมาก พอมาถึงทางเข้าวัดจะมีค่าจอดรถประมาณ 2 บาทกว่าๆ แล้วพอเข้าวัดก็จะมีค่าตั๋วประมาณ 50,000 IDR ราวๆ 105 บาท แล้วก็จะมาผ้าถุงสีม่วงให้เปลี่ยนสำหรับคนที่ใส่สั้นมา ทางเข้าวัดจะมีดอกไม้สีส้ม สวยเว่อร์ แค่ทางเดินเข้าวัดก็ถ่ายรูปได้ละ แต่จุด signature หลักจริงๆ จะอยู่ที่หน้าผา ที่มองลงไปเห็นน้ำทะเลสีฟ้า แนวคลื่นซัดหน้าผาแบบสวย จึ้งงง แค่ที่นี่ที่เดียวก็รู้สึกว่าคุ้มแล้ว หน้าผาที่นี่สูงราวๆ 76 เมตร ชาวบาหลีเชื่อกันว่าวัดอูลูวาตูจะช่วยปกป้องคุ้มครองชาวบาหลีจากภัยอันตรายทั้งปวง แล้วคือทะเลด้านล่างสวยมากกกก แค่มาที่แรกก็ประทับใจแล้ว วัดนี้มีลิงด้วย ไม่ควรถืออาหารเดินไปมา เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ ภายในตัววัดจะมีลิงสีขาวด้วย ลิงตัวนี้ถูกค้นพบห่างจากตัววัดออกไป น้องอยู่ในธรรมชาติไม่ได้ จะโดนลิงปกติทำร้ายเพราะไม่เข้าพวก เขาเลยต้องเอาน้องไว้ในกรง เพื่อไม่ให้ถูกทำร้าย โดยรวมวัด Uluwatu ถือว่าคุ้มค่ากับการมามาก ค่าเข้าถูก สวยทุกอณู แบบส๊วย!! วิวหน้าผาและทะเลคือที่สุด แบบไม่ซ้ำใคร ต้องมา ห้ามพลาด Suluban Beach ไหนๆ ก็มาโซนนี้แล้ว เลยเปิด Google Maps ดู มีทะเลอยู่ไม่ห่างไกลมาก ขี่รถแค่ 7 นาที เราก็เลยตรงไปแบบไม่รอช้า ตรงทางลงหาด มีเก็บค่าจอดรถ ประมาณ 22 บาท แล้วก็เดินลงบันไดไปข้างล่าง ทางเดินค่อนข้างชัน แต่มีบันไดลง แต่ไม่มีราวจับ ต้องใช้ความระมัดระวังนิดนึง แต่พอมาถึงหาดคือสวยยยยย แบบเคยเห็นผ่านๆ ในรูป ดูไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ของจริงสวยเว่อร์มากกก จะป็นวิวแบบคล้ายๆ ถ้ำ และที่สำคัญ น้ำโคตรใสสส ใสเหมือนอยู่บนเกาะ แต่จริงๆ หาดนี้คือเขานิยมมาเล่นเซิร์ฟ แต่งงมาก คลื่นไม่ค่อยแรง แดดจ้า น้ำใสสุด ชอบที่นี่มากกกก ยังติดอยู่ในใจ ประทับใจเพราะสวยเกินปก โซนนี้ก็จะมีร้านขายของที่ระลึกและ Beach bar เยอะพอสมควร แต่เราไม่ได้แวะ เพราะชอบความธรรมชาติปกติมากกว่า Kuta Beach ตกเย็นก็กลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่หาดกูตา ริมหาดก็จะมีซุ้มบาร์เรียงรายเต็มสองข้างทาง แต่หาดสวยไหม นี่ว่าเฉยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ดูพระอาทิตย์ตกได้อยู่ โซนกูตาจะมีร้านขายของที่ระลึกมากมายหลากหลาย ควรต่อราคา เพราะราคาตั้งไว้สูงเสียดฟ้าเกินจริงมาก ถ้าต่อเป็นจะได้ราคาที่ดี ย่านนี้ก็จะมีร้านอาหาร พวก kfc ใดๆ ถือเป็นโซนที่เจริญ แล้วก็ถ้าใครชอบนวด คือสวรรค์ เพราะราคาค่านวดถูกมากกกกกก ขนาดตรงนี้เป็นโซนนักท่องเที่ยว ยังราคาแค่ 220 บาท/ชั่วโมง เป็นนวดน้ำมันทั้งตัว คุ้ม ถ้านวดเท้าคือแค่ชั่วโมงละ 100 คุ้มเว่อร์ Day 3 Nusa Penida วันนี้ตื่นแต่เช้าเพราะเราจะใช้เวลาทั้งวันที่เกาะ Nusa Penida โดยเราจองเป็นทัวร์ผ่านแอพ Klook มาได้ในราคา 3079 บาท เป็นราคาที่รวมรถพร้อมคนขับ ค่าเรือสำหรับ 2 คน และที่สำคัญเราสามารถเลือกได้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนของเกาะบ้าง เราก็จะขี่รถไปที่ท่าเรือ Sanur เอง ออกตั้งแต่เช้าเพราะกลัวรถติด แต่เราก็ถึงก่อนเวลา ตอนจองทัวร์เสร็จเขาจะส่ง Google maps มาผ่าน Email เราก็กดเดินไปที่ออฟฟิศ Klook เขาก็จะให้เราลงทะเบียนแล้วก็มีคนพาไปขึ้นเรือ ใช้เวลา 40 นาทีก็ถึงเกาะ แล้วก็จะมีคนขับรถมารอรับเรา เราก็บอกได้เลยว่าจะไปที่ไหน มีค่าเข้าเกาะคนละ 60 บาท เตรียมเงินสดกันมาด้วย Diamond Beach เราเลือกมาที่นี่ที่แรก อยู่ห่างจากท่าเรือประมาณ 1 ชั่วโมง ทางบนเกาะบางจุดค่อนข้างอันตราย ถนนแคบ เป็นโค้งหักศอก คิดถูกมากที่จองทัวร์ พอไปถึงมีค่าจอดรถ 22 บาท และมีค่าเข้าหาดประมาณ 80 บาท ตอนแรกเดินๆก็เฉยๆ แต่พอไปจุดไฮไลต์เท่านั้นแหละ สวยมากกกกก แบบ ก.ไก่ ล้านตัว น้ำข้างล่างใสเว่อร์ วิวใดๆคือโคตรจึ้ง เป็นหน้าผาแบบสูง Uluwatu ว่าสวยแล้ว ที่นี่สวยกว่า เพราะน้ำข้างล่างใสกว่า วิวอลังกว่า คุ้มกับ 80 มากจ่ายเถอะ ตอนแรกว่าจะเดินลงไปที่หาดด้านล่าง แต่คนถ่ายรูประหว่างทางเยอะ เลยพัก ไม่เอาดีกว่า เก็บแรงไปเที่ยวหาดอื่น เดินไปอีกนิดจะเจอ Atuh Beach แต่หาดนี้ไม่ค่อยมีอะไร เลยไม่เดินลงไป Kelingking Beach ที่ต่อมาเป็นหาดชื่อดังของเกาะ รู้จักในนามหาดทีเร็กซ์ เพราะวิวเหมือนไดโนเสาร์ ที่นี่มีค่าจอดรถ 22 บาท แต่ไม่มีค่าเข้าเพิ่ม เซอร์ไพร์สมาก เพราะคิดว่าค่าเข้าจะแพงฉ่ำ แต่ดันไม่มี หาดนี้สวยจริง วิวแบบเป็นเอกลักษณ์หาที่ไหนไม่ได้แล้วนอกจากที่นี่แหละ มีลิงด้วย ประทับอกประทับใจ แนะนำว่าเดินลงไปนิดนึง จะได้มุมถ่ายรูปที่ไม่มีคน เพราะส่วนมากคนจะเหนื่อย ไม่ค่อยเดินลงกันมากเท่าไหร่ Broken Beach ต่อมาเป็น Broken Beach หาดนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เป็นหาดที่เราชอบที่สุด เพราะมันดูแปลกดี หินทะลุ แล้วน้ำข้างล่างใสยิ่งกว่าใสสสส มีดอกไม้ตามทางด้วย มันดูมีชีวิตชีวา แบบเดินเพลิน ไม่เบื่อ Angel's Billabong ที่นี่จะอยู่ถัดจาก Broken Beach เดินถึงกันได้ไม่กี่นาที อยู่บริเวณเดียวกันเลย แต่ตรงนี้เราว่าไม่ค่อยมีอะไร ฟีลเหมือนมาดูน้ำขัง แต่น้ำก็ใสอยู่นะ ตรงนี้เมื่อก่อนเขาเคยให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำ แต่เหมือนมันเกิดอุบัติเหตุเยอะ แบบคลื่นซัดมา แล้วซัดนักท่องเที่ยวออกไป เสียชีวิตกันหลายคน ตอนนี้ก็เลยไม่อนุญาตให้ลงไปเล่นน้ำแล้ว แค่มาเดินเล่น ถ่ายรูปอย่างเดียว ตรงนี้ถ้าน้ำขึ้นอาจจะสวย แต่สำหรับเรา วันนี้ดูเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ จริงๆ เรายังสามารถเลือกไปต่อได้อีก แต่แค่ 4 จุดนี้เราก็ว่าคุ้มมากละ แค่นี้ก็สวยตาแตก เก็บจุด Signature มาครบหมดแล้ว ก็เลยกลับท่าเรือเลย แล้วก็เก็บแรงไว้หาเที่ยววันพรุ่งนี้ต่อ สำหรับทริปเกาะ Nusa Penida คือ Completed ในการมาบาหลีมาก สวยคุ้ม ไม่รู้จะติอะไรดี ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ประทับใจทุกตรง Day 4 เที่ยวบนฝั่ง วันที่เราไปเดินแถวๆหาดกูตามา เราก็ไปซื้อทัวร์มาด้วย เป็นทัวร์ตามใจฉัน รถพร้อมคนขับ ได้มาในราคา 1,800 แบบเหมาคัน แต่เรามีกัน 2 คน ถ้ามากับกลุ่มเพื่อนคือโคตรคุ้ม หารกันได้ถูกกว่านี้ อันนี้คือเราจ่ายมัดจำไปก่อน 400 บาท แล้ววันที่เขามารับค่อยจ่ายที่เหลือ เราสามารถจัดแจงได้เองเลยว่าจะไปที่ไหน Tanah lot จุดแรกในวันนี้ของเราก็จะเป็นวัด Tanah lot เพราะอยู่ใกล้ที่พักมากสุด อยากแวะสักหน่อย บวกกับเวลาอ่านบทความไปเที่ยวบาหลี ต้องมีชื่อวัดนี้ติดสอยห้อยตามมาตลอด ก็เลยจัดเลย ตัววัดมีค่าเข้า 160 บาท (75,000 IDR) จุดไฮไลต์ของวัดนี้ก็จะเป็นวัดกลางน้ำ วันที่เรามาน้ำขึ้นก็จะเห็นเหมือนวัดอยู่กลางน้ำ แต่ถ้าน้ำลงก็จะมีแนวหินที่เราสามารถเดินข้ามไปที่ตัววัดได้ วัดนี้หลักๆเลยคือแค่มาถ่ายรูป กับดูตัววัดที่อยู่กลางน้ำ เพราะจุดบูชาและหลายๆจุดก็มีปิดไม่ให้เข้า ซึ่งทำได้จริงๆ ก็แค่มาถ่ายรูป ไม่ได้เห็นอะไรเยอะ แล้วก็ที่เราประทับใจสุดของวัดนี้ คงเป็นหินทะลุอีกด้านนึงของวัด มันดูเป็นเอกลักษณ์ดี เขาว่ากันว่าเหมาะกับการมาดูพระอาทิตย์ตก ส่วนโดยรวมเราคิดว่าที่นี่ยังเฉยๆ แต่ถ้าใครชอบถ่ายรูปก็อาจจะคุ้ม แต่คือเราได้มาเห็นของจริงกับตา หลังที่เห็นผ่านรูปมานาน ก็เลยพอใจละ Leke Leke Waterfall ที่ต่อมาคือไม่รู้จักมาก่อน ไม่มีแพลนใดๆว่าจะมา แต่คือเป้าหมายหลักวันนี้เราจะมาดูวัด ดูวัฒนธรรมเป็นหลัก แต่ก็รู้สึกอยากคั่นด้วยธรรมชาติสักนิด เลยให้คนขับรถแนะนำเลย เขาก็แนะนำน้ำตก Leke Leke เพราะเป็นทางผ่านพอดี เราก็โอเค ไปไหนก็ไป ขอแค่ได้ดูธรรมชาติ พอมาถึงก็จ่ายค่าเข้าก่อนเลย 108 บาท (50,000 IDR) แล้วก็จะมีทางเดินลงไปอย่างดิบดี ระหว่างทางก็ผ่านลำธารใดๆ พอมาถึงน้ำตก โอ้โห ดีกว่าที่คิดดด ปกติไม่ใช่คนชอบน้ำตก แต่ที่นี่คือ สงบ บรรยากาศดี คนน้อย มันแบบดูใกล้ชิดกับธรรมชาติ ดูเป็นน้ำตกลึกลับที่ซ่อนอยู่กลางป่า น้ำไม่ลึกด้วย ไปๆมาๆ คือชอบที่นี่มากกกก คุ้มสุดๆ เป็นสถานที่ที่ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่ประทับใจมากกกก ไม่มีอะไรจะติเลย ต้องขอบคุณคนขับ ที่ทำให้เราได้รู้จักที่นี่ Handara Gate ที่ต่อมา เป็นที่ที่เราอยากมาที่สุด แบบคือแค่อยากมาตรงนี้จริงๆวันนี้ ที่นี่คือ Handara Gate มีค่าเข้า 108 บาทเช่นกัน (50,000 IDR) ต้องบอกก่อนว่าถ้าใครที่ไม่ชอบถ่ายรูปคือข้ามไปได้เลย เพราะที่นี่เสียค่าเข้าเพื่อมาถ่ายรูปจริงๆ ไม่มีอะไรเลย มีแค่ประตูจริงๆ วันที่มาคือฝนตกด้วย แต่แคร์ไหม ก็ไม่ เพราะที่นี่ถ่ายอากาศแบบไหนก็สวย ยิ่งฝนตกยิ่งดูขลัง ตรงบัตรทางเข้าจะมีเลขคิว เพื่อให้เราไปถ่ายรูปตามคิว แล้วก็จะจ้างหรือไม่จ้างตากล้องก็ได้ แต่เราจ้าง เพราะแค่ 22 บาทเอง (10,000 IDR) แล้วรูปที่ได้คือสวย คุ้มอะ ประทับใจกับตากล้องมาก 22 บาทได้ขนาดนี้ แล้วพึ่งมารู้ทีหลังว่าตรงนี้เป็นประตูทางเข้าสนามกอล์ฟ เซอร์ไพรส์มาก แต่ใดๆ มุมนี้ก็ถือเป็นอีกมุม Signature ที่สื่อถึงบาหลีได้เหมือนกัน สำหรับเราคือคุ้ม แต่ถ้าใครไม่ชอบถ่ายรูป ก็อาจจะมองว่าไม่คุ้มนะ เพราะมีแค่ประตูนี้จริงๆตรงนี้ Ulun Danu Beratan ปิดท้ายด้วยที่นี่ Ulun Danu Beratan เป็นวัดที่มีอยู่ในทุกโปสเตอร์ท่องเที่ยวของบาหลี และในที่สุดก็ได้มาเห็นของจริง ราคาค่าเข้าอยู่ที่ 160 บาท (75,000 IDR) เข้าไปด้านในจะได้ยินเสียงบันเลงเพลงดนตรีตลอดทาง มีตัววัดที่เป็นเอกลักษณ์ ชอบหลังคาวัดของที่นี่มาก และจุดไฮไลต์ก็คือวิหารที่มีหลังคาทรงสูง ทำมาจากเศษฟาง เศษหญ้า เชื่อกันว่าความสูงแต่ละระดับชั้นก็จะมีความหมายต่างกัน อย่างเช่นที่นี่สูง 11 ชั้น ก็ถือว่าสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเทพ และที่นี่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Beratan ทะเลสาบสำคัญแห่งนึงของบาหลี ฉากหลังเป็นภูเขา คือโคตรสวยยยย ไม่แปลกใจทำไมถึงถูกใส่ไว้ในโปสเตอร์ โดยรวมคือดี สำหรับวันนี้ก็ไปมาแค่ 4 สถานที่ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากๆ ในราคา 1,800 บาท เพราะไม่ต้องขับรถเอง ไม่ต้องรีบร้อน เหมือนเที่ยวเองตามใจฉัน แต่มีคนขับรถให้ แล้วแต่ละสถานที่ก็คือคุ้ม บาหลีคือมีครบทุกอย่างจริงๆ ส่วนวันที่ 5 ก็เป็นวันที่เราเดินทางกลับไทย ก็เลยไม่ได้ทำไรมาก แค่เดินริมหาดกูตา หาของกิน โดยรวมสำหรับบาหลี เราว่าเป็นอีกหนึ่ง destination ที่ควรมา เพราะมันสวยมาก และไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่วัฒนธรรมเขาก็เด่น ผู้คนใจดี ของถูก คือมันครบเครื่องมากๆ วันหยุดน้อยๆก็มาได้อ่ะ คุ้ม เป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจเกินคาด ถ้าจะติดก็ติดแค่การจราจรในบาหลีที่ค่อนข้างแย่ถึงแย่ที่สุด แบบรถติด และถนนแคบ ใครขี่รถไม่แข็งอาจเกิดอันตรายได้ ยิ่งรถยนต์ยิ่งหมดสิทธิ์จะแซง เพราะถนนแคบสุดๆ และก็ทุกสถานที่จะมีค่าเข้าเกือบหมด แต่ก็เป็นราคาที่รับได้สำหรับชาวต่างชาติอย่างเราๆ รวมถึงจะมีที่จอดรถทุกที่เลย สรุปค่าใช้จ่าย (แบบไม่หารอะไรเลย) ตั๋วเครื่องบิน : เราได้มา 6,000 บาท (ราคาปกติ 6-8000 บาท) โรงแรม 4 คืน : 2,254.80 บาท ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์รายวันวันละ 200 บาท เราเช่า 2 วัน : 400 บาท ค่าน้ำมัน 2 วัน : 120 บาท Esim Indonesia : 293 บาท (unlimited internet จองผ่าน klook) ทัวร์เกาะ Nusa Penida : 3,079 บาท (ราคาคนเดียวอยู่ที่ 2,400 รวมเรือ) ค่าเช่ารถพร้อมคนขับบนฝั่ง : 1,800 บาท ค่าเข้าทุกสถานที่+ค่าจอดรถ : 989 บาท ค่ากิน 5 วัน : 1,500 บาท Taxi สนามบิน-โรงแรม : 440 บาท Grab โรงแรม-สนามบิน : 90 บาท รวม 16,965.8 บาท นี่คือราคาต่อคนแบบไม่หารจริงๆ ถ้าหารค่าโรงแรม ค่ารถ บอกเลยว่าถูกได้มากกว่านี้อีก ถ้าใครคิดไรไม่ออก อยากหาที่ฮีลใจใกล้ไทย ทะเลท่าสวย ไปบาหลีค่า ถ้าใครอยากเห็นภาพแบบเป็นคลิป ติดตามได้ที่ YouTube ช่อง Travel the Story : https://www.youtube.com/@TraveltheStory Google Maps โรงแรม ท่าเรือ Sanur Nusa Penida วัด Uluwatu Suluban Beach Kuta Beach Tanah lot Leke Leke Waterfall Handara Gate Ulun Danu Beratan Credit รูปภาพทั้งหมดโดย : Travel the Story อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !