สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคน วันนี้ผู้เขียน พาไปเที่ยวสถานที่แห่งหนึ่งที่บ้านเกิดของผู้เขียน สถานที่แห่งนั้นก็คือ วัดป่าภูก้อน เราออกเดินทางจากกรุงเทพที่สนามบินดอนเมือง เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติอุดรธานี สิ่งแรกที่มาถึงอุดรคือกินก่อนเลย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง อย่างแรกคือไข่กระทะร้านเอมโอช แล้วเข้าไปเก็บกระเป๋าที่บ้าน เตรียมตัวออกเดินทางไปวัดป่าภูก้อนกันเลย โดยใช้เส้นทางอุดรธานี ไปอำเภอนายูง ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาชนิดทำให้จิตใจเบิกบานนัก รู้สึกถึงความเชียวชอุ่มของต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขา ยิ่งใกล้ถึงต้นไม้ก็หนาแน่นมากขึ้น เรามาถึงทางขึ้นวัดป่าภูก้อน เราต้องจอดรถไว้ เพื่อใช้บริการของรถโดนสารในพื้นที่ เพราะต้องไต่เขาขึ้นไปด้านบน ต้องเป็นรถที่ชำนาญการในพื้นที่เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร วัดป่าภูก้อน ถือเป็นอันซีนแห่งหนึ่งในประเทศไทย ตั้งอยู่บนเขตป่าสงวนนายูง-น้ำโสม เป็นรอยต่อของพื้นที่สามจังหวัด ได้แก่ อุดร เลย หนองคาย วัดป่าภูก้อนสร้างบนเนื้อที่ 15 ไร่ ของกรมป่าไม้ และโดยรอบวัดได้เป็นจัดตั้งเป็นพุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติ มีเนื้อที่กว่าสามพันไร่ ช่วยกันดูแลทรัพยากรป่าไม้ และฟื้นฟูสภาพ ต้นไม้ ให้สวยงาม เราเข้ากราบนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคล พระพุทธไสยาสน์โลกนาถ ศาสดามหามุนี เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ทำจากหินอ่อนสีขาว จากประเทศอิตาลี มีความยาวประมาณ 20 เมตร ช่างงดงามยิ่งนัก ใช้เวลาสร้างเกือบ 6 ปี ตั้งแต่ปี 2549-2555 ด้วยงบห้าร้อยล้านบาท และที่วัดป่าภูก้อน ยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ให้แก่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา มาฝึกปฏิบัติธรรมรักษาศีล เราเดินเล่นรอบ ๆ วัดแล้วก็ไปตีระฆังให้ดังกังวาล เดินชมทัศนียภาพที่งดงาม สุดลูกหูลูกตา เกินจะบรรยายได้ ความเย็นมาจากไหนไม่ทราบได้กระทบเข้ากับผิวหนังของเรา จนรู้สึกได้ถึงข้างในร่างกาย เราเองก็บอกไม่ถูกถึงความรู้สึกนั้น ได้แต่ขนแขนซู่ไปทั้งร่างกายได้แต่ยกมือพนมท่วมหัวแล้วพูดว่าสาธุ สาธุ สาธุ คิดในใจน่าจะเกิดจากแรงศรัทธาที่ทำให้ได้มาถึงที่นี่ในวันนี้ วัดป่าภูก้อน เกิดจากพุทธบริษัท ที่มีความรักห่วงแหนในผืนป่าและแม่น้ำลำธารที่เริ่มถูกทำลาย โดยมีผู้ไม่หวังดี เข้าไปลักลอบตัดไม่ทำลายป่า จึงต้องการที่จะปกป้องพื้นป่าตามรอยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และให้เป็นที่สถานที่รักษาพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ต้นน้ำ เราก็เป็นลูกหลานคนหนึ่งของอุดรก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากร เพื่อให้เป็นมรดกตกทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป เรื่องและภาพนิ้วเราไม่เท่ากัน