รีวิววัดนิเวศธรรมประวัติ อยุธยา – วัดสไตล์โกธิคแห่งเดียวในไทย ถ้าพูดถึง “อยุธยา” ภาพแรกในหัวของใครหลายคนคงเป็นวัดเก่าแก่ซากโบราณสถานที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ เช่น วัดมหาธาตุที่มีเศียรพระพุทธรูปอยู่ในรากไม้ วัดไชยวัฒนารามที่ยิ่งใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือวัดพนัญเชิงที่เป็นศูนย์รวมศรัทธา แต่ในความเป็นจริง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่ได้มีเพียงแค่วัดโบราณยุคกรุงศรีฯ เท่านั้น ยังมีวัดหนึ่งที่โดดเด่น แตกต่างจนบางคนถึงกับตกใจเมื่อได้เห็นครั้งแรก เพราะมันเหมือน “โบสถ์คริสต์ในยุโรป” มากกว่าจะเป็นวัดไทย วัดนั้นก็คือ “วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร” วัดพุทธที่มีสถาปัตยกรรมโกธิคเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน นับว่าเป็นวัดประจำพระราชวังบางปะอิน และถือเป็นอนุสรณ์แห่งการปฏิรูปประเทศในสมัยรัชกาลที่ 5 วันนี้ผมจะพาคุณไปเจาะลึกทุกมุมของวัดนิเวศธรรมประวัติ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์การสร้าง ความงดงามทางสถาปัตยกรรม ไฮไลต์ที่ห้ามพลาด วิธีการเดินทาง บรรยากาศจริง รวมไปถึงความประทับใจส่วนตัวที่ได้ไปเยือน เพื่อให้คุณเห็นภาพและพร้อมออกเดินทางตามรอย ประวัติความเป็นมา: จากพระราชดำริของรัชกาลที่ 5 จุดเริ่มต้นของวัด วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหารถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2421 (ตรงกับ ค.ศ. 1878) ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็น วัดประจำพระราชวังบางปะอิน ในยุคนั้น รัชกาลที่ 5 กำลังพยายามปฏิรูปประเทศให้ก้าวทันโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง เศรษฐกิจ การศึกษา หรือศิลปวัฒนธรรม พระองค์เสด็จประพาสยุโรปหลายครั้ง และทรงได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและสถาปัตยกรรมตะวันตก โดยเฉพาะโบสถ์แบบโกธิคที่มีความงดงามโดดเด่น เมื่อเสด็จกลับสู่สยาม พระองค์ทรงมีพระราชดำริว่า ควรมีวัดที่สะท้อนแนวคิดการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกกับความศรัทธาพุทธศาสนา วัดนิเวศธรรมประวัติจึงถือกำเนิดขึ้นบนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือว่าเป็นทำเลที่สงบและมีเอกลักษณ์ ชื่อวัด ชื่อ “นิเวศธรรมประวัติ” มีความหมายว่า “ที่พำนักแห่งธรรมะซึ่งเป็นอนุสรณ์แห่งความดีงาม” เป็นชื่อที่สะท้อนความตั้งใจของรัชกาลที่ 5 ที่จะให้วัดนี้เป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และหลักฐานประวัติศาสตร์ของยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง สถาปนิกผู้ออกแบบ การก่อสร้างวัดนี้ได้รับการออกแบบโดย Joachim Grassi (ยาค็อบ กราสซี) สถาปนิกชาวอิตาเลียนที่ทำงานในสยามช่วงนั้น เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมยุโรป โดยเฉพาะสไตล์โกธิค ทำให้วัดนิเวศธรรมประวัติกลายเป็นผลงานที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว สถาปัตยกรรมและงานศิลป์ที่โดดเด่น 1. พระอุโบสถสไตล์โกธิค ลักษณะเป็นโบสถ์ทรงโกธิคแบบตะวันตก มียอดแหลมสูง ด้านนอกประดับด้วยซุ้มโค้งแหลม (Pointed Arch) ด้านในประดิษฐาน พระพุทธนฤมลธรรโมภาส พระประธานปางมารวิชัย ผนังประดับกระจกสี (Stained Glass) ที่เล่าเรื่องราวพุทธประวัติ เมื่อแสงแดดส่องผ่านจะเกิดแสงสีสวยงามอลังการ 2. กระจกสี (Stained Glass) หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของวัดนี้คือกระจกสีที่ตกแต่งภายในอุโบสถ คล้ายโบสถ์คริสต์ยุโรป แต่แทนที่จะเป็นภาพพระเยซูหรือเรื่องราวในไบเบิล กลับเป็นภาพ พระพุทธเจ้าและพุทธประวัติ เป็นการผสมผสานที่หาไม่ได้จากที่อื่น 3. หอระฆังและอาคารประกอบ หอระฆังสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคเช่นเดียวกับอุโบสถ มียอดแหลมสีทองสวยงาม รายล้อมด้วยอาคารย่อยที่ออกแบบสอดคล้องกัน ทำให้ทั้งวัดมีเอกภาพ 4. สะพานแขวนและกระเช้าข้ามแม่น้ำ เสน่ห์พิเศษของวัดนี้คือ การเดินทางไปวัด เพราะตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำ นักท่องเที่ยวต้องนั่งกระเช้าไฟฟ้าข้ามเจ้าพระยาจากพระราชวังบางปะอิน ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นและโรแมนติกไปในตัว ประสบการณ์จริง: เมื่อก้าวเข้าสู่วัดนิเวศธรรมประวัติ ครั้งแรกที่ผมไปเยือน สิ่งที่สะดุดตาคือ ภาพของอุโบสถสีเหลืองส้มสดใส ที่ตั้งอยู่กลางเกาะ ดูเหมือนโบสถ์คริสต์ยุโรปมากกว่าวัดไทยจริง ๆ บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสงบ ลมพัดเย็นเพราะถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา การนั่งกระเช้าข้ามไปเป็นอะไรที่ตื่นเต้นเล็ก ๆ เพราะกระเช้าเล็ก ๆ แขวนบนสลิง เคลื่อนช้า ๆ ข้ามน้ำ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดออกจากโลกภายนอกไปสู่อีกพื้นที่หนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในอุโบสถ ความรู้สึกแรกคือ “ว้าว!” เพราะมันไม่เหมือนวัดไทยที่เคยเห็นมาเลย ทั้งเพดานสูงโค้งแบบโกธิค หน้าต่างกระจกสีที่แสงแดดลอดผ่านเป็นลายหลากสีสัน และบรรยากาศที่สงบจนเหมือนอยู่ในโบสถ์คริสต์ เพียงแต่เบื้องหน้าไม่ใช่ไม้กางเขน แต่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่งดงามมาก บรรยากาศรอบวัดร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่และเสียงนก รู้สึกได้ถึงความสงบที่แตกต่างจากวัดในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด พระพุทธนฤมลธรรโมภาส – พระประธานในอุโบสถ หน้าต่างกระจกสี – แสงสวยงามเมื่อถูกแดดส่อง หอระฆังโกธิค – จุดถ่ายรูปยอดฮิต สะพานแขวนและกระเช้าไฟฟ้า – การเดินทางสุดยูนีค วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา – บรรยากาศเย็นสบาย การเดินทาง รถยนต์ส่วนตัว: ขับจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าบางปะอิน ใช้เวลา ~1.5 ชั่วโมง รถไฟ: ลงสถานีบางปะอิน แล้วต่อรถสองแถวไปพระราชวังบางปะอิน แพ็กเกจทัวร์: บางบริษัทมีทริปล่องเรือเจ้าพระยาแวะที่นี่ด้วย เคล็ดลับสำหรับผู้มาเยือน ควรไปช่วงเช้าเพื่อแสงแดดที่ส่องกระจกสีสวยที่สุด แต่งกายสุภาพเรียบร้อย แนะนำเที่ยวคู่กับ พระราชวังบางปะอิน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หากชอบถ่ายรูป ควรเตรียมเลนส์มุมกว้างเพื่อเก็บภาพภายในอุโบสถ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็น วัดพุทธสไตล์โกธิคแห่งเดียวในไทย เป็น วัดประจำพระราชวังบางปะอิน ในรัชกาลที่ 5 สะท้อน ความคิดเปิดกว้างสู่โลกตะวันตก เป็น ผลงานศิลป์ระดับโลก ที่ผสมผสานตะวันตกกับพุทธศาสนาได้อย่างลงตัว สรุปความประทับใจ การมาเยือนวัดนิเวศธรรมประวัติทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทางข้ามเวลาไปยังยุคที่ประเทศไทยกำลังเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ จากโลกตะวันตก ที่นี่ไม่ใช่แค่วัด แต่คือ “สัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลง” ที่บอกเล่าความกล้าหาญของรัชกาลที่ 5 ในการนำความทันสมัยมาสู่บ้านเมือง ใครที่เบื่อวัดสไตล์เดิม ๆ อยากเห็นอะไรที่แปลกใหม่และเต็มไปด้วยเรื่องราว วัดนิเวศธรรมประวัติ คือหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาอยุธยา #วัดนิเวศธรรมประวัติ #วัดสไตล์โกธิคแห่งเดียวในไทย #ไหว้พระอยุธยา #ไหว้พระทำบุญ #เที่ยววัดอยุธยา บทความและรูปภาพทั้งหมดมาจากเพจ The KING เดอะคิงส์ ให้การเดินทางของเราเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางของคุณ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !